New Southbound Policy Portal

การประชุมไตรภาคีว่าด้วยความมั่นคงในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ระหว่างไต้หวัน-สหรัฐฯ-ญี่ปุ่น ประจำปี 2021 เปิดฉากขึ้นที่กรุงไทเป ถ่ายทอดให้เห็นถึงแนวคิดการธำรงรักษาประชาธิปไตยและเสรีภาพ ระหว่างไต้หวัน สหรัฐ และญี่ปุ่น อย่างหนักแน่น

กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 14 ธ.ค. 64
 
กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้มอบหมายให้คลังสมองของไต้หวัน สหรัฐฯ และญี่ปุ่น ร่วมจัดการประชุมไตรภาคีว่าด้วยความมั่นคงในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ระหว่างไต้หวัน-สหรัฐฯ-ญี่ปุ่น ประจำปี 2021 (2021 Taiwan-US-Japan Trilateral Indo-Pacific Security Dialogue) ขึ้นในกรุงไทเป เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ภายใต้หัวข้อ “การจัดวางตารางประชาธิปไตยสำหรับคนรุ่นต่อไป” (Mapping the Democratic Agenda for the Next Generation) โดยมีประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เข้าร่วมกล่าวปราศรัยในพิธีเปิดการประชุม นอกจากนี้ ยังมีนายชินโซ อาเบะ (ABE Shinzo) อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น Mr. Scott BUSBY รักษาการรองผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ฝ่ายกิจการประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชนและแรงงาน และ Mr. Robert O’BRIEN อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติในทำเนียบขาวแห่งสหรัฐฯ ทยอยเข้าร่วมกล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อพิเศษ นอกจากนี้ สมาชิกรัฐสภาของไต้หวัน สหรัฐฯ และญี่ปุ่น ต่างเข้าร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในเชิงลึกในระหว่างการประชุมครั้งนี้ด้วย
 
ในระหว่างการปราศรัย ปธน.ไช่ฯ กล่าวขอบคุณรัฐบาลสหรัฐฯ และญี่ปุ่น โดยระบุว่า ในช่วงวิกฤตโรคระบาดในไต้หวันที่ผ่านมา ทั้งสองประเทศได้ร่วมบริจาควัคซีนรวมเป็นจำนวน 8.2 ล้านโดสให้ไต้หวันในยามที่ไต้หวันต้องการมากที่สุด เพื่อให้ความช่วยเหลือในการสกัดกั้นสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 โดยปธน.ไช่ฯ ยังได้ระบุอีกว่า ไต้หวันยังได้รับเชิญให้เข้าร่วม “การประชุมสุดยอดประชาธิปไตย” เพื่อแบ่งปันเรื่องราวความสำเร็จด้านความยืดหยุ่นและแข็งแกร่ง ตลอดจนประชาธิปไตยของไต้หวันให้เป็นที่ประจักษ์แก่ประชาคมโลก ซึ่งไต้หวันจะใช้โอกาสนี้ในการเน้นย้ำจุดยืนอย่างชัดเจนว่า ไม่ว่าแรงกดดันจากภายนอกจะถาโถมเข้ามามากเพียงใด ก็ไม่สามารถทำให้คำมั่นและความพยายามของไต้หวันในการประสานความร่วมมือกับกลุ่มประเทศประชาธิปไตย ในการร่วมธำรงรักษาเสรีภาพและสิทธิมนุษยชน เกิดความสั่นคลอนได้
 
อดีต นรม.อาเบะได้เข้าร่วมกล่าวสุนทรพจน์ผ่านการบันทึกวิดีทัศน์ล่วงหน้า โดยได้เน้นย้ำว่าหากไต้หวันและระบอบประชาธิปไตยถูกคุกคามจากรัฐบาลจีน จะส่งผลให้ทั่วโลกโดยเฉพาะญี่ปุ่นเผชิญกับความท้าทายในระยะประชิด ด้วยเหตุนี้ ทั้งสามประเทศจึงควรที่จะเร่งเสริมสร้างศักยภาพในทุกด้านอย่างต่อเนื่อง โดยรัฐบาลญี่ปุ่นจะให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมองค์การระหว่างประเทศอย่างองค์การอนามัยโลก (WHO) รวมถึงองค์การอื่นๆ อย่างหนักแน่นต่อไป
 
Mr. BUSBY รักษาการรองผู้ช่วยรมว.กต.สหรัฐฯ ฝ่ายกิจการประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชนและแรงงาน ชี้แจงขณะกล่าวสุนทรพจน์ว่า ความสำเร็จด้านประชาธิปไตยของไต้หวัน นับว่าเป็นต้นแบบของนานาประเทศในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก
 
Mr. Robert O’BRIEN อดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติในทำเนียบขาวแห่งสหรัฐฯ เน้นย้ำว่า การรับมือและต่อต้านภัยคุกคามจากรัฐบาลจีนในด้านเศรษฐกิจ การข่มขู่ด้วยกำลังทหารและการเมือง ไต้หวันถือได้ว่ามีบทบาทสำคัญในภูมิภาคอินโด - แปซิฟิก พร้อมให้คำชี้แนะแก่รัฐบาลสหรัฐฯ ว่าควรเร่งเสริมสร้างความร่วมมือกับไต้หวันในการสกัดกั้นจีนเข้ารุกรานไต้หวัน ตลอดจนคาดหวังที่จะเห็นนานาประเทศทั่วโลกเร่งเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนกับไต้หวันอย่างต่อเนื่องต่อไป
 
การประชุมในครั้งนี้จัดขึ้นในรูปแบบไฮบริด ทั้งการเข้าร่วมในสถานที่จัดการประชุมและเข้าร่วมการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ พร้อมขานรับ “การประชุมสุดยอดประชาธิปไตย” ที่จัดโดยสหรัฐฯ เพื่อร่วมอภิปรายกันถึงประเด็นโอกาสและความท้าทายของหลักธรรมาภิบาลแบบประชาธิปไตยในยุคดิจิทัล รวมไปถึงห่วงโซ่อุปทานด้านประชาธิปไตย เป็นต้น โดยในการประชุมครั้งนี้ มีสมาชิกรัฐสภา ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการจากทั้งไต้หวัน สหรัฐฯ และญี่ปุ่นเข้าร่วมหารือกันอย่างคึกคัก โดยผู้ร่วมบรรยายต่างร่วมเรียกร้องให้กลุ่มประเทศประชาธิปไตยเสริมสร้างความร่วมมือซึ่งกันและกัน พร้อมให้การสนับสนุนประชาธิปไตยของไต้หวัน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการธำรงรักษาค่านิยมประชาธิปไตย และความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนอันแข็งแกร่งระหว่างไต้หวัน สหรัฐฯ และญี่ปุ่น