New Southbound Policy Portal

กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 18 ธ.ค. 64
 
นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ให้สัมภาษณ์ผ่านลายลักษณ์อักษรแก่ Mr. Gianni Vernetti คอลัมนิสต์ด้านกิจการระหว่างประเทศของหนังสือพิมพ์ La Repubblica ของอิตาลี โดยได้ชี้แจงต่อกรณีที่รัฐบาลจีนแสดงพฤติกรรมข่มขู่ไต้หวันและประชาธิปไตยทั่วโลก รวมถึงประเด็นแนวทางการป้องกันโควิด – 19 ของไต้หวัน และการสร้างคุณประโยชน์ด้านการจัดการห่วงโซ่อุปทานด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงของไต้หวันที่มีต่อประชาคมโลก โดยบทสัมภาษณ์ดังกล่าวถูกตีพิมพ์เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ที่ผ่านมา
 
รมว.อู๋ฯ ชี้แจงว่า เมื่อเผชิญหน้ากับการข่มขู่ด้วยกำลังทหารหรือสงครามข้อมูลข่าวสารทางไซเบอร์ของรัฐบาลจีน ไต้หวันตั้งอยู่ในแนวหน้าของการต่อต้านระบอบเผด็จการ นับเป็นปราการด่านแรกที่สำคัญของกลุ่มประเทศประชาธิปไตย โดยไต้หวันจะยึดมั่นในการธำรงรักษาประชาธิปไตยและเสรีภาพอย่างหนักแน่นต่อไป
 
รมว.อู๋ฯ กล่าวว่า ไต้หวันจะเร่งเสริมสร้างศักยภาพด้านการป้องกันประเทศอย่างต่อเนื่อง และเร่งพัฒนาแสนยานุภาพทางการทหารที่ขาดความสมดุล พร้อมทั้งยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เห็นว่า “กติกาสัญญาความมั่นคงไตรภาคีระหว่างประเทศออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐ” (AUKUS) และ “การรวมกลุ่มเจรจาด้านความมั่นคงปลอดภัยระหว่างภาคี 4 ประเทศ” (QUAD) ร่วมแสดงความห่วงใยต่อสันติภาพในพื้นที่สองฝั่งช่องแคบไต้หวัน ตลอดจนคาดหวังที่จะเร่งเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนกับประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน เพื่อร่วมธำรงรักษาภูมิภาคอินโด – แปซิฟิกที่เปิดกว้างอย่างเสรี และยึดมั่นในความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศ ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของกฏกติกาสากล ทั้งนี้ เพื่อรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคให้คงอยู่สืบไป
 
ในช่วงเริ่มต้นของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ไต้หวันได้ประยุกต์ใช้ประสบการณ์ด้านการป้องกันโรคซาร์สที่แพร่ระบาดเมื่อปี 2003 ผนวกเข้ากับเทคโนโลยีของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงในประเทศ วิจัยและพัฒนาจนก่อให้เกิดเป็นความสามารถในการรับมือกับโรคระบาด ซึ่งประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องมีส่วนช่วยในการป้องกันโรคระบาดทั่วโลก ซึ่งสมควรที่จะนานาประเทศจะยึดเป็นต้นแบบในการเรียนรู้ต่อไป
 
รมว.อู๋ฯ เน้นย้ำว่า ศักยภาพด้านเศรษฐกิจการค้าและเทคโนโลยีของไต้หวันมีประสิทธิภาพสูง โดยเฉพาะเซมิคอนดักเตอร์ที่มีบทบาทสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ในห่วงโซ่อุปทานระดับโลก โดยการรับจ้างผลิตแผ่นวงจรรวมของไต้หวันครองสัดส่วนตลาดโลกกว่าร้อยละ 65 นอกจากนี้ ไต้หวันยังได้มุ่งมั่นในด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 5G เทคโนโลยี AI พลังงานหมุนเวียนและเทคโนโลยีชีวภาพ เป็นต้น โดยคาดหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเร่งเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ร่วมกับประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน ซึ่งการประสานความร่วมมือกับกลุ่มประเทศประชาธิปไตยทั่วโลก สอดคล้องกับผลประโยชน์ทางยุทธศาสตร์ของประเทศ
 
สำหรับประเด็นการก้าวสู่การเป็นประเทศประชาธิปไตยของจีนในภายภาคหน้า รมว.อู๋ฯ กล่าวว่า หากจีนยินยอมก้าวสู่เส้นทางการปฏิรูปประชาธิปไตย จะเป็นประโยชน์แก่ประชาชนชาวจีนเป็นอย่างมาก
 
นสพ. La Repubblica จัดตั้งขึ้นในปี 1976 ณ กรุงโรม ถือเป็นหนังสือพิมพ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในอิตาลี ซึ่งผู้อ่านส่วนใหญ่เป็นปัญญาชนมาจากแวดวงการเมืองและวิชาการในยุโรปและสหรัฐฯ โดยรายงานข่าวได้รับการรีโพสต์จากสื่อแนวหน้าในกลุ่มประเทศยุโรป นับเป็นสื่อที่ทรงอิทธิพลเป็นอย่างมาก