New Southbound Policy Portal
กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 23 ก.พ. 65
เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ที่ผ่านมา นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้สัมภาษณ์แก่ Mr. Mark Esper อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของสหรัฐอเมริกา ซึ่งปัจจุบันเป็นนักวิจัยดีเด่นในสถาบัน McCain Institute ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยรมว.อู๋ฯ เน้นย้ำว่า ขณะนี้อำนาจเผด็จการกำลังแผ่ขยายไปทั่วโลก ซึ่งทุกคนล้วนรับทราบกันดีถึงอันตรายและวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นตามมา โดยไต้หวันจะเสริมสร้างความร่วมมือในเชิงลึกกับสหรัฐฯ และกลุ่มประเทศประชาธิปไตยที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน เพื่อสร้างหลักประกันให้ไต้หวันที่เป็นประชาธิปไตยในการคว้าชัยชนะมาครองในท้ายที่สุด
รมว.อู๋ฯ ชี้ว่า ไต้หวันตั้งอยู่แนวหน้าในการเผชิญหน้ากับการแผ่ขยายอำนาจเผด็จการ รัฐบาลและประชาชนชาวไต้หวันต่างตระหนักถึงหน้าที่ความรับผิดชอบที่ต้องปกป้องรักษาดินแดนและระบอบประชาธิปไตย ซึ่งเปี่ยมด้วยนัยยะที่สำคัญสำหรับกลุ่มประเทศประชาธิปไตยเป็นอย่างมาก โดยไต้หวันจะเร่งพัฒนาแสนยานุภาพทางการทหารที่ขาดความสมดุล ตลอดจนยกระดับศักยภาพด้านการป้องกันประเทศให้เกิดความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ความเข้าใจต่อ “นโยบายจีนเดียว” ของสหรัฐฯ และนานาประเทศ และ “หลักการจีนเดียว” ตามนิยามของรัฐบาลจีน มีความแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง กลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงต่างเข้าใจว่าไต้หวันที่เป็นประชาธิปไตยและจีนที่เป็นเผด็จการ มิได้เป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน จึงตัดสินใจที่จะร่วมแลกเปลี่ยนและประสานความร่วมมือกับไต้หวัน ภายใต้พื้นฐานแนวคิดนี้
ต่อกรณีที่ไต้หวันขอเข้าร่วม “ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก” (Comprehensive and Progressive Agreement of Trans-Pacific Partnership, CPTPP) รมว.อู๋ฯ เน้นย้ำว่า ไต้หวันเร่งผลักดันเข้าร่วมกลไกการบูรณาการเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค ซึ่งสอดคล้องกับเกณฑ์มาตรฐานขั้นสูงของ CPTPP คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่าประเทศสมาชิก CPTPP จะร่วมพิจารณาให้ไต้หวันได้รับสิทธิ์ในการเข้าร่วมกลุ่ม CPTPP โดยเร็ววัน นอกจากนี้ หากมีการร่วมลงนาม “ความตกลงการค้าเสรี (FTA)” ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ จะมีส่วนช่วยในการสร้างตำแหน่งงานในสหรัฐฯ ได้เพิ่มมากขึ้นไปด้วย