New Southbound Policy Portal

กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 11 มี.ค. 65
 
กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ชี้แจงต่อกรณีที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ประกาศยอมรับหนังสือรับรองการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคโควิด – 19 แบบดิจิทัลของไต้หวัน ดังนี้
 
ตามรายงานการประชุมเมื่อวันที่ 10 มี.ค. ที่ผ่านมา ของ “คณะทำงานร่วมเพื่อการบริหารจัดการโรคติดต่ออุบัติใหม่แห่งฟิลิปปินส์” (IATF-MEID) ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลฟิลิปปินส์ นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป รัฐบาลฟิลิปปินส์จะยอมรับ “หนังสือรับรองการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคโควิด – 19 แบบดิจิทัล” (Digital COVID-19 Certificate) และ “เอกสารรับรองการฉีดวัคซีนเพื่อเดินทางระหว่างประเทศ” (หรือใบเหลือง) ที่ไต้หวันประกาศใช้อย่างเป็นทางการ กต.ไต้หวันรู้สึกยินดีต่อการตัดสินใจครั้งนี้ของรัฐบาลฟิลิปปินส์ พร้อมทั้งยังให้การยอมรับต่อความคืบหน้าในการสร้างความร่วมมือแบบทวิภาคีระหว่างไต้หวัน - ฟิลิปปินส์ด้วย
 
ภายใต้หลักการการเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน ไต้หวัน – ฟิลิปปินส์จะให้การยอมรับ “หนังสือรับรองการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคโควิด – 19 แบบดิจิทัล” (Digital COVID-19 Certificate) และ “เอกสารรับรองการฉีดวัคซีนเพื่อเดินทางระหว่างประเทศ” (หรือใบเหลือง) ที่รัฐบาลของทั้งสองฝ่ายประกาศใช้อย่างเป็นทางการ โดยประชาชนที่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด – 19 ครบโดสแล้ว เพียงแนบรายงานผลการตรวจ RT-PCR ที่มีผลเป็นลบ ก่อนขึ้นเครื่องภายใน 48 ชั่วโมง และเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนครบโดสแบบดิจิทัล หรือใบเหลือง ก็ไม่จำเป็นต้องเข้ารับการกักตัวหลังเดินทางเข้าสู่ฟิลิปปินส์ แต่ทั้งนี้ ยังต้องคอยสังเกตอาการตนเองเป็นเวลา 7 วันนับตั้งแต่วันที่เดินทางไปถึง อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวชาวฟิลิปปินส์ที่มีความประสงค์จะเดินทางมาไต้หวัน ยังคงต้องให้ความร่วมมือในมาตรการการป้องกันโรคระบาดของไต้หวันอย่างเคร่งครัด ด้วยการกักตัวและสังเกตอาการตนเองต่อไป
 
การที่ไต้หวัน – ฟิลิปปินส์ ให้การยอมรับเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนครบโดสระหว่างกัน ไม่เพียงแต่จะอำนวยความสะดวกในการแลกเปลี่ยนบุคลากรระหว่างไต้หวัน-ฟิลิปปินส์ รวมทั้งส่งเสริมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจและการค้าหลังยุคโควิด – 19 แต่ยังเป็นการสั่งสมความไว้วางใจระหว่างกันของทั้งสองประเทศ ทั้งในด้านการป้องกันโรคระบาดและการควบคุมคนเข้า - ออกตามแนวชายแดน กต.ไต้หวันหวังว่า ไต้หวันและฟิลิปปินส์ จะสร้างความร่วมมือด้านการแพทย์และสาธารณสุขในส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม เพื่อส่งเสริมความผาสุกพร้อมทั้งยกระดับสวัสดิการและความสะดวกให้กับประชาชนของทั้งสองประเทศสืบไป