New Southbound Policy Portal
ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 23 มี.ค. 65
เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา ตามเวลาในกรุงไทเป กลุ่ม Nikka Giin Kondankai ซึ่งเป็นกลุ่มวุฒิสมาชิกญี่ปุ่นที่ส่งเสริมการติดต่อกับไต้หวัน ได้จัดการประชุมประจำปีขึ้น ณ กรุงโตเกียว โดยประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และนายชินโซ อาเบะ อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นใน 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ การประสานความร่วมมือระหว่างไต้หวัน – ญี่ปุ่นในการพิชิตภัยพิบัติและร่วมป้องกันโรคระบาด การเข้าร่วม “ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก” (Comprehensive and Progressive Agreement of Trans-Pacific Partnership, CPTPP) ของไต้หวัน สถานการณ์ยูเครนและสถานการณ์ล่าสุดในภูมิภาค รวมถึงการสร้างหลักประกันด้านสันติภาพและเสถียรภาพในยุทธศาสตร์อินโด – แปซิฟิกแบบเปิดกว้างและเสรี
การสนทนาระหว่างปธน.ไช่ฯ และอดีตนรม. อาเบะ มีสาระสำคัญดังต่อไปนี้
ปธน.ไช่ฯ ได้แสดงความขอบคุณต่อญี่ปุ่นที่ได้ส่งมอบวัคซีนจำนวนมากเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ไต้หวัน ท่ามกลางสถานการณ์โรคโควิด – 19 ที่แพร่ระบาดในไต้หวันอย่างรุนแรงเมื่อช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้ไต้หวันสามารถรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดในภาพรวมไว้ได้อย่างทันท่วงที รวมไปถึงยังสามารถรับมือกับผลกระทบที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 สายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในปัจจุบันสถานการณ์โรคโควิด – 19 ล่าสุดในไต้หวัน ยังอยู่ในภาวะที่ควบคุมได้ พร้อมขอบคุณ อดีตนรม. อาเบะ และอดีตนรม.โยชิฮิเดะ ซูงะ รวมถึงนรม.ฟุมิโอะ คิชิดะ ที่ดำรงตำแหน่งอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งต่างก็ให้ความสนับสนุนไต้หวันอย่างเต็มที่เสมอมา
อดีตนรม.อาเบะกล่าวว่า ในช่วงเริ่มต้นของสถานการณ์โรคโควิด – 19 ไต้หวันได้บริจาคหน้ากากอนามัยทางการแพทย์และชุดป้องกันส่วนบุคคล (PPE) จำนวนมากให้กับญี่ปุ่น อีกทั้งยังได้ส่งมอบเวชภัณฑ์เครื่องมือทางการแพทย์ ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นถึงมิตรภาพอันล้ำค่าแด่ญี่ปุ่น ที่นอกจากจะสร้างความประทับใจให้ตนเองแล้ว เชื่อว่าประชาชนชาวญี่ปุ่นก็รู้สึกแบบนั้นเช่นเดียวกัน
ปธน.ไช่ฯ หวังที่เห็นทั้งสองฝ่ายร่วมมือระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างมิตรภาพระหว่างกันให้แนบแน่นยิ่งๆ ขึ้นไป ตลอดระยะเวลา 11 ปีหลังจากที่เกิดเหตุภัยพิบัตินิวเคลียร์ที่ฟุกุชิมะ นานาประเทศทั่วโลกได้ผ่อนคลายมาตรการหรือยกเลิกข้อจำกัดด้านการนำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารของญี่ปุ่น โดยเมื่อเดือนที่ผ่านมา ไต้หวันก็ได้ประกาศผ่อนคลายมาตรการการควบคุมผลิตภัณฑ์อาหารจากจังหวัดฟุกุชิมะ แสดงให้เห็นว่าไต้หวันยินดีที่จะยอมรับต่อมาตรฐานสากล ตลอดจนมีความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาด้านอุปสรรคทางการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งไต้หวันตระหนักดีว่า การเติบโตทางเศรษฐกิจและการค้า ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยของการสร้างเสถียรภาพของประเทศชาติ โดยไต้หวัน - ญี่ปุ่นสามารถพัฒนาไปข้างหน้าด้วยกัน เพื่อส่งเสริมให้เศรษฐกิจในพื้นที่อินโด - แปซิฟิก มีความแข็งแกร่งมากขึ้น ตลอดจนหวังว่าเห็นญี่ปุ่นจะสนับสนุนไต้หวันในการเข้าร่วมกลุ่ม CPTPP อย่างต่อเนื่องต่อไป
อดีตนรม.อาเบะ กล่าวตอบว่า CPTPP ที่ปธน.ไช่ฯ ระบุถึงเมื่อครู่เป็นข้อตกลงที่ลงนามและมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการในช่วงที่ตนยังดำรงตำแหน่งเป็นนรม.ญี่ปุ่น โดยเจ้าหน้าที่ระดับรัฐมนตรีของ 11 ประเทศที่ร่วมก่อตั้งข้อตกลงนี้ได้แสดงความยินยอมให้เขตเศรษฐกิจใหม่เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่ง เพื่อขยายกลุ่มประเทศสมาชิกให้มีความกว้างขวางมากยิ่งขึ้น และขณะนี้ก็กำลังอยู่ระหว่างการเจรจากับสหราชอาณาจักร พวกเราคาดหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นไต้หวันเข้าร่วมเป็นสมาชิกโดยเร็ว หลังจากที่ไต้หวันยอมรับต่อหลักการข้อตกลง และมีความสอดคล้องกับมาตรฐานของข้อตกลงดังกล่าว
ปธน.ไช่ฯ กล่าวขอบคุณการสนับสนุนของญี่ปุ่น พร้อมระบุว่าไต้หวัน - ญี่ปุ่นได้ร่วมมือกันในการรับมือต่อสถานการณ์โรคระบาดและภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างสามัคคี ขณะนี้ สถานการณ์ในยูเครนนับวันยิ่งรุนแรงมากยิ่งขึ้น และยังเป็นที่จับตามองของประชาคมโลก โดยจากสถานการณ์ข้างต้น เราจะเห็นได้ว่าประชาชนชาวยูเครนมีความกล้าหาญในการสู้รบ และมีความมุ่งมั่นที่จะปกป้องประเทศชาติและธำรงรักษาไว้ซึ่งประชาธิปไตยและเสรีภาพ ซึ่งสร้างความประทับใจให้กับทั่วโลก โดยเฉพาะประชาชนชาวไต้หวันที่เข้าใจในความรู้สึกของพวกเขาได้อย่างลึกซึ้ง ไต้หวันในฐานะหนึ่งในพันธมิตรประชาธิปไตยของโลก ได้ดำเนินมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย พร้อมทั้งให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่ยูเครนอย่างเต็มที่ โดยหลังจากนี้ ไต้หวันจะยืนเคียงข้างยูเครนอย่างหนักแน่น ตลอดจนพร้อมที่จะยึดมั่นในค่านิยมด้านประชาธิปไตยและเสรีภาพต่อไป
อดีตนรม.กล่าวถึงวิกฤตยูเครน โดยเห็นว่า นี่เป็นภัยสงครามที่เกิดจากการรุกรานของรัสเซีย และเป็นความท้าทายอย่างรุนแรงต่อความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศ ญี่ปุ่นจึงควรที่จะร่วมมือกับประชาคมโลกในการเพิ่มแรงกดดันต่อรัสเซีย เพื่อให้รัสเซียยุติสงครามและถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ในยูเครนในเร็ววัน
ปธน.ไช่ฯ ชี้ว่า พฤติกรรมการรุกรานยูเครนของรัสเซียในครั้งนี้ เป็นการเขย่าหลักการพื้นฐานทางสากล อีกทั้งยังได้รับการประณามจากกลุ่มประเทศประชาธิปไตย โดยการเปลี่ยนแปลงสถานภาพในปัจจุบันด้วยกำลังทหาร และการรุกรานอำนาจอธิปไตยของประเทศประชาธิปไตย มิได้รับการยอมรับให้เกิดขึ้นในพื้นที่อินโด – แปซิฟิก ซึ่งเชื่อว่านี่เป็นฉันทามติร่วมกันของประชาคมโลก นอกจากนี้ ปธน.ไช่ฯ ยังได้ขอบคุณญี่ปุ่นสำหรับการร่วมเป็นกระบอกเสียงให้ไต้หวันในเวทีนานาชาติ พร้อมทั้งเน้นย้ำความสำคัญของสันติภาพและเสถียรภาพในพื้นที่สองฝั่งช่องแคบไต้หวันอย่างหนักแน่น ปธน.ไช่ฯ คาดหวังที่จะเห็นการเร่งเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือระหว่างไต้หวัน – ญี่ปุ่นในเชิงลึก เพื่อกระตุ้นให้เกิดสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคสืบต่อไป
อดีตนรม.อาเบะกล่าวว่า ในปีที่ผ่านมา ตนได้เคยกล่าวในระหว่างการประชุมที่จัดขึ้นโดยคลังสมองของไต้หวันว่า “หากไต้หวันมีปัญหา” ก็เท่ากับว่า “ญี่ปุ่นมีปัญหา” และ “ญี่ปุ่น-สหรัฐฯ ก็มีปัญหาด้วย” ยุทธศาสตร์อินโด – แปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง ถือเป็นแนวคิดตนสนับสนุน พร้อมเห็นว่า การแบ่งปันข้อมูลระหว่างไต้หวัน - ญี่ปุ่น มีความสำคัญอย่างมาก เพื่อรักษาความมั่นคงในภูมิภาค
ปธน.ไช่ฯ แสดงความเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งต่อความสำคัญของ “ยุทธศาสตร์อินโด - แปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง” ไต้หวันในฐานะที่เป็นหนึ่งในสมาชิกของภูมิภาค เราจึงคาดหวังที่จะสร้างคุณประโยชน์ด้านสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองให้เกิดแก่ภูมิภาค โดยไต้หวัน – ญี่ปุ่นต่างยึดมั่นในค่านิยมสากลด้านเสรีภาพ ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และหลักธรรมาภิบาลร่วมกัน อีกทั้งยังเป็นหุ้นส่วนทางการค้าและเป็นมิตรที่สำคัญระหว่างกัน ตลอดจนยังเป็นพันธมิตรในด้านความมั่นคงปลอดภัยระหว่างกัน ปธน.ไช่ฯ เชื่อว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – ญี่ปุ่นยังสามารถพัฒนาความร่วมมือในอนาคตเพิ่มขึ้นได้อีกมาก โดยหวังว่า หลังจากนี้ จะเสริมสร้างความร่วมมือกับกลุ่มประเทศแนวคิดคล้ายคลึงกันอย่างญี่ปุ่นและสหรัฐฯ เพื่อบรรลุตามอุดมคตินี้ให้ได้