New Southbound Policy Portal
กระทรวงวัฒนธรรม วันที่ 10 เม.ย. 65
นิทรรศการภายใต้ชื่อ “เผยอัตลักษณ์ด้านการถ่ายภาพของลิทัวเนีย” (Uncoverings: The Search of Identity in Lithuanian Photography) และ “การรื้อฟื้นภาพบันทึกเชิงอัตลักษณ์ในรูปแบบร่วมสมัยของไต้หวัน” (Covered Reality : Archival Orientation and Identity in Taiwanese Contemporary Photography) ที่จัดขึ้นโดยพิพิธภัณฑ์วิจิตรศิลป์แห่งชาติไต้หวัน ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงวัฒนธรรม สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เปิดให้เข้าชมเมื่อวันที่ 9 เม.ย. โดยได้ทำการเปิดตัวนิทรรศการอย่างเป็นทางการในวันที่ 10 เม.ย. ซึ่งนับว่าเป็นการเปิดฉากการแลกเปลี่ยนและเสวนาด้านศิลปะระหว่างไต้หวัน – ลิทัวเนีย ที่ประสบความสำเร็จ ท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาด
โดยประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ร่วมอวยพรผ่านทางโทรศัพท์ โดยระบุว่า ขอให้นิทรรศการดำเนินไปได้อย่างราบรื่นและคาดหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นการขยายวิสัยทัศน์ด้านการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ผ่านการหวนรำลึกอดีตจากภาพทางประวัติศาสตร์ ที่สะท้อนให้เห็นถึงค่านิยมการสร้างสรรค์ผลงานอย่างเสรี ตลอดจนประสานความร่วมมือในการสร้างคุณประโยชน์ให้สังคมอยู่ร่วมกันอย่างสันติและยอมรับความหลากหลายซึ่งกันและกัน
นายหลี่หย่งเต๋อ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) กล่าวว่า การร่วมจัดนิทรรศการขึ้นภายใต้การประสานความร่วมมือของพิพิธภัณฑ์วิจิตรศิลป์ของ 2 ประเทศ นับเป็น “หลักชัยสำคัญด้านประวัติศาสตร์ศิลปะของไต้หวัน” โดยไต้หวัน – ลิทัวเนีย ตั้งอยู่ห่างไกลกันกว่า 8,000 กิโลเมตร แต่กลับต้องเผชิญกับภัยคุกคามจากประเทศลัทธิอำนาจนิยมและการปกครองด้วยระบอบเผด็จการ รวมถึงประสบการณ์ในอดีตที่ประชาชนร่วมแสวงหาประชาธิปไตยและเสรีภาพ ภายใต้สถานการณ์ดังกล่าว โดยนิทรรศการในครั้งนี้เป็นการนำเสนอภาพอัตลักษณ์ในแต่ละยุคสมัย ผ่านมุมมองของช่างภาพใน 2 ประเทศ โดยในอนาคต จะมีการนำไปจัดแสดงที่ลิทัวเนียเช่นกัน รมว.หลี่ฯ คาดหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะส่งเสริมให้ประชาชนทั้ง2 ประเทศทำความเข้าใจกับวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของ 2 ฝ่ายให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ผ่านนิทรรศการในครั้งนี้ รมว.หลี่ฯ ระบุว่า ในระหว่างสถานการณ์โรคโควิด – 19 ลิทัวเนียได้ส่งมอบความช่วยเหลือให้ไต้หวันอย่างทันท่วงที ถือเป็นการสร้างสะพานแห่งมิตรภาพระหว่างสองประเทศ โดยนิทรรศการครั้งนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้น เชื่อว่าในอนาคต ไต้หวัน – ลิทัวเนียจะร่วมแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมในเชิงลึกต่อไป ตลอดจนประสานความร่วมมือในการเผชิญหน้าและรับมือกับสถานการณ์ระหว่างประเทศที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในอนาคตต่อไป
จุดเริ่มต้นของการแลกเปลี่ยนระหว่างพิพิธภัณฑ์วิจิตรศิลป์แห่งชาติไต้หวัน และพิพิธภัณฑ์วิจิตรศิลป์แห่งชาติลิทัวเนีย มาจากการเชื่อมมิตรภาพในระหว่างสถานการณ์โรคโควิด – 19 โดยในครั้งนี้ ทั้ง 2 พิพิธภัณฑ์ได้จัดนิทรรศการขึ้นผ่าน “การถ่ายภาพ” ในจำนวนนี้ นิทรรศการภายใต้ชื่อ “เผยอัตลักษณ์ด้านการถ่ายภาพของลิทัวเนีย” (Uncoverings: The Search of Identity in Lithuanian Photography) ที่จัดโดยพิพิธภัณฑ์วิจิตรศิลป์แห่งชาติลิทัวเนีย ได้นำผลงานภาพถ่ายที่เก็บสะสมไว้พิพิธภัณฑ์ฯออกมาจัดแสดง เพื่อขานรับหัวข้อนิทรรศการว่าด้วยวัฒนธรรมการยอมรับ โดยได้นำผลงานรวม 87 ชิ้นของเหล่าศิลปิน 21 คนมาจัดแสดง ซึ่งได้นำเสนอให้เห็นถึงภาพประวัติศาสตร์ของลิทัวเนีย นับตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1950 ตราบจนปัจจุบัน รวมถึงพัฒนาการการถ่ายภาพ โดยเฉพาะในประวัติศาสตร์การถ่ายภาพของลิทัวเนียที่เปลี่ยนแปลงจากแนวคิดสัจนิยมมาเป็นการแสดงออกซึ่งแนวคิดที่ได้ถ่ายทอดพลังแห่งชีวิตที่มีความแตกต่างและหลากหลาย โดยผู้ชมนอกจากจะสามารถทำความเข้าใจกับศิลปะการถ่ายภาพของลิทัวเนียแล้ว ยังเป็นการเพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจต่อวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของลิทัวเนีย จากนั้นสามารถมองย้อนกลับมาดูที่ภาพถ่ายและเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของไต้หวันได้อีกด้วย
สำหรับนิทรรศการ “การรื้อฟื้นภาพบันทึกเชิงอัตลักษณ์ในรูปแบบร่วมสมัยของไต้หวัน” นำเสนอผลงานภาพถ่ายที่ถูกเก็บสะสมไว้ในพิพิธภัณฑ์วิจิตรศิลป์และศูนย์วัฒนธรรมภาพถ่ายแห่งชาติ (National Center of Photography and Images) พร้อมเชิญเหล่าศิลปินกลุ่มเยาวชนขานรับหัวข้อนิทรรศการในการร่วมจัดแสดงผลงาน โดยได้นำผลงานภาพถ่ายและสื่อผสมของกลุ่มศิลปินรวม 15 คน มาร่วมจัดแสดง โดยครอบคลุมไปถึงผลงานสำคัญของช่างภาพร่วมสมัยในช่วงทศวรรษ 1990 เป็นต้นมา
โดยทั้ง 2 นิทรรศการข้างต้นมีกำหนดจะจัดขึ้นจนถึงวันที่ 3 ก.ค.นี้ พร้อมทั้งจะย้ายไปจัดแสดงยังศูนย์วัฒนธรรมภาพถ่ายในกรุงไทเป ในช่วงเดือน ก.ย. ปีนี้ พิพิธภัณฑ์วิจิตรศิลป์แห่งชาติไต้หวันคาดหวังที่จะเห็นการร่วมเสวนาและแลกเปลี่ยนผ่านการจัดแสดงผลงานที่ระลึกและมุมมองนิทรรศการ ซึ่งสามารถพัฒนาไปสู่ความเป็นไปได้ในการเชื่อมโยงและการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรมทางศิลปะในเชิงลึกต่อไป โดยรายละเอียดที่เกี่ยวกับนิทรรศการและกิจกรรมการประชาสัมพันธ์ สามารถเข้าชมเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ทางการของพิพิธภัณฑ์ ตามลิงก์ด้านล่างนี้ http://www.ntmofa.gov.tw