New Southbound Policy Portal

กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 14 เม.ย. 65
 
Mr. Lindsey Graham, R-SC ประธานคณะกรรมาธิการงบประมาณวุฒิสภาของพรรครีพับลิกันแห่งสหรัฐฯ มีกำหนดการนำคณะผู้แทนเดินทางเยือนไต้หวันด้วยเครื่องบินทหารระหว่างวันที่ 14 – 15 เม.ย. นี้ โดยสมาชิกคณะประกอบด้วยสมาชิกรัฐสภาของสหรัฐฯ รวม 6 คน กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ขอต้อนรับ Mr. Graham พร้อมด้วยกลุ่มสมาชิกวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรที่มีบทบาทสำคัญ สำหรับเดินทางมาเยือนไต้หวันในครั้งนี้ 
 
เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 14 เม.ย. ที่ผ่านมา นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของรัฐบาลไต้หวัน เข้าให้การต้อนรับคณะอาคันตุกะ ณ ท่าอากาศยานนานาชาติด้วยตนเอง โดยในระหว่างนี้ คณะผู้แทนจากสหรัฐฯ จะมีกำหนดเข้าเยี่ยมคารวะประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) พร้อมเข้าร่วมงานเลี้ยงต้อนรับที่รมว.อู๋ฯ เป็นเจ้าภาพ อีกทั้งจะเข้าร่วมพบปะหารือกับนายชิวกั๋วเจิ้ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของไต้หวัน นอกจากนี้ สมาชิกคณะยังจะร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเชิงลึกกับเจ้าหน้าที่ภาครัฐของไต้หวัน ในประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ และประเด็นอื่นๆ ที่สำคัญอีกด้วย
 
โดยคณะผู้แทนกลุ่มนี้ เป็นกลุ่มสมาชิกวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ ที่เดินทางมาเยือนไต้หวันเป็นกลุ่มแรกในปีนี้ โดยหลังจากที่รัฐสภาสหรัฐฯ ได้ประกาศฟื้นฟูการเดินทางเยือนระหว่างประเทศในปีนี้แล้ว Mr. Graham ก็ได้จัดคณะเพื่อเดินทางเยือนกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชีย โดยได้กำหนดให้ไต้หวันเป็นรายชื่อประเทศสำคัญ ทั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงการที่สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ แบบข้ามพรรค ให้ความสำคัญและการสนับสนุนไต้หวันอย่างเต็มที่โดยไม่แบ่งฝ่ายด้วย
 
สมาชิกคณะในกลุ่มนี้ ประกอบด้วยคณะกรรมการที่กำกับดูแลกิจการในด้านต่างๆ อาทิ “งบประมาณ” “การทูต” “ความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ” “สาธารณสุข การศึกษา แรงงานและเงินบำนาญ” “การคลัง” และ “กิจการกลาโหม” ที่อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นผู้นำระดับอาวุโสในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ ด้วยกันทั้งสิ้น
 
ท่ามกลางสถานการณ์วิกฤตสงครามรัสเซีย – ยูเครน การที่รัฐสภาสหรัฐฯ จัดตั้งสมาชิกคณะที่มีบทบาทสำคัญเดินทางมาเยือนไต้หวันในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงการให้ความสนับสนุนและรักษาคำมั่นที่สหรัฐฯ มีต่อไต้หวันอย่างหนักแน่น เชื่อว่าการมาเยือนไต้หวันของ Mr. Graham และคณะในครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ ให้เกิดความแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ตลอดจนเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนระหว่างกันในเชิงลึกมากยิ่งขึ้นอีกด้วย