New Southbound Policy Portal

รมว. กต. ไต้หวันให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนของลิทัวเนีย เน้นย้ำว่า ไต้หวัน – ลิทัวเนียจะสานต่อความสัมพันธ์ในเชิงลึกระหว่างกันต่อไป เพื่อแสดงให้เห็นถึงหลักการด้านการประสานความร่วมมือเพื่อเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันระหว่างพันธมิตรด้านประชาธิปไตย

กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 29 เม.ย. 65
 
เมื่อวันที่ 28 เม.ย. นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์แก่สถานีวิทยุและโทรทัศน์แห่งชาติสาธารณรัฐลิทัวเนีย (LRT) เว็บไซต์สถานีวิทยุแห่งชาติลิทัวเนีย (LRT.It) สำนักข่าว ELTA สำนักข่าว BNS สถานีโทรทัศน์ LNK และเว็บไซต์ข่าวออนไลน์ DELFI โดยได้ชี้แจงถึงความสัมพันธ์เชิงลึกระหว่างไต้หวัน – ลิทัวเนีย บทเรียนที่ได้รับจากวิกฤตสงครามระหว่างยูเครน – รัสเซีย พฤติกรรมการข่มขู่ไต้หวันของรัฐบาลจีน รวมถึงการประสานความร่วมมือระหว่างพันธมิตรด้านประชาธิปไตยเพื่อเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน ซึ่งได้รับการเผยแพร่รวม 13 บทความจากสื่อมวลชนรวม 9 ราย โดยได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลาม และมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างความเข้าใจให้แก่ประชาชนชาวลิทัวเนียต่อประเด็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – ลิทัวเนีย และประเด็นการร่วมปกป้องค่านิยมด้านประชาธิปไตยระหว่างกัน นายหวงจวินเหย้า ผู้แทนรัฐบาลไต้หวันประจำลิทัวเนียก็ได้เข้าร่วมการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ในครั้งนี้ ด้วยเช่นกัน
 
รมว.อู๋ฯ กล่าวว่า ในปี 2021 ท่ามกลางสถานการณ์ที่ทั่วโลกขาดแคลนวัคซีนป้องกันโรคโควิด – 19 แต่ลิทัวเนียกลับแบ่งปันน้ำใจแก่ไต้หวันด้วยการบริจาควัคซีนให้ด้วยความยินดี เพื่อสืบสานพลังแห่งความดีที่ไต้หวันได้ส่งมอบหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ให้ลิทัวเนียในช่วงที่ผ่านมา โดยน้ำใจในครั้งนั้นได้สร้างความประทับใจให้ประชาชนชาวไต้หวันเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นการเสริมสร้างให้ไต้หวันเกิดความเข้าใจในเชิงลึกต่อลิทัวเนียมากขึ้น ซึ่งนอกจากประชาชนชาวไต้หวันจะแห่ซื้อสินค้าของลิทัวเนียเป็นจำนวนมากแล้ว ยังร่วมแสดงความห่วงใยต่อพันธมิตรด้านประชาธิปไตยเกิดใหม่นี้ด้วย ในปีค.ศ. 1989 กลุ่มประชาชนของ 3 ประเทศที่ตั้งอยู่ในแถบคาบสมุทรบอลติก ได้ประสานความร่วมมือในการต่อต้านภัยคุกคามจากรัสเซีย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหาเสรีภาพ ซึ่งภาพดังกล่าวได้สร้างความซาบซึ้งใจให้กับประชาชนชาวไต้หวันเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ รมว.อู๋ฯ ยังได้อ้างอิงบทความในทวิตเตอร์ของ Mr. Gabrielius Landsbergis รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของลิทัวเนีย ที่เน้นย้ำว่า “กลุ่มผู้ยึดมั่นในค่านิยมด้านเสรีภาพ สมควรที่จะให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน”(Freedom-loving people should look out for each other) โดยรมว.อู๋ฯ ได้เน้นย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของการประสานความร่วมมือระหว่างพันธมิตรด้านประชาธิปไตย
 
รมว.อู๋ฯ ชี้แจงว่า ในช่วงที่ผ่านมา ไต้หวัน – ลิทัวเนียได้เสริมสร้างการแลกเปลี่ยนระหว่างกันในภาคส่วนต่างๆ ในเชิงลึก โดยหลังจากปี 2021 ที่ไต้หวันได้จัดตั้งสำนักงานตัวแทนไต้หวันในลิทัวเนียแล้ว ในปีนี้ ไต้หวันก็ได้รับคำขอจัดตั้งสำนักงานตัวแทนลิทัวเนียในไต้หวันเช่นกัน โดยไต้หวันรู้สึกยินดีที่จะมีการจัดตั้งสำนักงานตัวแทนของลิทัวเนียในไต้หวันโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ เพื่อบรรลุความร่วมมือแบบทวิภาคีในเชิงลึกอย่างต่อเนื่องต่อไป
 
รมว.อู๋ฯ กล่าวว่า ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างไต้หวัน – ลิทัวเนียมีศักยภาพที่โดดเด่น โดยในช่วงที่ผ่านมา ไต้หวันได้ประกาศจัดตั้ง “กองทุนการลงทุนในกลุ่มประเทศยุโรปกลางและยุโรปตะวันออก” ที่มียอดการลงทุนรวมมูลค่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐฯ พร้อมทั้งจะให้ความช่วยเหลือแก่ลิทัวเนียในการขยายตลาดการค้าในไต้หวัน หลังจากที่ลิทัวเนียโดนรัฐบาลจีนคว่ำบาตรทางการค้า นอกจากนี้ เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2021 ที่นายกงหมิงซิน ประธานคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาแห่งชาติ (NDC) สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้นำคณะสำรวจโอกาสทางธุรกิจในยุโรปกลางและยุโรปตะวันออก เดินทางไปเยือนลิทัวเนีย ในเดือนมีนาคมปีนี้ คณะผู้เชี่ยวชาญทางอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ก็ได้เดินทางเยือนลิทัวเนียอีกครั้ง โดยลิทัวเนียมีโครงสร้างทางอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่งและเทคโนโลยีเลเซอร์ที่ทันสมัย นอกจากนี้ “ศูนย์จัดแสดงสินค้าลิทัวเนีย” ก็ได้เปิดตัวขึ้นในไต้หวันอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยไต้หวันคาดหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเสริมสร้างความร่วมมือทางอุตสาหกรรมที่มีบทบาทสำคัญกับลิทัวเนียในเชิงลึกต่อไป
 
สำหรับสถานการณ์ล่าสุดของวิกฤตสงครามระหว่างยูเครน – รัสเซีย รมว.อู๋ฯ ชี้ว่า ไต้หวันได้ร่วมประณามและดำเนินมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียที่เข้ารุกรานยูเครน ซึ่งหลังจากที่สงครามระหว่างรัสเซีย – ยูเครนปะทุขึ้น ไต้หวันก็ได้เร่งบริจาคสิ่งของจำเป็นและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์รวม 27 ตันให้ยูเครนโดยทันที พร้อมทั้งเปิดบัญชีสำหรับให้ความช่วยเหลือในวิกฤตยูเครนของไต้หวัน ซึ่งภายในระยะเวลาไม่นานก็ได้รับเงินบริจาคประมาณ 33 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งรัฐบาลได้ทยอยส่งมอบให้แก่ยูเครน โปแลนด์ สโลวัก เช็กเกีย ฮังการีและลิทัวเนีย นอกจากนี้ สิ่งของจำเป็นที่มาจากการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของประชาชนชาวไต้หวัน ก็ได้ทยอยส่งผ่านไปทางสโลวักและโปแลนด์ โดยรมว.อู๋ฯ เน้นย้ำว่า ไต้หวันได้ผนวกกำลังของภาครัฐและภาคประชาชนในการส่งมอบธารน้ำใจให้ยูเครนอย่างเต็มกำลัง แสดงให้เห็นว่า ไต้หวันยินดีแบ่งเบาภาระในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลก เพื่อยืนหยัดในหลักการด้านประชาธิปไตย
 
รมว.อู๋ฯ ยืนยันว่า ไต้หวันจะจับตาสถานการณ์ล่าสุดของสงครามระหว่างรัสเซีย – ยูเครนและสถานการณ์ระหว่างประเทศ พร้อมทั้งระแวดระวังต่อการเคลื่อนไหวของรัฐบาลจีน เมื่อไต้หวันเผชิญหน้ากับการข่มขู่ทางกำลังทหารและการโจมตีทางไซเบอร์ ไต้หวันจะยึดแบบอย่างของประชาชนชาวยูเครนที่ร่วมต่อต้านการรุกรานจากรัสเซียอย่างเต็มกำลัง