New Southbound Policy Portal

รมว.กต.ไต้หวันให้สัมภาษณ์แบบออนไลน์แก่ Mr. Tom Stayner ผู้สื่อข่าวสายการเมืองจากสถานีวิทยุและโทรทัศน์ SBS ของออสเตรเลีย

กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 13 พ.ค.65
 
นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้สัมภาษณ์แก่ Mr. Tom Stayner ผู้สื่อข่าวสายการเมืองจากสถานีวิทยุและโทรทัศน์ Special Broadcasting Service (SBS) ของออสเตรเลีย เกี่ยวกับความสัมพันธ์ในเชิงลึกระหว่างไต้หวันและออสเตรเลีย การลงนามในข้อตกลงด้านความมั่นคงระหว่างจีนและหมู่เกาะโซโลมอน การรุกรานยูเครนของรัสเซีย และการที่ไต้หวันพยายามจะขอเข้าร่วมการประชุมสมัชชาอนามัยโลก (WHA)
 
โดยรมว.อู๋ฯ ชี้ว่า ไต้หวันและออสเตรเลียต่างก็เป็นหุ้นส่วนที่มีแนวความคิดใกล้เคียงกัน และต่างก็แบ่งปันคุณค่าแห่งเสรีภาพและประชาธิปไตยร่วมกัน ทั้งสองฝ่ายได้อาศัยพื้นฐานความสัมพันธ์อันดีในด้านเศรษฐกิจและการค้า มาต่อยอดสู่การสร้างความสัมพันธ์ด้านอื่นในเชิงลึก พร้อมทั้งจะร่วมกันผลักดันนโยบายอินโด-แปซิฟิกที่เปี่ยมด้วยเสรีภาพและการเปิดกว้าง รวมทั้งปกป้องสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก รวมถึงขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจสู่การสร้างประโยชน์ให้แก่กันและกัน
 
รมว.อู๋เห็นว่า ลัทธิอำนาจนิยมของจีนได้แผ่ขยายมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดจีนและโซโลมอนได้มีการลงนามในข้อตกลงด้านความมั่นคง ทำให้เกิดความไม่แน่นอนต่อเสถียรภาพในภูมิภาค หมู่เกาะโซโลมอนตั้งอยู่ใกล้กับออสเตรเลีย จึงมีความเกี่ยวพันกับความมั่นคงของออสเตรเลีย ดังนั้น รมว.อู๋ฯ จึงขอเรียกร้องให้สหรัฐฯ ออสเตรเลีย และญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่มีแนวความคิดใกล้เคียงกัน กระชับความร่วมมือระหว่างกันให้มากยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันการแผ่ขยายและการรุกรานจากลัทธิอำนาจนิยม
 
สำหรับสงครามรัสเซีย-ยูเครน รมว.อู๋ฯ ย้ำว่า ไต้หวันและยูเครนต่างก็อยู่ในแนวหน้าของการต่อต้านการขยายตัวของลัทธิอำนาจนิยม ดังนั้น ไต้หวันจึงเข้าใจในสถานะของยูเครนเป็นอย่างดี รัฐบาลไต้หวันได้ผนึกกำลังจากทั้งภาครัฐและประชาชน ในการรวบรวมเงินและสิ่งของบรรเทาทุกข์เพื่อบริจาคให้ผู้ประสบภัยในยูเครน หากในอนาคต ไต้หวันต้องเผชิญกับสภาพเดียวกัน ก็หวังว่าสังคมโลกและเหล่าประเทศที่มีแนวความคิดใกล้เคียงกันจะช่วยรักษาความยุติธรรม และแสดงให้เห็นถึงความสนับสนุนที่มีต่อไต้หวันด้วย รมว.อู๋ยังย้ำว่า ไต้หวันจะยังคงติดต่อกับออสเตรเลียต่อไป แต่มิใช่เพราะต้องการให้ออสเตรเลียให้ความช่วยเหลือทางการทหาร ไต้หวันมีหน้าที่ในการปกป้องความมั่นคงปลอดภัยของประเทศของตัวเอง และพยายามยกระดับความสามารถในการป้องกันตัวเอง โดยไต้หวันจะจับตามองแนวโน้มในภูมิภาคอย่างใกล้ชิด และสร้างความร่วมมือกับประเทศที่เป็นมิตร เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดวิกฤตขึ้น
 
นอกจากนี้ ในโอกาสที่การประชุม WHA กำลังจะเปิดฉากขึ้น รมว.อู๋ฯ ชี้ว่า การกีดกันไม่ให้ชาวไต้หวัน 23.5 ล้านเข้ามีส่วนร่วมใน WHA ถือเป็นเรื่องที่ไม่ยุติธรรม ไต้หวันขอขอบคุณที่ออสเตรเลียสนันสนุนให้ไต้หวันเข้าร่วม WHA พร้อมหวังว่าออสเตรเลียจะให้ความสนับสนุนไต้หวันในการมีส่วนร่วมกับองค์การระหว่างประเทศอื่นๆ อย่างต่อเนื่องต่อไป