New Southbound Policy Portal

กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 4 มิ.ย. 65
 
เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์แก่ Mr. Cyrille Pluyette รองหัวหน้าบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์ L'Express ของฝรั่งเศส โดยรมว.อู๋ฯ ได้ชี้แจงถึงภัยคุกคามของจีนที่มีต่อไต้หวัน ข้อคิดจากสงครามระหว่างรัสเซีย – ยูเครน ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – ลิทัวเนีย และความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน - ฝรั่งเศส ซึ่งเนื้อหาของบทสัมภาษณ์ได้ถูกตีพิมพ์ผ่านทางเว็บไซต์เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมา โดยได้รับกระแสตอบรับและความสนใจอย่างกว้างขวาง
 
รมว.อู๋ฯ ชี้ว่า ในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้เพิ่มความถี่ในการส่งเครื่องบินทหารรุกล้ำเข้าเขตแดนไต้หวัน สร้างความท้าทายต่อความมั่นคงในระดับภูมิภาค ตลอดจนอาศัยสงครามลูกผสมอย่างสงครามไซเบอร์และสงครามจิตวิทยาเพื่อบ่อนทำลายความสงบในไต้หวันอย่างต่อเนื่อง ไต้หวันในฐานะที่เป็นประเทศประชาธิปไตยที่ตั้งอยู่แนวหน้าในการต่อต้านการขยายอิทธิพลของลัทธิอำนาจนิยม ได้รับแรงบันดาลใจจากการที่ยูเครนสามารถต่อกรกับประเทศมหาอำนาจอย่างรัสเซียได้อย่างประสบความสำเร็จ โดยหลังจากนี้ นอกจากไต้หวันจะพัฒนาแสนยานุภาพทางทหารที่ขาดความสมดุลแล้ว ยังจะเร่งเสริมสร้างศักยภาพด้านการป้องกันประเทศด้วยการผนึกกำลังของภาคประชาชน และเจ้าหน้าที่ทหารกองหนุน เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการปกป้องประเทศอย่างสามัคคีของรัฐบาลและประชาชนชาวไต้หวันด้วย
 
รมว.อู๋ฯ กล่าวว่า ในช่วงที่ผ่านมา ไต้หวันยังได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มประเทศประชาธิปไตยในการส่งมอบความช่วยเหลือแก่ยูเครน และได้ดำเนินการคว่ำบาตรต่อรัสเซียอย่างเป็นรูปธรรม ขณะเดียวกัน ไต้หวันก็ได้เสริมสร้างความร่วมมือกับกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน เพื่อแสวงหาความสนับสนุนจากประชาคมโลกอย่างต่อเนื่อง เมื่อช่วงที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกา ได้เดินทางเยือนประเทศในภูมิภาคเอเชีย เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์กับประเทศพันธมิตรในเชิงลึก โดยไต้หวันยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็น “การรวมกลุ่มเจรจาด้านความมั่นคงปลอดภัยระหว่างภาคี 4 ประเทศ” (QUAD) และ “ภาคีความมั่นคงแบบพหุภาคีระหว่างสหรัฐอเมริกา อังกฤษและออสเตรเลีย” (AUKUS) เร่งเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคงในเชิงลึกอย่างต่อเนื่องต่อไป นอกจากนี้ ในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลฝรั่งเศสและอังกฤษ ยังได้ส่งเรือรบแล่นผ่านพื้นที่ภูมิภาคอินโด – แปซิฟิกเพื่อปฏิบัติภารกิจ “รักษาเสรีภาพการเดินเรือ” สิ่งต่างๆ เหล่านี้แสดงให้เห็นถึงฉันทามติที่มีร่วมกันของกลุ่มประเทศประชาธิปไตย ที่ต้องการธำรงรักษาความมั่นคงในพื้นที่ภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก ให้คงอยู่สืบไป รัฐบาลไต้หวันรู้สึกยินดีและให้การยอมรับเป็นอย่างสูง
 
สำหรับกรณีการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – ลิทัวเนีย รมว.อู๋ฯ กล่าวว่า ลิทัวเนียเป็นมิตรประเทศที่มีความกล้าหาญ โดยในปีที่แล้ว ประชาชนชาวไต้หวันต่างรู้สึกซาบซึ้งใจที่ลิทัวเนียร่วมบริจาควัคซีนให้กับไต้หวัน ซึ่งถือเป็นการเสริมสร้างรากฐานการพัฒนาความสัมพันธ์อันดีในภาคส่วนต่างๆ ของ 2 ประเทศในอนาคต นอกจากนี้ ในปี 2021 ไต้หวันและลิทัวเนียต่างได้ทยอยจัดตั้งสำนักงานตัวแทนของรัฐบาลในดินแดนระหว่างกันอย่างราบรื่น โดยทั้งสองประเทศจะเสริมสร้างความสัมพันธ์แบบทวิภาคีและความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมระหว่างกันอย่างต่อเนื่องสืบไป
 
รมว.อู๋ฯ เห็นว่า ในช่วงครึ่งปีหลังมานี้ สมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกสมัชชาแห่งชาติของฝรั่งเศส ได้ทยอยจัดส่งคณะตัวแทนเดินทางมาเยือนไต้หวัน นอกจากนี้ ในปี 2022 ฝรั่งเศสยังได้ร่วมเป็นกระบอกเสียงให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมการประชุมสมัชชาอนามัยโลก (WHA) เป็นครั้งแรก โดยเน้นย้ำว่า องค์การอนามัยโลกควรติดต่อเชิญให้ไต้หวันเข้าร่วมในกลไกสาธารณสุขโลก รัฐบาลไต้หวันจึงขอแสดงความขอบคุณต่อจุดยืนในการให้การสนับสนุนไต้หวันอย่างหนักแน่นของรัฐบาลฝรั่งเศส พร้อมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศจะดำเนินไปทิศทางที่ดีและมุ่งไปในเชิงลึกเพิ่มมากขึ้น บนพื้นฐานอันแข็งแกร่งที่มีอยู่เดิม
 
นสพ. L'Express ก่อตั้งขึ้นในปีค.ศ. 1953 ซึ่งได้รับความสำคัญอย่างสูงจากหมู่ปัญญาชนด้านการเมืองจากประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาราชการ โดยมียอดผู้เข้าชมเว็บไซต์กว่า 12 ล้านครั้งต่อเดือน ถือเป็นสื่อมวลชนที่ทรงอิทธิพลเป็นอย่างมาก