New Southbound Policy Portal
กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 28 มิ.ย. 65
การประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนําของโลก 7 ประเทศ ครั้งที่ 48 ปิดฉากลงอย่างสมบูรณ์เมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 28 มิ.ย. ณ ปราสาท Elmau ประเทศเยอรมนี โดยหลังเสร็จสิ้นการประชุม ได้มีการประกาศแถลงการณ์ร่วม ซึ่งได้มีการเน้นย้ำถึงความสำคัญของการธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน รวมถึงส่งเสริมให้แก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวันด้วยสันติวิธี กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) รู้สึกยินดีและขอบคุณด้วยใจจริงสำหรับการให้ความสำคัญของประเทศสมาชิกกลุ่ม G7 และผู้นำสหภาพยุโรป ที่ได้ให้การสนับสนุนต่อสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันอย่างเป็นรูปธรรมติดต่อกันมาเป็นปีที่ 2
การประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่ม G7 ได้ประกาศแถลงการณ์ร่วม ซึ่งเน้นย้ำเรื่องความสำคัญของการธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 อันเป็นการสะท้อนให้เห็นว่า การแสดงความห่วงใยต่อสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน ได้กลายเป็นฉันทามติร่วมกันระหว่างประเทศแล้ว อีกทั้งยังได้รับความสำคัญจากกลุ่มประเทศประชาธิปไตยหลักของโลกอีกด้วย
ในปีนี้ เยอรมนีซึ่งรับตำแหน่งประเทศประธานหมุนเวียนของสหภาพยุโรปได้ทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม โดยผู้นำสหรัฐฯ อังกฤษ ญี่ปุ่น แคนาดา ฝรั่งเศส อิตาลีและสหภาพยุโรป (EU) ได้เดินทางมารวมตัวกันที่ปราสาท Elmau ในเสรีรัฐไบเอิร์น ประเทศเยอรมนี เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนหารือกันในประเด็นนโยบายความมั่นคงทางความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ สถานการณ์โรคระบาดทั่วโลก และวิกฤตที่เกิดจากสงครามระหว่างรัสเซีย - ยูเครน โดยในระหว่างการประชุมได้มีการเสนอ “โครงการว่าด้วยความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนด้านการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานทั่วโลก” ภายใต้งบประมาณ 600,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายใน 5 ปีเพื่อจัดตั้งโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศอย่างยั่งยืน ซึ่งในครั้งนี้ ผู้นำจากสาธารณรัฐเซเนกัล แอฟริกาใต้ อาร์เจนตินา อินเดียและอินโดนีเซีย ก็ได้รับเชิญให้เดินทางมาเข้าร่วมการประชุมด้วย
ไต้หวันในฐานะที่เป็นหนึ่งในประชาคมโลกที่มีความรับผิดชอบ จะเร่งประสานความร่วมมือกับพันธมิตรด้านประชาธิปไตยในนานาชาติอย่างต่อเนื่อง พร้อมมุ่งมั่นที่จะธำรงรักษาความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของค่านิยมเดียวกัน พร้อมทั้งยึดมั่นในหลักการทางประชาธิปไตยด้านความโปร่งใส คุณค่าและมาตรฐานขั้นสูง เพื่อเร่งเสริมสร้างความร่วมมือกับกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันและประเทศสมาชิกกลุ่ม G7 ต่อไป ทั้งนี้ เพื่อร่วมธำรงรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ ความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจและการพัฒนาอย่างยั่งยืนในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิกให้คงอยู่สืบต่อไป