New Southbound Policy Portal
สภาบริหาร วันที่ 22 ก.ค. 65
เมื่อวันที่ 22 ก.ค. ที่ผ่านมา นายซูเจินชาง นายกรัฐมนตรี สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้การต้อนรับคณะตัวแทนนักศึกษายูเครน ณ ห้องโถงรับรองของสภาบริหาร พร้อมกล่าวว่า ไต้หวัน – ยูเครนต่างยึดมั่นในค่านิยมด้านสันติภาพ เสรีภาพ ประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนร่วมกัน ตลอดจนยังต้องเผชิญหน้ากับภัยคุกคามที่มาจากประเทศเผด็จการที่ตั้งอยู่รายรอบ ด้วยเหตุนี้ ไต้หวันจึงยินดีที่จะให้การสนับสนุนยูเครนอย่างเต็มที่ นับตั้งแต่ที่สงครามระหว่างรัสเซีย - ยูเครน ปะทุขึ้น รัฐบาลและประชาชนชาวไต้หวันได้ร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือจำนวน 45 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รวมถึงสิ่งของจำเป็นและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ น้ำหนักรวมมากกว่า 600 ตันให้แก่ยูเครนและประเทศรายรอบที่ยื่นมือเข้าให้ความช่วยเหลือ นอกจากนี้ กระทรวงศึกษาธิการและสถาบันระดับอุดมศึกษาที่เกี่ยวข้องยังได้จัดสรรทุนการศึกษาเพื่อต้อนรับนักศึกษายูเครนให้เดินทางมาเข้ารับการศึกษาในไต้หวัน โดยนรม.ซูฯ ยังได้เรียกร้องให้อธิการบดีและคณาจารย์เร่งส่งมอบความช่วยเหลืออย่างครอบคลุมให้แก่นักศึกษายูเครนที่ต้องพลัดถิ่นและประสบกับความยากลำบากในการใช้ชีวิต เพื่อให้นักศึกษาชาวยูเครนเหล่านี้สามารถเข้าศึกษาในไต้หวันได้อย่างราบรื่น และพัฒนาสู่การเป็นบุคลากรที่สามารถสร้างคุณประโยชน์ตอบแทนไต้หวันต่อไปในอนาคต นรม.ซูฯ เน้นย้ำว่า การที่พวกเรามารวมตัวกันในวันนี้ ก็เพื่อพิสูจน์ให้ทั่วโลกเห็นว่า ประเทศที่แสวงหาเสรีภาพ สันติภาพ สิทธิมนุษยชนและความเจริญรุ่งเรือง จะไม่ยอมจำนนต่อภัยคุกคาม และจะไม่โดดเดี่ยวอันเนื่องจากภัยสงคราม โดยพวกเราจะยังคงยึดมั่นอย่างต่อเนื่องเพื่อโลกพัฒนาไปสู่ทิศทางที่ดียิ่งขึ้นต่อไป
นรม.ซูฯ กล่าวอีกว่า การเข้าพบปะพูดคุยกับคณะตัวแทนนักศึกษายูเครนในครั้งนี้ ก็เพื่อต้องการรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้ชีวิตของนักศึกษายูเครนว่า มีปัญหาอะไรที่ประสงค์จะขอให้รัฐบาลไต้หวันทำการช่วยเหลือบ้าง
นรม.ซูฯ แถลงว่า ภัยสงครามส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสันติภาพและความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศ อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจและการไปมาหาสู่ระหว่างภาคประชาชน อย่างไรก็ตาม ภายใต้การนำของ H.E. Volodymyr Zelenskyy ประธานาธิบดีแห่งยูเครน ประชาชนทุกคนล้วนพร้อมใจกันต่อต้านการรุกรานจากรัสเซียอย่างไม่ย่อท้อ สร้างความซาบซึ้งใจให้แก่ประชาคมโลกเป็นอย่างมาก โดยไต้หวันเป็นหนึ่งในประเทศที่ส่งมอบความช่วยเหลือให้แก่ยูเครนอย่างเต็มที่
นอกจากนี้ นรม.ซูฯ ชี้อีกว่า กระทรวงศึกษาธิการและสถาบันระดับอุดมศึกษาที่เกี่ยวข้องต่างจัดสรรทุนการศึกษาให้กลุ่มนักศึกษายูเครน เดินทางมาศึกษาภาษาจีนหรือเข้าศึกษาในระดับปริญญา โดยคาดหวังที่จะเห็นกลุ่มเป้าหมายเข้ารับการศึกษาอย่างราบรื่น มีความก้าวหน้าในการเรียน โดยหลังสำเร็จการศึกษาแล้ว หากกลุ่มเป้าหมายต้องการเดินทางกลับสู่มาตุภูมิเพื่อสร้างคุณประโยชน์ให้แก่ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – ยูเครน หรือต้องการเดินทางไปศึกษาต่อยังประเทศอื่น หรือต้องการอาศัยอยู่ในไต้หวันต่อไป รัฐบาลไต้หวันก็จะให้ความเคารพและยินดีต่อทุกการตัดสินใจของกลุ่มนักศึกษา นอกจากนี้ นรม.ซูฯ ยังได้แสดงความขอบคุณต่ออธิการบดีและคณาจารย์ที่ให้ความช่วยเหลือและดูแลกลุ่มนักศึกษายูเครนที่มาจากแดนไกลอย่างอบอุ่น เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเป็นมิตรและความอบอุ่นของชาวไต้หวัน
นรม.ซูฯ ระบุว่า นอกจากกรุงไทเปแล้ว ยังมีอีกหลายพื้นที่ในไต้หวันที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งสามารถเดินทางเข้าถึงได้ง่ายและสะดวก อีกทั้งยังมีสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อชาวต่างชาติ จึงขอเชิญชวนให้นักศึกษายูเครนใช้เวลาว่างจากการเรียน เดินทางไปเยือนสถานที่ต่างๆ ในไต้หวัน ซึ่งถือเป็นการเรียนรู้และฝึกฝนภาษาจีนและภาษาไต้หวันไปด้วยในตัว โดยนรม.ซูฯ ได้หยิบยกกรณีตัวอย่างถิ่นกำเนิดของตนที่ตั้งอยู่ในเมืองผิงตง พื้นที่ทางตอนใต้สุดของไต้หวัน ซึ่งนอกจากจะเปี่ยมด้วยผลผลิตทางการเกษตรที่อุดมสมบูรณ์แล้ว ยังมีผลไม้นานาชนิด และยังมีทัศนียภาพที่โดดเด่นสวยงามอีกด้วย ท้ายนี้ นรม.ซูฯ ยังได้ใช้ภาษายูเครนกล่าวขอบคุณต่อนักศึกษาชาวยูเครนและแขกผู้มีเกียรติในงาน
หนึ่งในตัวแทนนักศึกษากล่าวว่า ตนมาจากแคว้นลวิวในยูเครน ปัจจุบันกำลังเข้าศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัยตงไห่ (Tunghai University, THU) โดยในขณะนี้ ยูเครนกำลังประสบกับเหตุการณ์ที่ไม่ควรเกิดขึ้นในศตวรรษที่ 21 ซึ่งก็คือ “สงคราม” โดยตัวแทนนักศึกษาชี้ว่า เหล่านักศึกษายูเครนที่เข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาในไต้หวัน แม้ว่าจะมีลักษณะนิสัย วิสัยทัศน์และภาระหน้าที่ความรับผิดชอบที่แตกต่างกัน แต่ทุกคนพร้อมที่จะประสานสามัคคีกันอันเนื่องมาจากใจที่รักและพร้อมปกป้องประเทศชาติของตน โดยเฉพาะภัยสังครามที่มีแต่จะนำมาซึ่งความเจ็บปวดและความสูญเสีย โดยชาวยูเครนต่างไม่ยินดีที่จะเห็นทั่วโลกเกิดสงคราม ซึ่งสงครามระหว่างรัสเซีย – ยูเครนได้สร้างบาดแผลทางใจให้แก่พวกเขา โดยพวกเขาคาดหวังที่จะเห็นสงครามยุติลงโดยเร็ว ตลอดจนเชื่อมั่นว่า ชาวยูเครนจะสามารถปกป้องดินแดน ประเทศชาติและสิทธิที่เป็นเอกภาพของตนได้
นอกจากนี้ คณะตัวแทนนักศึกษายังได้เน้นย้ำว่า ในยุคศตวรรษที่ 21 ไม่ควรเกิดภัยสงคราม ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยูเครนตกอยู่ในความยากลำบาก รัฐบาลและประชาชนของไต้หวันได้ยื่นมือเข้าให้ความช่วยเหลือ แสดงให้เห็นถึงมิตรภาพ ตลอดจนยืนเคียงข้างยูเครนในการต่อต้านสงคราม ซึ่งการสนับสนุนจากชาวไต้หวันมีความสำคัญต่อชาวยูเครนเป็นอย่างมาก โดยคณะตัวแทนนักศึกษาได้แสดงความขอบคุณต่อนรม.ซูฯ นายพันเหวินจง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ด้วยใจจริง พร้อมทั้งแสดงความขอบคุณต่อมหาวิทยาลัยตงไห่และสถาบันระดับอุดมศึกษาทั่วไต้หวัน ที่ได้ส่งมอบทุนการศึกษาเต็มจำนวนให้แก่กลุ่มนักศึกษาชาวยูเครน