New Southbound Policy Portal

กต.ไต้หวันขอประณามที่จีนคุกคามไต้หวันด้วยกำลังทหารอย่างไม่สิ้นสุด พร้อมทั้งขอบคุณประชาคมโลกสำหรับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง และขอต้อนรับนรม. Gonsalves แห่งเซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ สำหรับการเดินทางมาเยือนไต้หวัน เพื่อแสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนอย่างเต็มที่

กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 7 ส.ค. 65
 
ต่อกรณีที่จีนเพิกเฉยต่อการประณามและการจับตามองของประชาคมโลก ที่ต่างก็เรียกร้องให้จีนยุติการฝึกซ้อมทางทหาร แต่จีนก็ยังคงทำการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงในพื้นที่บริเวณน่านน้ำและน่านฟ้าของไต้หวันอย่างยั่วยุและท้าทาย พร้อมทั้งใช้อากาศยานไร้คนขับบินเข้าสู่พื้นที่เกาะรอบนอกของไต้หวัน ตลอดจนประกาศว่าจะดำเนินการซ้อมรบบริเวณพื้นที่นอกน่านน้ำของจีนติดต่อกันอีกระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งเป็นการสร้างความตึงเครียดในภูมิภาคอย่างจงใจ กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) จึงขอประณามอย่างรุนแรง พร้อมเรียกร้องให้จีนยุติสถานการณ์ตึงเครียดดังกล่าว รวมถึงพฤติกรรมการบ่อนทำลายความสงบเรียบร้อยในภูมิภาคและความผาสุกทั่วโลกด้วย
 
ท่ามกลางสถานการณ์วิกฤตเช่นนี้ ประชาคมโลกได้ร่วมเป็นกระบอกเสียงให้การสนับสนุนไต้หวันอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งเดินทางเยือนไต้หวันเพื่อแสดงให้เห็นถึงความสนับสนุนอย่างเต็มที่ กต.ไต้หวันขอขอบคุณด้วยใจจริง โดยเราจะขอยกกรณีตัวอย่างการให้การสนับสนุนจากประชาคมโลก ดังต่อไปนี้ การประชุมหารือที่ร่วมจัดโดย Mr. Fumio Kishida นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และ Mr. António Guterres เลขาธิการสหประชาชาติ (UN) ได้มีการประณามพฤติกรรมของจีนอย่างรุนแรง พร้อมคาดหวังให้เลขาธิการ UN เร่งประสานความร่วมมือในการเข้าช่วยจัดการ ; Mr. Anthony Albanese นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ตนหวังที่จะเห็นความมั่นคงและสันติภาพเกิดขึ้นในภูมิภาค และไม่ยินดีที่จะเห็นความเปลี่ยนแปลงต่อสถานภาพเดิมในพื้นที่สองฝั่งช่องแคบไต้หวัน ; Mr. Antony Blinken รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ก็ได้แสดงจุดยืนว่าด้วยความสำคัญของการธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในพื้นที่สองฝั่งช่องแคบไต้หวัน ในระหว่างการเข้าร่วมงานแถลงข่าวในรูปแบบออนไลน์กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของฟิลิปปินส์ ; Mr. Anita Anand รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของแคนาดา ก็ได้แถลงว่าการฝึกซ้อมรบของจีนในพื้นที่โดยรอบของไต้หวัน เป็นพฤติกรรมที่ไม่มีความจำเป็น ซึ่งเป็นการทำลายเสถียรภาพในภูมิภาค นอกจากนี้ Mr. Ralph Gonsalves นายกรัฐมนตรีแห่งเซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ มิตรสหายเก่าแก่ของไต้หวัน ก็ได้นำคณะเดินทางมาเยือนไต้หวันในวันที่ 7 ส.ค. ที่ผ่านมา เพื่อแสดงความคิดเห็นอย่างเปิดเผยในการต่อต้านการข่มขู่ด้วยวิธีการใดๆ ที่ใช้กำลังอาวุธ พร้อมเรียกร้องให้จีนยุติการซ้อมรบโดยเร็ว ซึ่งนรม. Gonsalves ได้สำแดงให้เห็นถึงมิตรภาพอันหนักแน่น และการสนับสนุนไต้หวันอย่างเต็มกำลัง นอกจากนี้ Ms. Agnė Vaiciukevičiūtė รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศของสาธารณรัฐลิทัวเนีย ก็ได้นำคณะเดินทางเดินทางมาเยือนแลกเปลี่ยนกับไต้หวัน อย่างไม่เกรงกลัวต่อแรงกดดันจากจีน เพื่อเป้าหมายในการเสริมสร้างความสามัคคีและความยืดหยุ่นของกลุ่มประเทศประชาธิปไตย
 
โดยในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลไต้หวันยังได้แสดงความขอบคุณต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของกลุ่มประเทศ “อุตสาหกรรมชั้นนําของโลก 7 ชาติ” (Group of Seven, G7) รวมถึงการประชุมระดับรัฐมนตรีของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) ที่ต่างก็ได้มีการออกแถลงการณ์ร่วม เพื่อสนับสนุนประชาธิปไตยของไต้หวัน นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ญี่ปุ่นและออสเตรเลีย ก็ได้ประกาศแถลงการณ์ร่วมของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อกระตุ้นให้จีนยุติการซ้อมรบ ซึ่ง Mr. Josep Borrell รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรปและผู้แทนระดับสูงด้านนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงของสหภาพยุโรป ก็ได้เน้นย้ำว่าไม่ยินดีที่จะเห็นการใช้กำลังอาวุธในการเปลี่ยนแปลงสถานภาพเดิมของพื้นที่สองฝั่งช่องแคบไต้หวันในปัจจุบัน
 
ทั้งนี้ รัฐบาลไต้หวันยังได้ขอแสดงความขอบคุณด้วยใจจริงต่อหน่วยงานสภานิติบัญญัติของกลุ่มมิตรประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกับไต้หวัน ที่ร่วมเป็นกระบอกเสียงให้การสนับสนุนไต้หวัน ซึ่งตราบจนปัจจุบัน มีสมาชิกรัฐสภากว่า 300 คนทั่วโลกได้แสดงการสนับสนุนไต้หวัน และประณามจีนที่ใช้กำลังทหารข่มขู่ไต้หวัน ผ่านการยื่นส่งหนังสือหรือโพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์อย่างต่อเนื่อง
 
เมื่อเผชิญหน้ากับการข่มขู่ด้วยกำลังทหารจากรัฐบาลจีน ไต้หวันจะไม่เกรงกลัวและไม่ยอมจำนน แต่จะรับมือด้วยสติ เพื่อปกป้องอำนาจอธิปไตยและความมั่นคงของประเทศอย่างหนักแน่น ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างความยืดหยุ่นของประชาธิปไตยและเศรษฐกิจ รวมถึงแสนยานุภาพในการป้องกันประเทศของไต้หวัน โดยจะยึดมั่นในจิตใจอันดีงาม พร้อมทั้งเชื่อมโยงกับนานาประเทศทั่วโลกอย่างกระตือรือร้น ตลอดจนร่วมประสานสามัคคีกับพันธมิตรด้านประชาธิปไตยในการต่อต้านอำนาจเผด็จการ พร้อมปกป้องค่านิยมสากลให้คงอยู่อย่างยั่งยืนต่อไป