New Southbound Policy Portal
กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 8 ส.ค. 65
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 8 ส.ค. นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้สัมภาษณ์แก่ Mr. Will Ripley ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์ CNN International ของสหรัฐฯ ที่ประจำการอยู่ในไต้หวัน โดยรมว.อู๋ฯ ได้ชี้แจงถึงนัยยะสำคัญของการเดินทางมาเยือนไต้หวันของ Ms. Nancy Pelosi ประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ พร้อมทั้งเน้นย้ำต่อกรณีที่รัฐบาลจีนแก้แค้นด้วยการซ้อมรบรอบน่านน้ำไต้หวันที่เป็นการละเมิดต่อหลักความได้สัดส่วน โดยรมว.อู๋ฯ ระบุว่า ประชาชนและรัฐบาลไต้หวัน “ไม่เกรงกลัว” (We are not scared) พร้อมเปิดประเทศให้การต้อนรับผู้นำกลุ่มประเทศประชาธิปไตยเดินทางเยือนไต้หวันอย่างต่อเนื่อง โดยเนื้อหาบทสัมภาษณ์ ได้ถูกเผยแพร่ผ่านรายการ New Day ของช่อง CNN ในช่วงค่ำของวันเดียวกันนั้น พร้อมมีการเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ CNN และแพลตฟอร์มอื่นๆ ซึ่งได้รับความสำคัญจากประชาคมโลกเป็นอย่างมาก
รมว.อู๋ฯ แถลงว่า การเดินทางมาเยือนไต้หวันของ Ms. Nancy Pelosi ประธานสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ เพื่อส่งสารสำคัญที่ว่า สหรัฐฯ พร้อมให้การสนับสนุนประชาธิปไตยของไต้หวันอย่างเต็มกำลัง พร้อมให้กำลังใจแก่ไต้หวันในการสำแดงความยืดหยุ่นของประชาธิปไตย ซึ่งการเดินทางมาเยือนของ Ms. Pelosi ในครั้งนี้ได้รับการต้อนรับจากรัฐบาลและประชาชนชาวไต้หวันอย่างอบอุ่น นอกจากนี้ รมว.อู๋ฯ ยังได้แสดงจุดยืนอันแน่วแน่ว่า รัฐบาลจีนไม่มีสิทธิ์ก้าวก่ายว่าไต้หวันจะผูกมิตรกับใคร และไม่มีสิทธิ์ก้าวก่ายความสมัครใจของการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างไต้หวัน – ประเทศอื่นๆ โดยไต้หวันจะยังคงต้อนรับการเดินทางมาเยือนของผู้นำกลุ่มประเทศประชาธิปไตยอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีกับกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันต่อไป
ต่อกรณีที่รัฐบาลจีนได้ทำการซ้อมรบรอบเกาะไต้หวันทั้งน่านน้ำและน่านฟ้า ติดต่อกันเป็นเวลาหลายวันนับตั้งแต่ต้นเดือน ส.ค. ตราบจนปัจจุบัน รมว.อู๋ฯ แถลงว่า รัฐบาลจีนได้ใช้กำลังอาวุธในการข่มขู่ไต้หวันเสมอมาเป็นระยะเวลายาวนาน เพื่อต้องการสร้างความสั่นคลอนของค่านิยมด้านประชาธิปไตย เสรีภาพและสิทธิมนุษยชน โดยความท้าทายและพฤติกรรมที่มีความสุ่มเสี่ยงเช่นนี้ ไม่เพียงแต่เกิดขึ้นเฉพาะในวาระที่ผู้นำระดับสูงของสหรัฐฯ เดินทางมาเยือนไต้หวันเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เมื่อเผชิญหน้ากับความท้าทายและการข่มขู่ด้วยกำลังทหารติดต่อกันเป็นเวลาหลายวันเช่นนี้ ประชาชนชาวไต้หวันกลับไม่รู้สึกหวั่นกลัว แต่กลับสำแดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นของประชาธิปไตย ภายใต้การถูกคุกคามจากจีนที่เพิ่มระดับความรุนแรงมากขึ้นในระยะนี้
รมว.อู๋ฯ เน้นย้ำว่า ตลอดหลายปีมานี้ รัฐบาลจีนรุกล้ำและก่อกวนไต้หวันผ่านทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความตึงเครียดด้วยกำลังทหาร การบีบบังคับทางเศรษฐกิจ สงครามไซเบอร์หรือการแพร่กระจายข่าวปลอม เป็นต้น ตลอดจนพยายามสร้างแรงกดดันและโดดเดี่ยวไต้หวันในเวทีนานาชาติ อย่างไรก็ตาม เป้าหมายของการแผ่ขยายอิทธิพลของลัทธิอำนาจนิยม ไม่ได้เจาะจงเฉพาะกับไต้หวันเท่านั้น แต่จีนยังได้สร้างความหวั่นวิตกให้เกิดแก่ภูมิภาคแอฟริกาและลาตินอเมริกา มหาสมุทรแปซิฟิก รวมถึงทะเลจีนใต้และทะเลจีนตะวันออก เพื่อต้องการแผ่ขยายอำนาจเผด็จการไปสู่ทั่วโลก โดยไต้หวันจะเร่งเสริมสร้างแสนยานุภาพในการป้องกันประเทศ พร้อมประสานความร่วมมือกับกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันในการปกป้องค่านิยมด้านประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนต่อไป พร้อมมุ่งมั่นในการธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน ตลอดจนเสริมสร้างความร่วมมือกับนานาประเทศ ในการต่อกรกับการแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการ อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
โดย CNN เป็นสื่อระดับนานาชาติที่มีชื่อเสียง ซึ่งนำเสนอรายการข่าวต่างประเทศ ข้อมูลสถานการณ์ระหว่างประเทศล่าสุด และข่าวเศรษฐกิจเป็นหลัก ซึ่งนอกจากจะมีการเผยแพร่ภายในประเทศสหรัฐฯ แล้ว ยังมีอีก 200 กว่าประเทศที่สามารถรับชมข่าวสารผ่านสถานีโทรทัศน์ CNN ได้ นับเป็นสื่อที่ทรงอิทธิพลในแวดวงข่าวระดับโลก