New Southbound Policy Portal
คณะกรรมการกิจการจีนแผ่นดินใหญ่ วันที่ 10 ส.ค. 65
เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ที่ผ่านมา คณะกรรมการกิจการจีนแผ่นดินใหญ่ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) แถลงว่า รัฐบาลจีนได้ประกาศสมุดปกข่าวสำหรับไต้หวัน ท่ามกลางสถานการณ์ที่จีนสร้างแรงกดดันต่อไต้หวันด้วยกำลังทหารติดต่อกันเป็นเวลาหลายวันในช่วงหลายวันนี้ โดยเนื้อความในสมุดปกขาวประกอบด้วยข้อมูลที่ไม่สอดคล้องต่อกฎหมายระหว่างประเทศและข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับพื้นที่สองฝั่งช่องแคบไต้หวัน สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ขอประท้วงอย่างจริงจัง เนื่องจากสาระสำคัญของบทความดังกล่าวเป็นคำโกหกที่จีน “เห็นชอบเพียงฝ่ายเดียว และเพิกเฉยต่อข้อเท็จจริง” อีกทั้งยังได้อ้างถึงวิสัยทัศน์หลังการเข้าครอบครองไต้หวัน แต่มิได้มีการระบุถึงพฤติกรรมความรุนแรงที่ต้องการจะรุกล้ำอำนาจอธิปไตยของไต้หวัน ซึ่งพฤติกรรมทางการเมืองอันป่าเถื่อนและหยาบกระด้างของรัฐบาลปักกิ่ง ยิ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความทะเยอทะยานในการรุกล้ำไต้หวันด้วยกำลังทหาร และแนวคิดที่ต้องการทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในพื้นที่สองฝั่งช่องแคบไต้หวัน และยังเป็นบทพิสูจน์ให้เห็นถึงความล้มเหลวของการจำกัดขอบเขตของไต้หวัน ที่รัฐบาลจีนมุ่งมั่นสร้างแรงกดดันมาเป็นเวลานาน เราขอแถลงการณ์ด้วยความแน่วแน่ว่า ไต้หวันยังคงยึดมั่นในข้อเท็จจริงที่ว่า “สองฝั่งช่องแคบไต้หวัน มิได้เป็นของกันและกัน” พร้อมทั้งปฏิเสธหลักการ “1 ประเทศ 2 ระบอบ” อย่างหนักแน่น ซึ่งนี่คือข้อเท็จจริงและสถานการณ์ล่าสุดของพื้นที่สองฝั่งช่องแคบไต้หวันในปัจจุบัน
คกก.กิจการจีนฯ เน้นย้ำว่า สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เป็นประเทศที่มีอำนาจอธิปไตยเป็นของตนเอง รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน ไม่เคยได้เข้าปกครองดินแดนไต้หวัน รวมถึงพื้นที่รอบนอกอย่างเผิงหู จินเหมินและมาจู่ เลยแม้แต่วันเดียว โดย “หลักการจีนเดียว” ที่บิดเบือนข้อเท็จจริง และอ้างอิงกฎบัตรของสหประชาชาติ รวมถึงกล่าวอ้างอำนาจเหนืออธิปไตยของไต้หวัน ตลอดจนท้าทายความสงบเรียบร้อยของประชาคมโลก ต่างถูกประณามและต่อต้านจากประชาคมโลกและประเทศประชาธิปไตยเป็นส่วนมาก ส่วน “ยุทธศาสตร์สำหรับไต้หวันในภาพรวม” ในยุคสมัยใหม่ที่ได้มีการระบุลงในสมุดปกขาว เป็นเพียงการรายงานให้ทราบกันภายในประเทศ ในการประชุมผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีนแห่งชาติครั้งที่ 20 เท่านั้น ซึ่งเป็นการประชาสัมพันธ์ข้อมูลเท็จ จึงเห็นได้ว่า รัฐบาลปักกิ่ง หลอกลวงทั้งต่อผู้อื่นและตนเอง ผ่านการบรรยายแนวทางการพัฒนาของไต้หวันในอนาคต ซึ่งไร้ประโยชน์สิ้นดี เนื่องจากประชาชนชาวไต้หวันต่างก็รู้สึกต่อต้าน โดยเสียงประชาชนส่วนมากได้ปฏิเสธ “หลักการ 1 ประเทศ 2 ระบอบ” มาตั้งแต่เริ่มต้น ทิศทางในอนาคตของไต้หวัน มีเพียงประชาชนชาวไต้หวันจำนวน 23.5 ล้านคนเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ตัดสินใจ ซึ่งเราไม่มีทางยอมรับบทสรุปของพื้นที่สองฝั่งช่องแคบไต้หวันที่กำหนดโดยรัฐบาลเผด็จการอย่างแน่นอน
คกก.กิจการจีนฯ ชี้แจงว่า ไต้หวันที่เป็นประชาธิปไตยเป็นสมาชิกที่มีความรับผิดชอบในภูมิภาค แต่จีนกลับเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดที่สร้างวิกฤตความเสี่ยงให้เกิดแก่ภูมิภาค คกก.กิจการจีนฯ จึงขอให้รัฐบาลปักกิ่งยุติการข่มขู่ไต้หวันด้วยกำลังทหาร รวมถึงการแพร่กระจายข้อมูลเท็จข้างต้น และควรทำความเข้าใจว่า ไต้หวันเป็นประเทศที่ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยและเสรีภาพอย่างหนักแน่น ทั้งสองประเทศมิได้เป็นของกันและกัน และไต้หวันจะไม่มีวันยินยอมให้อำนาจอธิปไตยตกเป็นของผู้อื่น นอกจากนี้ อนาคตของสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) จำเป็นต้องเคารพตามข้อเสนอและจุดยืนที่ระบุไว้ใน “หลักการ 4 ข้อ” ซึ่งรวมถึงความสมัครใจของประชาชนชาวไต้หวันด้วย โดยรัฐบาลของไต้หวันจะดำเนินการพิจารณาและประเมินสถานการณ์อย่างรอบคอบ พร้อมทั้งจะปกป้องประชาธิปไตยและเสรีภาพอย่างเต็มกำลัง ควบคู่ไปกับการเรียกร้องให้พันธมิตรด้านประชาธิปไตยในประชาคมโลก ให้การสนับสนุนไต้หวัน สกัดกั้นการรุกล้ำทางกำลังทหาร และรับมือกับความท้าทายอย่างรุนแรงของอำนาจเผด็จการที่ไร้ซึ่งความรับผิดชอบต่อประชาคมโลกต่อไป