New Southbound Policy Portal
ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 16 ส.ค. 65
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 16 ส.ค. ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้รับมอบสาส์นตราตั้งจากH.E. Harold Burgos เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐฮอนดูรัส โดยปธน. ไช่ฯ ได้แสดงความยินดีและกล่าวต้อนรับการเดินทางมาประจำตำแหน่งในไต้หวันของ H.E. Burgos เพื่อร่วมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างไต้หวัน – ฮอนดูรัสให้เป็นไปในเชิงลึกต่อไป นอกจากนี้ ปธน.ไช่ฯ ยังได้แสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลฮอนดูรัสที่ให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมองค์การระหว่างประเทศอย่างหนักแน่น พร้อมทั้งยังร่วมเป็นกระบอกเสียงให้ไต้หวันในเวทีนานาชาติอย่างต่อเนื่อง เมื่อเผชิญหน้ากับการแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการในปัจจุบัน พันธมิตรด้านประชาธิปไตยควรที่จะเสริมสร้างความร่วมมือ และประสานสามัคคีระหว่างกัน ตลอดจนเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน เพื่อเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนทางความร่วมมือในด้านต่างๆ ระหว่างกันต่อไป
ปธน.ไช่ฯ แถลงว่า ไต้หวัน – ฮอนดูรัส เป็นพันธมิตรที่ยึดมั่นในประชาธิปไตยและเสรีภาพร่วมกัน โดยปธน.ไช่ฯ ขอแสดงความขอบคุณต่อคณะรัฐบาลที่นำโดย Ms. Xiomara Castro ประธานาธิบดีของสาธารณรัฐฮอนดูรัส ที่ได้ให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมในองค์การระหว่างประเทศอย่างหนักแน่น พร้อมทั้งเป็นกระบอกเสียงให้ไต้หวันบนเวทีนานาชาติอย่างต่อเนื่องเสมอมา
ปธน.ไช่ฯ ระบุว่า ไต้หวัน – ฮอนดูรัสได้ร่วมสรรค์สร้างผลสัมฤทธิ์ทางความร่วมมือในหลากหลายด้าน ภายใต้พื้นฐานเดิมที่มีอยู่ โดยการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจและการค้าแบบทวิภาคีเป็นไปอย่างรุ่งโรจน์ อาทิ กุ้งขาว เนื้อวัว และเมล็ดกาแฟ ล้วนแล้วแต่เป็นสินค้าคุณภาพชั้นดีของฮอนดูรัส ที่ประชาชนชาวไต้หวันนิยมบริโภค
ปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า ทั้งสองประเทศยังได้ประสานความร่วมมือในด้านการศึกษาและวัฒนธรรม จนบังเกิดผลสัมฤทธิ์ขึ้นมากมาย ซึ่ง H.E. Burgos เป็นหนึ่งในสักขีพยานของการแลกเปลี่ยนด้านการศึกษาและวัฒนธรรมระหว่างสองประเทศ โดย H.E. Burgos นอกจากจะมีความเข้าใจต่อไต้หวันอย่างลึกซึ้งแล้ว ยังให้การสนับสนุนไต้หวันอย่างหนักแน่น ปธน.ไช่ฯ เชื่อว่า H.E. Burgos จะสามารถเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้ก้าวสู่บริบทหน้าใหม่ต่อไปได้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ เพื่อสร้างความผาสุกและสวัสดิการอันครอบคลุมให้แก่ประชาชนทั้งสองประเทศต่อไป ในตอนท้าย ปธน.ไช่ฯ ยังได้อวยพรให้ H.E. Burgos ประสบความสำเร็จ และบังเกิดผลสัมฤทธิ์ในการปฏิบัติภารกิจระหว่างที่ประจำอยู่ในไต้หวัน
H.E. Burgos กล่าวว่า ข้าพเจ้ารู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้มีโอกาสทำหน้าที่เป็นเอกอัครราชทูตฮอนดูรัสประจำไต้หวัน โดยข้าพเจ้าได้ตั้งปณิธานในการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศให้เป็นไปในเชิงลึก ตลอดจนเสริมสร้างความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
H.E. Burgos แถลงว่า ข้าพเจ้าขอทำหน้าที่เป็นตัวแทนส่งผ่านคำทักทายของปธน. Castro ที่มีต่อปธน.ไช่ฯ โดยปธน. Castro ระบุว่า ท่ามกลางสถานการณ์ที่ทั้งสองประเทศต่างเผชิญหน้ากับความท้าทายอย่างรุนแรง ภาระหน้าที่ของผู้นำประเทศที่เป็นสตรีเช่นเดียวกันของสองประเทศ คือต้องแบกรับภารกิจในการปกป้องสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะต้องปกป้องกลุ่มผู้ด้อยโอกาส นอกจากนี้ ปธน. Castro ยังระบุว่า ประชาธิปไตยของไต้หวันเปี่ยมด้วยความแข็งแกร่งและยืดหยุ่น อีกทั้งไต้หวันยังเป็นประเทศที่มุ่งมั่นสร้างความผาสุกให้ประชาชน ส่งเสริมให้การแพทย์และการศึกษาครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ในประเทศ มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สมบูรณ์ ตลอดจนประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเชิงนวัตกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปธน. Castro เชื่อว่า ทั้งสองประเทศมีความจำเป็นต้องเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านการเมือง สังคม เศรษฐกิจและการค้าให้เกิดความแนบแน่นยิ่งๆ ขึ้นไป โดยการประสานความร่วมมือและการเจรจาหารือ นับเป็นรากฐานสำคัญที่จะสามารถก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆ จากภัยพิบัติทางธรรมชาติ สภาพแวดล้อมทางสาธารณสุข และความมั่นคงในภายภาคหน้า
H.E. Burgos เผยว่า ฮอนดูรัสต้องการเชิญชวนให้ไต้หวันร่วมเป็นพันธมิตรในการพิชิตความฝัน เพื่อส่งเสริมเสรีภาพของประชาชน ฮอนดูรัสต้องการที่จะสร้างประเทศที่เปี่ยมด้วยความสุข ให้ความเคารพต่อการตัดสินใจของภาคประชาชน เคารพต่อหลักสิทธิมนุษยชน ปฏิเสธการแทรกแซงจากอิทธิพลภายนอก ต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน และมุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยรัฐบาลฮอนดูรัสจะมุ่งมั่นแสวงหาความเป็นธรรมในสังคม โดยเฉพาะการสร้างหลักประกันให้แก่กลุ่มผู้ด้อยโอกาส อย่างสตรี เด็ก กลุ่มเกษตรกรและกลุ่มชนพื้นเมือง เป็นต้น นอกจากนี้ โครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณสุขและการศึกษา ก็เป็นประเด็นสำคัญอันดับต้นๆ ที่ฮอนดูรัสให้ความสำคัญ ซึ่งพันธกิจข้างต้นนี้ เป็นแกนหลักในนโยบายด้านพัฒนาและยกระดับประเทศชาติที่ปธน. Castro กำหนดไว้ เชื่อว่าจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ในระหว่างการปฏิบัติภารกิจเพื่อบรรลุเป้าหมายข้างต้น
ท้ายนี้ H.E. Burgos ยังได้กล่าวเป็นภาษาจีนว่า ไต้หวันเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของเขา โดยก่อนหน้านี้ เขาเคยมาพำนักอาศัยอยู่ที่ไต้หวันเป็นเวลา 5 ปี แม้ว่าเวลาจะล่วงเลยมากว่า 10 ปีแล้ว แต่เมื่อได้กลับมาเยือนดินแดนผืนนี้อีกครั้ง เขากลับรู้สึกว่าไม่เคยจากไต้หวันไปไหนเลย “ข้าพเจ้ารู้สึกเหมือนได้กลับบ้าน เพราะใจไม่เคยไปจากที่นี่เลย”