New Southbound Policy Portal

ทำเนียบประธานาธิบดี สภาบริหารและกระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 9 ก.ย. 65
 
เมื่อวันที่ 8 ก.ย. ที่ผ่านมา พระราชวังบักกิงแฮมได้ประกาศแถลงการณ์เกี่ยวกับการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักร (HM Queen Elizabeth II) ด้วยสิริพระชนมายุรวม 96 พรรษา หลังจากที่รับทราบข่าว ในวันที่ 9 ก.ย. นายจางตุนหาน โฆษกทำเนียบประธานาธิบดี สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ออกแถลงการณ์ โดยระบุว่า ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ในฐานะตัวแทนรัฐบาลและประชาชนไต้หวัน ขอร่วมแสดงความไว้อาลัยต่อรัฐบาลและประชาชนชาวอังกฤษ พร้อมร่วมแสดงความเสียใจจากใจจริงต่อสมเด็จพระราชาธิบดีชาลส์ที่ 3 (HM King Charles III) กษัตริย์องค์ใหม่แห่งสหราชอาณาจักร และพระบรมวงศานุวงศ์ โดยปธน.ไช่ฯ ยังได้กำชับให้กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และสำนักงานตัวแทนสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ประจำอังกฤษ ร่วมแสดงความอาลัยและความเสียใจจากใจจริงต่อรัฐบาลอังกฤษด้วย
 
สมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 ครองราชย์มาเป็นระยะเวลา 70 ปี ซึ่งทรงเป็นที่รักยิ่งของภาคประชาชนอย่างกว้างขวาง อีกทั้งยังได้รับการยกย่องชื่นชมจากประชาคมโลกเป็นอย่างมาก โดยสมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 เป็นเชื้อพระวงศ์ที่ขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นประมุขแห่งชาติที่เป็นสตรีพระองค์แรกหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยหลังจากที่เสด็จขึ้นครองราชย์แล้ว ก็ได้นำพาดินแดนภายใต้อธิปไตยของสหราชอาณาจักรก้าวผ่านยุคสงครามเย็น เข้าสู่การเผชิญหน้ากับการแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการ นับได้ว่าเป็นผู้นำที่นำประเทศก้าวผ่านการเปลี่ยนแปลงและความท้าทายในยุคสมัยต่างๆ อย่างกล้าหาญ ซึ่งสหราชอาณาจักรภายใต้การนำของสมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 ถือเป็นพลังอันแข็งแกร่งที่เป็นต้นแบบซึ่งมิสามารถขาดไปได้สำหรับกลุ่มประเทศประชาธิปไตยทั่วโลก
 
โฆษกจางฯ กล่าวว่า การเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 เป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของอังกฤษและประชาคมโลก ชาวไต้หวันขอร่วมแสดงความอาลัยและขอให้สมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 เสด็จสู่สวรรคาลัย พร้อมขอให้พระบรมวงศานุวงศ์คลายความโทมนัสลงในเร็ววัน โดยไต้หวันจะร่วมน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณด้านสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองที่พระองค์ทรงร่วมสร้างไว้ อีกทั้งไต้หวันยังจะประสานความร่วมมือกับอังกฤษ ในการมุ่งมั่นปกป้องค่านิยมที่ยึดมั่นร่วมกัน ให้คงอยู่ต่อไป
 
นอกจากนี้ ในวันเดียวกันนั้น นายหลัวปิ่งเฉิง โฆษกสภาบริหาร ก็ได้ออกแถลงการณ์ว่า หลังจากที่นายซูเจินชาง นายกรัฐมนตรี สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ทราบข่าวข้างต้น ก็ได้แสดงความรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่ง พร้อมกำชับนายหลัวฯ ทำหน้าที่เป็นตัวแทนสภาบริหาร ร่วมไว้อาลัยและแสดงความเคารพอย่างสูงสุดต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2
 
โฆษกหลัวฯ ชี้ว่า พระราชประวัติของสมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 จะเป็นตำนานที่ตราตรึงใจของพสกนิกรชาวอังกฤษและประชาชนทั่วโลกตราบนานเท่านาน โดยการที่พระองค์ทรงเป็นที่รักและเคารพของเหล่าพสกนิกร ก็เป็นผลที่สืบเนื่องมาจากหลังการเสด็จขึ้นครองราชย์ พระองค์ทรงมุ่งมั่นในการสร้างคุณประโยชน์ให้ประชาชนชาวอังกฤษอย่างท่วมท้น ด้วยการนำพาประเทศชาติมุ่งสู่การพัฒนาอย่างกล้าหาญเด็ดเดี่ยว ผนึกกำลังของภาคประชาชนในการก้าวผ่านยุคสงคราม พร้อมทรงรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ระหว่างประเทศด้วยพระปรีชาสามารถ ซึ่งไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย พระนามของท่านก็จะยังคงเป็นที่ยกย่องของมวลหมู่พสกนิกรตลอดไป
 
กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ก็ได้กำชับให้สำนักงานตัวแทนสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ประจำอังกฤษ ร่วมแสดงความอาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 พร้อมแสดงความเสียใจจากจริงใจต่อสมเด็จพระราชาธิบดีชาลส์ที่ 3 (HM King Charles III) และพระบรมวงศานุวงศ์ รวมถึงรัฐบาลและประชาชนในเครือจักรภพอังกฤษ นอกจากนี้ นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ก็ได้ติดต่อไปยัง Mr. John Dennis ผู้แทนรัฐบาลอังกฤษประจำไต้หวัน เพื่อส่งผ่านความเสียใจจากจริงใจด้วยเช่นกัน
 
สมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 ขึ้นครองราชย์ตั้งแต่ปีค.ศ. 1953 เป็นต้นมา ตราบจนปัจจุบัน เป็นระยะเวลากว่า 70 ปีแล้ว ถือเป็นองค์ประมุขหญิงที่อยู่ในวาระตำแหน่งประมุขของประเทศที่ยืนยาวที่สุดในโลก และครองพระราชสมบัติครบ 70 ปี (Platinum Jubilee) เป็นพระองค์แรกของสหราชอาณาจักร โดยทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจเพื่อประโยชน์สุขของเหล่าพสกนิกรในประเทศเสมอมา อีกทั้งยังทรงมุ่งมั่นดำเนินพระราชกรณียกิจด้านการกุศลมาอย่างยาวนาน จึงทรงเป็นที่รักยิ่งของพสกนิกรชาวอังกฤษ การเสด็จสู่สวรรคาลัยของสมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2 นอกจากจะเป็นความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ของรัฐบาลและประชาชนอังกฤษแล้ว ยังเป็นการสูญเสียต้นแบบผู้นำของประชาคมโลกอีกด้วย