New Southbound Policy Portal

รมว.กระทรวงการพัฒนาดิจิทัล เข้าร่วมการประชุม APrlGF ผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอเรนซ์ เพื่อร่วมแบ่งปันแนวทางการลดก๊าซเรือนกระจกด้วยวิธีการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัล

กระทรวงการพัฒนาดิจิทัล วันที่ 12 ก.ย. 65
 
เมื่อวันที่ 12 ก.ย. ออเดรย์ ถัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาดิจิทัล สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เข้าร่วม “การประชุมว่าด้วยธรรมาภิบาลด้านอินเทอร์เน็ตในภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก” (Asia Pacific Regional Internet Governance Forum, APrIGF) ภายใต้กรอบ “การประชุมว่าด้วยธรรมาภิบาลด้านอินเทอร์เน็ต” (Internet Governance Forum, IGF) ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยรมว. ถังฯ ได้ร่วมแบ่งปันการผลักดันการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกด้วยวิธีการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลของไต้หวัน ในประเด็นด้านนโยบายการพัฒนาอย่างยั่งยืนและการลดการใช้อินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นประเด็นหลักในวาระการประชุมครั้งนี้ โดยรมว.ถังฯ ยกกรณีตัวอย่างของแพลตฟอร์ม “Tcloud Marketplace” ที่จัดตั้งขึ้นโดยสำนักงานอุตสาหกรรมดิจิทัล เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) จัดตั้งแผนโซลูชันเพื่อการแก้ไขปัญหาผ่านระบบคลาวด์ อาทิ การคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) และการบริหารจัดการพลังงาน เป็นต้น นอกจากนี้ เครือข่ายอินเทอร์เน็ต 3G ของไต้หวัน มีกำหนดการรื้อถอนแล้วเสร็จภายในปี 2024 โดยคาดว่าจะสามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้กว่า 100 ล้านยูนิต
 
การประชุม APrIGF ปี 2022 มีกำหนดการเปิดฉากขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 12 – 14 ก.ย. โดยสิงคโปร์รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในปีนี้ ซึ่งเป็นการประชุมที่จัดขึ้นในรูปแบบไฮบริด โดยมีประเด็นหัวข้อการประชุมหลักคือ “ยึดมนุษย์เป็นศูนย์กลาง : ค้นพบอินเทอร์เน็ตที่นำโดยชุมชนที่เปี่ยมด้วยการยอมรับซึ่งกันและกัน มีการพัฒนาอย่างยั่งยืนและเชื่อถือได้” (People at the Centre: Envisioning a community-led Internet that is inclusive, sustainable and trusted)
 
โดยรมว.ถังฯ ได้รับเชิญให้เข้าร่วมเสวนาในการประชุมผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอเรนซ์ ภายใต้หัวข้อ “มุ่งสู่แนวคิดอินเทอร์เน็ตรักษ์โลก : การประชุมแบบพหุภาคีว่าด้วยการกำหนดนโยบายและกลยุทธ์ด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนและการลดการใช้อินเทอร์เน็ต” (Towards an EcoInternet - A Multistakeholder Dialogue on Policy Making and Strategising for a Sustainable and Energy Efficient Internet) เพื่อร่วมแบ่งปันประสบการณ์และแนวทางการลดก๊าซเรือนกระจก ด้วยวิธีการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลของไต้หวัน
 
รมว.ถังฯ แถลงในระหว่างการประชุมว่า ท่ามกลางสถานการณ์โรคโควิด – 19  ไต้หวันได้มีการจัดตั้งกลไกการชำระเงินผ่านแอพลิเคชันสมาร์ทโฟนเพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประกอบการร้านค้า ผ่านแพลตฟอร์ม “Tcloud Marketplace” โดยกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs สามารถเลือกซื้อบริการที่ต้องการผ่านแพลตฟอร์มดังกล่าวนี้ได้ เพื่อสัมผัสกับความเป็นไปได้ในการผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลในกลุ่มผู้ประกอบการ SMEs เมื่อเผชิญหน้ากับประเด็นการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ “Tcloud Marketplace” ก็ได้คิดค้นแผนโซลูชันเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องผ่านระบบคลาวด์ อาทิ การคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์  และระบบการบริหารจัดการพลังงาน เป็นต้น ซึ่งขณะนี้มีซัพพลายเออร์ที่อยู่ในระบบรวม 11 ราย และมีแผนโซลูชันที่รองรับการให้การบริการรวม 14 รายการ ทั้งนี้ เพื่อต้องการส่งเสริมให้เหล่าผู้ประกอบการ SMEs นำไปประยุกต์ใช้เป็นแนวทางการลดก๊าซเรือนกระจกต่อไป
 
รมว.ถังฯ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เหล่าผู้ประกอบการ SMEs ต่างรู้สึกว่า การทวนสอบคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint Verification) เป็นเรื่องที่ยุ่งยากซับซ้อน คงมีเพียงแค่ผู้ประกอบการรายใหญ่ที่สามารถทำได้ รมว.ถังฯ จึงได้ยกกรณีตัวอย่าง “การประชุมสุดยอดนวัตกรรมเพื่อสังคมในภูมิภาคเอเชีย – แปซิฟิก” (Asia Pacific Social Innovation Summit) ที่ไต้หวันจัดขึ้นเมื่อเดือนพ.ค. ปีนี้ ที่ได้ทดลองจัดนิทรรศการด้านการทวนสอบคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ซึ่งผ่านการรับรองมาตรฐานสากล  โดยในปัจจุบัน การบรรลุแนวทางการลดก๊าซเรือนกระจก ผ่านแพลตฟอร์มข้างต้นนับวันยิ่งมีความสะดวกมากขึ้น รมว.ถังฯ จึงขอแนะนำให้บรรดาผู้เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ ทดลองคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ในระหว่างการจัดกิจกรรม เพื่อที่ในอนาคตอาจจะก้าวสู่การเป็นผู้นำในการส่งเสริมการลดก๊าซเรือนกระจกผ่านอินเทอร์เน็ต ที่อาจสามารถส่งอิทธิพลต่อวงการนี้ต่อไป
 
รมว.ถังฯ ระบุเพิ่มเติมว่า ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้กำหนดเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ในปี 2050 ซึ่งนอกเหนือจากการจัดตั้งแผนโซลูชันการลดก๊าซเรือนกระจกผ่านแพลตฟอร์ม  “Tcloud Marketplace” โดยหน่วยงานข้างต้นแล้ว คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (NCC) ยังได้วางแผนรื้อถอนเครือข่าย 3G ทั่วทุกพื้นที่ภายในประเทศ ก่อนปี 2024 โดยหลังจากที่เครือข่าย 3G ปิดให้บริการลง ควบคู่กับการอัพเกรดสัญญาณแบบ 4G VoLTE คาดว่าทั่วไต้หวันจะสามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้ประมาณราว 100 ล้านยูนิตเลยทีเดียว