New Southbound Policy Portal

รมว.กต.ไต้หวันจัดเลี้ยงรับรอง Mr. Drahoš ประธานคณะกรรมาธิการ การศึกษา วิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม สิทธิมนุษยชนและการร้องเรียนแห่งวุฒิสภาสาธารณรัฐเช็ก และคณะตัวแทน โดยทั้งสองฝ่ายจะเร่งผลักดันความสัมพันธ์ทางความร่วมมือในด้านต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่องต่อไป


กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 20 ก.ย. 65
 
เมื่อวันที่ 20 ก.ย. นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้จัดเลี้ยงอาหารกลางวันต้อนรับ Mr. Jiří Drahoš ประธานคณะกรรมาธิการการศึกษา วิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม สิทธิมนุษยชนและการร้องเรียน แห่งวุฒิสภาสาธารณรัฐเช็ก และสมาชิกคณะตัวแทน ที่ประกอบด้วย Ms. Eva Zažímalová ผู้อำนวยการสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งเช็ก Ms. Radka Wildová รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ Ms. Jana Havlikova รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ และ Mr. Michal Lukeš ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์แห่งชาติสาธารณรัฐเช็ก ซึ่งเป็นอีกครั้งที่รัฐบาลสาธารณรัฐเช็กรวบรวมคณะที่ประกอบด้วยสมาชิกรัฐสภา และเจ้าหน้าที่หน่วยงานบริหาร รวมถึงผู้แทนสำคัญในแวดวงวัฒนธรรมและวิชาการ ร่วมเดินทางเยือนไต้หวัน หลังการนำคณะตัวแทนเดินทางมาเยือนของ Mr. Miloš Vystrčil ประธานวุฒิสภาสาธารณรัฐเช็ก เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2020 ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสนับสนุนไต้หวันอย่างเป็นรูปธรรม ตลอดจนร่วมเป็นสักขีพยานในความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนอย่างครอบคลุมระหว่างไต้หวัน - เช็ก
 
รมว.อู๋ฯ กล่าวขอบคุณ Mr. Drahoš ที่ได้นำคณะตัวแทนเดินทางมาเยือนไต้หวัน พร้อมกล่าวว่า หลังจากที่ Mr. Vystrčil เดินทางเยือนไต้หวันเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน - เช็กก็ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องขึ้นเป็นลำดับ โดยเฉพาะในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้จัดการซ้อมรบในพื้นที่รอบน่านน้ำของไต้หวันในระยะประชิด อีกทั้งยังได้โจมตีทั้งทางวาจาและกำลังทหารอย่างต่อเนื่อง การเดินทางมาเยือนของคณะวุฒิสมาชิกในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการปลุกความฮึกเหิมให้แก่ประชาชนชาวไต้หวันแล้ว ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงรากฐานที่มั่นคงในความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – เช็ก อีกด้วย
 
รมว.อู๋ฯ ยังได้แถลงว่า การมาเยือนของคณะตัวแทนในครั้งนี้ ทำให้รมว.อู๋ฯ นึกย้อนไปถึงช่วงเวลาเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ที่รมว.อู๋ฯ ได้เดินทางเยือนสาธารณรัฐเช็ก โดยได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากประชาชนชาวเช็ก จึงเกิดเป็นความประทับใจที่ไม่รู้ลืม เชื่อว่าคณะตัวแทนที่เดินทางมาเยือนไต้หวันในครั้งนี้ จะมีความรู้สึกเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ รมว.อู๋ฯ ยังได้แสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลเช็กที่ให้การสนับสนุนการเข้าร่วมในองค์การระหว่างประเทศของไต้หวัน ซึ่งนอกจากวุฒิสภาจะลงมติเห็นชอบญัตติว่าด้วยการสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมองค์การระหว่างประเทศแล้ว ในปีนี้ วุฒิสมาชิกของเช็กยังได้ร่วมเป็นกระบอกเสียงให้ไต้หวัน ในระหว่างการประชุมสมัชชาอนามัยโลก (WHA) อีกด้วย ซึ่งสร้างความซาบซึ้งใจให้แก่ประชาชนชาวไต้หวันเป็นอย่างมาก พร้อมนี้ รมว.อู๋ฯ ยังได้ยืนยันถึงความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนระหว่าง 2 ประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันและยึดมั่นในค่านิยมด้านเสรีภาพ ประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนร่วมกัน โดยในระหว่างนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และการศึกษาระหว่างกัน จึงจะเห็นได้ว่าความร่วมมือของทั้ง 2 ประเทศมีความหลากหลาย อีกทั้งยังสอดรับความต้องการด้านการพัฒนาของ 2 ประเทศ รมว.อู๋ฯ เชื่อว่าความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – เช็ก จะก้าวสู่การพัฒนาในอีกระดับที่ดียิ่งๆ ขึ้นไป
 
Mr. Drahoš กล่าวขอบคุณรัฐบาลไต้หวันที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น แม้ว่าไต้หวัน – เช็กจะมีนระยะทางห่างกันกับนับพันไมล์ แต่ทั้ง 2 ประเทศกลับมีความเชื่อมโยงกันอย่างแนบแน่น อันเนื่องมาจากการยึดมั่นในค่านิยมเดียวกัน ท่ามกลางสถานการณ์การสู้รบระหว่างรัสเซีย - ยูเครน ไต้หวันและพันธมิตรด้านประชาธิปไตยได้ร่วมกันประณามรัสเซีย พร้อมทั้งยื่นมือให้ความช่วยเหลือแก่ยูเครน ซึ่งได้รับการยกย่องชื่นชมจากประชาคมโลกถ้วนหน้า นอกจากนี้ Mr. Drahoš ยังได้ให้การยอมรับต่อการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือด้านการป้องกันโรคระบาดและสาธารณสุขของทั้ง 2 ประเทศ ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 อาทิ การบริจาคหน้ากากอนามัยและวัคซีนให้แก่กัน การส่งมอบความห่วงใยและเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณความสามัคคีของพันธมิตรด้านประชาธิปไตย
 
Mr. Drahoš แถลงว่า การปฏิสัมพันธ์กันระหว่างเจ้าหน้าที่ภาครัฐและภาคประชาชนของ 2 ประเทศ เป็นไปอย่างใกล้ชิด Mr. Drahoš จึงคาดหวังที่จะเห็นทั้ง 2 ประเทศมุ่งมั่นผลักดันการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือที่เพิ่มพูนมากยิ่งขึ้น โดยการเปิดเส้นทางบินตรงระหว่างกัน เป็นเป้าหมายที่รัฐบาลเช็กคาดหวังที่จะบรรลุผลสัมฤทธิ์โดยเร็ววัน รวมไปถึงด้านอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ และแนวทางการเสริมสร้างความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทานประชาธิปไตย เป็นต้น โดยรมว.อู๋ฯ เชื่อมั่นว่า โอกาสธุรกิจหลังยุคโควิด – 19 จะขยายตัวอย่างไร้ขีดจำกัด เส้นทางบินตรงระหว่างไต้หวัน – เช็ก เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญที่ไต้หวันจะเร่งผลักดันอย่างกระตือรือร้นเพื่อเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน โดยคาดหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะบังเกิดผลสัมฤทธิ์โดยเร็ววัน