New Southbound Policy Portal

ดร.จางจงโหมว ตัวแทนผู้นำไต้หวันในการประชุมเอเปค จัดงานแถลงข่าวนานาชาติหลังเสร็จสิ้นการประชุม AELM 2022 พร้อมร่วมหารือกับนรม.ฟูมิโอะ คิชิดะแห่งญี่ปุ่น

ทำเนียบประธานาธิบดีและกระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 20 พ.ย. 65
 
เมื่อช่วงที่ผ่านมา ดร.จางจงโหมว ผู้ก่อตั้งบริษัท Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC) ได้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของผู้นำไต้หวัน เข้าร่วมการประชุมผู้นำกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย - แปซิฟิก (APEC Economic Leaders' Meeting, AELM) ครั้งที่ 29 ประจำปี 2022 ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศไทย โดยเมื่อเวลา 16:40 น. ของวันที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น หรือเทียบเท่ากับเวลา 17:40 น.ของวันที่ 18 พ.ย. ตามเวลาในไต้หวัน ดร.จางฯ ได้ร่วมประชุมหารือกับนายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ที่กรุงเทพมหานคร เพื่อแลกเปลี่ยนกันความคิดเห็นในประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายให้ความสนใจร่วมกัน
 
โดยในระหว่างการหารือ ดร.จางฯ กล่าวว่า ไต้หวัน – ญี่ปุ่น มักจะยื่นมือให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เมื่อต่างฝ่ายต่างประสบกับภัยพิบัติและสถานการณ์ความยากลำบาก ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ทั้งสองฝ่ายต่างก็บริจาคเวชภัณฑ์การป้องกันโรคระบาดให้แก่กันอย่างทันท่วงที ทั้งหน้ากากอนามัย ชุดป้องกันโรคระบาดและวัคซีน แสดงให้เห็นถึงมิตรภาพอันแนบแน่นที่คอยช่วยเหลือเกื้อกูล และไว้วางใจซึ่งกันและกัน
 
โดยในระหว่างการประชุมหารือ ดร.จางฯ และนรม. ฟูมิโอะได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นผลสัมฤทธิ์ที่เกิดจากความร่วมมือในประเด็นสถานการณ์ระหว่างประเทศ รวมไปถึงด้านเศรษฐกิจและการค้า ระหว่างไต้หวัน – ญี่ปุ่น โดยนรม. คิชิดะ กล่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะเร่งเสริมสร้างความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนในเชิงลึก ระหว่างไต้หวัน - ญี่ปุ่น พร้อมทั้งจะแสวงหาความเป็นไปได้ร่วมกันในอนาคตอย่างกระตือรือร้นต่อไป
 
โดยในช่วงค่ำของวันที่ 19 พ.ย. ที่ผ่านมา ตามเวลาในกรุงไทเป ดร.จางฯ ได้จัดงานแถลงข่าวนานาชาติขึ้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อชี้แจงผลสัมฤทธิ์จากการเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ พร้อมทั้งตอบข้อซักถามของผู้สื่อข่าว
 
ต่อเนื่องจากที่ดร.จางฯ ได้เข้าพูดคุยหารือกับนรม. ฟูมิโอะแห่งญี่ปุ่น ไต้หวันได้รับความชื่นชมต่อการประสานความร่วมมือในด้านเซมิคอนดักเตอร์ ระหว่างไต้หวัน – ญี่ปุ่น โดยทั้งสองฝ่ายจะแสวงหาโอกาสความร่วมมือที่เพิ่มมากขึ้นกับกลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ดร.จางฯ เชื่อมั่นว่า นรม. คิชิดะ มีความพึงพอใจต่อความสัมพันธ์ทางความร่วมมือระหว่างบริษัท TSMC – ญี่ปุ่น โดยขอบเขตการประสานความร่วมมือระหว่างสองฝ่าย ไม่เพียงจำกัดเฉพาะในสถานประกอบการเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมไปถึงความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาทางเทคโนโลยี ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว นรม. คิชิดะ ได้แสดงความพึงพอใจต่อดร.จางฯ ด้วยตนเอง พร้อมทั้งชื่นชมในสถานการณ์ความร่วมมือระหว่างบริษัท TSMC - ญี่ปุ่นในปัจจุบัน
 
ในระหว่างการตอบข้อซักถาม ดร.จางฯ กล่าวว่า การเข้าพบปะเจรจากับนางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา เป็นไปอย่างราบรื่น โดยทั้งสองฝ่ายต่างมีปฏิสัมพันธ์และพูดคุยกันในประเด็นต่างๆ อย่างเป็นกันเอง โดยในระหว่างการหารือ รองปธน. แฮร์ริสมีความรู้สึกสนใจต่อแผ่นชิปวงจรรวมเป็นพิเศษ พร้อมทั้งให้การต้อนรับต่อการที่บริษัท TSMC เข้าลงทุนก่อตั้งโรงงานในรัฐแอริโซนา โดยดร.จางฯ กล่าวว่า ขณะนี้เราได้เชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ให้เดินทางมาเข้าร่วมพิธีเปิดโรงงานของ TSMC ในรัฐแอริโซนาในวันที่ 6 ธ.ค. ที่จะถึงนี้ พร้อมทั้งยังได้ติดต่อเชิญเหล่าผู้ประกอบการที่มีความสัมพันธ์ทางการค้ากับ TSMC หรือที่รู้จักกันในนาม TSMC Grand Alliance มาเข้าร่วมด้วย ซึ่งพันธมิตรทางการค้ากลุ่มนี้ประกอบด้วยกลุ่มลูกค้า เจ้าของลิขสิทธิ์ทางปัญญาและกลุ่มซัพพลายเออร์ ซึ่งรองปธน. แฮร์ริส รู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ได้ร่วมพบปะหารือกับดร.จางฯ พร้อมนี้ ยังได้แสดงถึงจุดยืนในความมุ่งมั่นของสหรัฐฯ ที่จะส่งมอบความช่วยเหลือให้ไต้หวันต่อไป
 
ดร.จางฯ ยังได้ตอบคำถามสื่อในประเด็นที่ถูกซักถามว่า ดร.จางฯ ได้มีโอกาสทักทายพูดคุยกับประธานาธิบดีสีจิ้นผิงแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน หรือได้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำแบบปิด เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนหารือกับผู้นำจีนหรือไม่ ดร.จางฯ ชี้ว่า ตนมีโอกาสทักทายพูดคุยกับปธน.สีฯ พร้อมทั้งแสดงความยินดีต่อความสำเร็จของปธน.สีฯ ในการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20 โดยปธน.สีฯ กล่าวว่า เคยมีโอกาสทักทายกับตนในรัฐเอกราชปาปัวนิวกินี เมื่อ 4 ปีที่แล้ว โดยในระหว่างการพูดคุย ตนยังได้กล่าวถึงการผ่าตัดข้อต่อกระดูกเชิงกรานของตัวเองเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งปธน.สีฯ ได้กล่าวว่า สีหน้าของตนดูดีขึ้นมากแล้ว
 
นอกจากนี้ สื่อยังได้ตั้งประเด็นคำถามเจาะลึกว่า ดร.จางฯ ได้แสดงจุดยืนต่อสันติภาพในพื้นที่สองฝั่งช่องแคบไต้หวันหรือไม่ และได้ส่งผ่านข้อความที่ปธน.ไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ต้องการส่งไปยังปธน.สีฯ หรือไม่ ดร.จางฯ กล่าวว่า การพูดคุยในครั้งนี้แบ่งออกเป็น 2 ประเด็นหลักๆ ประเด็นแรกคือการทักทายทั่วไป และการพูดคุยทั่วไปตามที่ระบุไว้ในข้างต้น ส่วนประเด็นที่ 2 ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ดร.จางฯ ได้บรรลุภารกิจเสร็จสิ้นตามที่ได้รับมอบหมายจากปธน.ไช่ฯ ด้วยการแสดงจุดยืนในระหว่างการแสดงปาฐกถาใน 2 รอบที่ผ่านมา
 
บรรดาผู้สื่อข่าวยังมุ่งประเด็นไปที่การเข้าร่วมการประชุมเอเปคและการพบปะกับเหล่าผู้นำในครั้งนี้ จะมีส่วนช่วยในการบรรเทาสถานการณ์ความตึงเครียดและสถานการณ์การแข่งขันในภูมิภาคหรือไม่ ดร.จางฯ กล่าวว่า มีส่วนช่วยเป็นอย่างมาก เนื่องจากในการประชุมครั้งนี้ มีผู้นำประเทศหลายท่านแสดงจุดยืนต่อความคาดหวังที่จะเห็นสันติภาพและเสถียรภาพคงอยู่ในภูมิภาคสืบต่อไป
 
ต่อกรณีที่สื่อซักถามว่า ในระหว่างการประชุมครั้งนี้ ดร.จางฯ ได้ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสันติภาพในพื้นที่สองฝั่งช่องแคบไต้หวันกับผู้นำคนใดอีกหรือไม่ ดร.จางฯ ระบุว่า แม้จะไม่ได้มีการหยิบยกประเด็นนี้มาพูดคุยอย่างเป็นทางการ แต่เหล่าผู้นำประเทศต่างก็แสดงความคิดเห็นต่อความคาดหวังที่จะเห็นสันติภาพและเสถียรภาพ บังเกิดแก่ภูมิภาคสืบต่อไป ซึ่งดร.จางฯ เชื่อว่า ในส่วนนี้ไม่น่าจะมีปัญหาข้อสงสัยใดๆ
 
สำหรับในกรณีที่ว่า ในอนาคต บริษัท TSMC มีกำหนดการจะประสานความร่วมมือกับกลุ่มประเทศอาเซียนหรือกลุ่มประเทศในเอเปคหรือไม่นั้น ดร.จางฯ กล่าวว่า บริษัท TSMC ได้พิจารณาคำนึงถึงหลายปัจจัย โดยก่อนหน้านี้ บริษัท TSMC ได้ทยอยตั้งโรงงานในรัฐแอริโซนาและญี่ปุ่น ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นประเทศสมาชิกของกรอบเอเปค แน่นอนว่าทางบริษัทฯ อาจจะพิจารณาตั้งโรงงานแห่งใหม่ในอนาคต แต่ในขณะนี้ ยังไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมอื่นใด