New Southbound Policy Portal

กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 22 พ.ย. 65
 
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 22 พ.ย. ที่ผ่านมา นายเถียนจงกวง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ตอบรับคำเชิญเข้าร่วมพิธีเปิด กิจกรรม “ค่ายฝึกอบรมด้านเมืองอัจฉริยะ” ที่จัดโดยสถาบันอุตสาหกรรมสารสนเทศ (Institute for Information Industry, III)
 
โดยค่ายฝึกอบรมในครั้งนี้ มีเจ้าหน้าที่ภาครัฐและเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญรวม 9 คน จาก 4 ประเทศพันธมิตรของไต้หวันที่ตั้งอยู่ในแถบมหาสมุทรแปซิฟิก ประกอบด้วย สาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์ สาธารณรัฐนาอูรู สาธารณรัฐปาเลา และตูวาลู เดินทางมาเข้าร่วม โดยบรรดาผู้เข้าร่วมนอกจากจะมีส่วนร่วมในเวทีการประชุมเสวนาที่จัดโดย III เพื่อทำความเข้าใจเชิงลึกในประเด็นสถานการณ์การพัฒนาล่าสุดด้านการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล รัฐบาลอัจฉริยะ การออกกำลังกายดิจิทัลและอุตสาหกรรมสีเขียวแล้ว คณะตัวแทนยังจะเดินทางไปเยี่ยมชมฟาร์ม AgriGaia ที่นครเกาสง ต่อด้วยการเดินทางไปเยี่ยมชมฟาร์มเกษตรในเมืองอี๋หลาน เพื่อเข้าสำรวจกรณีตัวอย่างการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีของไต้หวัน มายกระดับศักยภาพการผลิตของผลผลิตทางการเกษตร
 
รมช.เถียนฯ กล่าวขณะปราศรัยว่า ในยุคหลังโควิด – 19 การนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้งาน มีบทบาทสำคัญต่อการฟื้นฟูของทั่วโลก เพื่อช่วยลดความเหลื่อมล้ำในด้านดิจิทัลของกลุ่มประเทศพันธมิตรในพื้นที่แถบมหาสมุทรแปซิฟิก รัฐบาลไต้หวันจึงได้ริเริ่มการจัดตั้ง “ศูนย์โอกาสทางดิจิทัลไต้หวัน” (Taiwan Digital Opportunity Center, TDOC) ภายใต้การชี้แนะของนายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) นับตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา โดยทำการจัดหลักสูตรฝึกอบรมด้านการออกแบบระบบฮาร์ดแวร์ การออกแบบเว็บไซต์ การบำรุงรักษาอุปกรณ์เครื่องมือสื่อสารอัจฉริยะ และความมั่นคงทางไซเบอร์ เป็นต้น เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มประเทศในแถบมหาสมุทรแปซิฟิกและกลุ่มประเทศอาเซียน ในการยกระดับขีดความสามารถในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล โดยค่ายฝึกอบรมว่าด้วยเมืองอัจฉริยะ เป็นภารกิจที่สำคัญของ TDOC ด้วย
 
ในสุนทรพจน์ของรมช.เถียนฯ ยังกล่าวถึงอีกว่า ไต้หวันได้ให้ความช่วยเหลือแก่เบลีซ ประเทศพันธมิตรในภูมิภาคอเมริกากลาง ในการนำระบบแจ้งเตือนอุทกภัยล่วงหน้ามาใช้งาน เพื่อยกระดับศักยภาพของภารกิจต่างๆ ในระหว่างสถานการณ์ภัยพิบัติ คาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า “ประสบการณ์เบลีซของไต้หวัน” จะสามารถถูกนำมาใช้อ้างอิงสำหรับ 4 ประเทศพันธมิตรในพื้นที่แถบมหาสมุทรแปซิฟิก เพื่อสร้างความผาสุกให้เกิดแก่ประชาชนในพื้นที่ต่อไป