New Southbound Policy Portal

ผู้นำไต้หวันร่วมหารือกับนรม. เซนต์ลูเซีย พร้อมจัดเลี้ยงรับรองช่วงกลางวัน

ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 29 พ.ย. 65
 
หลังเสร็จสิ้นพิธีตรวจแถวกองทหารเกียรติยศเพื่อให้การต้อนรับอย่างสมเกียรติแก่ H.E. Philip J. Pierre นายกรัฐมนตรีเซนต์ลูเซีย เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 29 พ.ย. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไช่อิงเหวินและรองประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อแห่งสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) จึงได้เข้าร่วมหารือกับนรม. Pierre โดยปธน.ไช่ฯ ได้แสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลเซนต์ลูเซีย ที่ร่วมเป็นกระบอกเสียงในการสนับสนุนให้ไต้หวันเข้าร่วมในองค์การระหว่างประเทศบนเวทีนานาชาติอยู่บ่อยครั้ง เชื่อว่าในอนาคตทั้งสองฝ่ายจะยึดมั่นในหลักการเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนระหว่างกันในเชิงลึก ตลอดจนขยายโอกาสความร่วมมือที่มากยิ่งขึ้น เพื่อนำพาความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ภาคประชาชนของทั้งสองฝ่ายต่อไป
 
ปธน.ไช่ฯ แถลงว่า ไต้หวัน - เซนต์ลูเซีย เป็นพันธมิตรที่มีความสัมพันธ์อันเหนียวแน่นระหว่างกัน หลายปีมานี้ ทั้งสองฝ่ายได้เปิดฉากความร่วมมือที่สำคัญๆ ร่วมกันหลายประการ ทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐาน การผลิตและจำหน่ายสินค้าทางการเกษตร การศึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และการแพทย์สาธารณสุข เป็นต้น ซึ่งล้วนแล้วแต่บังเกิดผลสัมฤทธิ์ที่น่าพึงพอใจเป็นอย่างมาก
 
ปธน.ไช่ฯ เผยว่า นรม. Pierre ให้ความสำคัญต่อประเด็นการให้ความช่วยเหลือกลุ่มเยาวชนและการยกระดับทักษะการประกอบอาชีพของกลุ่มสตรี เพื่อส่งเสริมให้กลุ่มเป้าหมายประสบความสำเร็จตามความคาดหวัง และรู้สึกยินดีที่เห็นทั้งสองฝ่ายผลักดันโครงการความร่วมมือที่สำคัญหลายประการเหล่านี้ นอกจากนี้ นรม. Pierre ยังให้ความสำคัญต่อประเด็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังยุคโควิด -19 รวมไปถึงการแพทย์สาธารณสุขและการพัฒนาอย่างยั่งยืนด้วยเช่นกัน โดยนรม. Pierre ได้เข้าร่วม "การประชุมสมัชชาสหประชาชาติ" ติดต่อกันมาเป็นระยะเวลา 2 ปี พร้อมทั้งทำหน้าที่เป็นประธานกรรมการ "ธนาคารพัฒนาแคริบเบียน ( Caribbean Development Bank, CDB)" และ "องค์การรัฐแคริบเบียนตะวันออก (Organization of Eastern Caribbean State, OECS)"  ซึ่งมีบทบาทที่สำคัญในระดับภูมิภาค โดยปธน.ไช่ฯ รู้สึกชื่นชมต่อความสามารถของนรม. Pierre ด้วยใจจริง
 
ปธน.ไช่ฯ ยังชี้ว่า ในเดือนส.ค. ที่ผ่านมา ไต้หวัน สหรัฐฯ และเซนต์ลูเซีย ได้ร่วมจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการในต่างแดน ภายใต้กรอบความร่วมมือ Global Cooperation and Training Framework (GCTF) ในหัวข้อการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังยุคโควิด - 19 พร้อมร่วมแบ่งปันประสบการณ์ความสำเร็จของการผลักดันศักยภาพทางเศรษฐกิจของกลุ่มสตรีและเยาวชน ปธน.ไช่ฯ เชื่อว่า ภายใต้การแลกเปลี่ยนเหล่านี้ จะสามารถเร่งการฟื้นฟูและเยียวยาภาคเศรษฐกิจหลังยุคโควิด - 19 ได้
 
ปธน.ไช่ฯ เชื่อว่า เมื่อต้องเผชิญกับการแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการ พันธมิตรด้านประชาธิปไตยควรประสานสามัคคี และผนึกกำลังระหว่างกลุ่มประเทศประชาธิปไตยให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น จึงขอใช้โอกาสนี้แสดงความขอบคุณต่อนรม. Pierre ที่สนับสนุนให้ไต้หวันเข้าร่วมในองค์การระหว่างประเทศ บนเวทีนานาชาติอยู่เสมอมา
 
ในระหว่างการอภิปรายทั่วไป (General Debate) ของการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ครั้งที่ 77 (UNGA 77) ที่ปิดฉากลงเมื่อช่วงที่ผ่านมา นรม. Pierre ได้แสดงจุดยืนว่าด้วยการเข้าร่วมในองค์การระหว่างประเทศของไต้หวันอย่างหนักแน่น นอกจากนี้ ในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 27 (UNFCCC COP 27) ประจำปีนี้ Mr.Shawn A. Edward รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและการพัฒนาอย่างยั่งยืนของเซนต์ลูเซีย ก็ได้ทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้ไต้หวันอย่างกระตือรือร้น ซึ่งมิตรภาพอันแข็งแกร่งเหล่านี้ ได้สร้างความประทับใจให้ประชาชนชาวไต้หวันอย่างไม่รู้ลืม
 
ในอนาคต ปธน.ไช่ฯ เชื่อว่า ไต้หวันและเซนต์ลูเซีย จะยึดมั่นในหลักการเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนระหว่างกันในเชิงลึก โดยปธน.ไช่ฯ เชื่อว่าการลงนาม "ความตกลงว่าด้วยกรอบความร่วมมือเชิงเทคโนโลยีระหว่างไต้หวัน - เซนต์ลูเซีย" จะสามารถช่วยเพิ่มโอกาสความร่วมมือในเชิงลึกระหว่างกันมากยิ่งขึ้น อันจะนำมาสู่ความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ภาคประชาชนทั้งสองฝ่ายเพิ่มมากขึ้น
 
โดยนรม. Pierre แถลงว่า ตนเชื่อมั่นว่าไต้หวัน - เซนต์ลูเซียจะยังคงความสามัคคีร่วมกันต่อไป ภายใต้ค่านิยมและผลประโยชน์ที่มีร่วมกัน โดยการเดินทางมาเยือนในครั้งนี้ ก็เพื่อต้องการเฉลิมฉลอง และเสริมสร้างสัมพันธไมตรีระหว่างประเทศ ให้เกิดความแนบแน่นมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการกระชับความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน
 
นรม. Pierre ชี้ว่า ปัจจุบัน เราต่างต้องเผชิญต่อความท้าทายระดับโลก ซึ่งเมื่อเทียบกับการกลับมาสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตร่วมกันอีกครั้งเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ถือว่าแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เมื่อต้องเผชิญกับผลกระทบจากสถานการณ์โรคโควิด - 19 สงครามและการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ทำให้พวกเราหันมองย้อนกลับมาเพื่อหาแนวทางตลอดจนแสวงหาแผนการแก้ไขปัญหาในรูปแบบใหม่
 
นรม. Pierre ชี้อีกว่า เซนต์ลูเซียจะคว้าทุกโอกาสแห่งความเป็นไปได้ในการแสดงจุดยืนว่าด้วยการเคารพต่อบูรณภาพแห่งดินแดน และให้ความเคารพต่อกฎหมายระหว่างประเทศ แก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี และไม่แทรกแซงทางการเมืองของประเทศภายนอก โดยเซนต์ลูเซียจะให้การสนับสนุนแนวคิดนี้ต่อไป พร้อมทั้งจะร่วมเรียกร้องให้ไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในหน่วยงานต่างๆ ภายใต้ระบบสหประชาชาติ และช่วยหาหนทางให้ไต้หวันได้รับสิทธิในการเข้าร่วมองค์การระหว่างประเทศต่อไป
 
โดยหลังจากเสร็จสิ้นพิธีการต้อนรับอย่างสมเกียรติและการเจรจาหารือแล้ว ในช่วงเที่ยงของวันเดียวกันนั้น ปธน.ไช่ฯ ทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพในการจัดเลี้ยงรับรอง นรม. Pierre ณ ทำเนียบประธานาธิบดี ปธน.ไช่ฯ เชื่อว่า ความเชื่อมโยงระหว่างภาคประชาชนเป็นรากฐานอันคงมั่นของความสัมพันธ์แบบทวิภาคี โดยไต้หวันจะมุ่งมั่นผลักดันโครงการทุนการศึกษาและการเรียนการสอนภาษาจีนอย่างกระตือรือร้นต่อไป เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนของทั้งสองมีความเข้าใจระหว่างกันเพิ่มมากขึ้น อันจะนำไปสู่การผูกสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งต่อไป
 
ปธน.ไช่ฯ กล่าวอีกว่า ไต้หวันได้ประกาศเปิดประเทศเมื่อวันที่ 13 ต.ค. ที่ผ่านมา ในอนาคต ไต้หวัน - เซนต์ลูเซียและนานาประเทศทั่วโลก จะสามารถเดินทางไปมาหาสู่กันได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น อันจะนำไปสู่การพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศให้ก้าวไปสู่อีกระดับต่อไป
 
ปธน.ไช่ฯ หยิบยกกรณีตัวอย่างเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ซึ่งได้มีการจัดงาน "มหกรรมสินค้าภายใต้ความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนระหว่างไต้หวัน - เซนต์ลูเซีย" ที่เซนต์ลูเซีย โดยระหว่างกิจกรรม เชฟฝีมือดีของเซนต์ลูเซียได้แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์และความปราณีตบรรจง ในการประยุกต์ใช้ผลผลิตทางการเกษตรของฟาร์มสาธิตและทดลองทางการเกษตรที่จัดตั้งโดยทีมเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญของไต้หวัน มารังสรรค์เป็นเมนูอาหารที่ผสมผสานระหว่างองค์ประกอบของความเป็นเอเชียและอัตลักษณ์ของทะเลแคริบเบียนเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว ถือเป็นการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างทั้งสองฝ่าย และเป็นการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของภาคประชาชนไปพร้อมกัน