New Southbound Policy Portal
กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 15 ธ.ค. 65
เมื่อวันที่ 24 ต.ค. ที่ผ่านมา นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้สัมภาษณ์แก่ Ms. Anne Applebaum ผู้สื่อข่าวพิเศษจากนิตยสาร The Atlantic ของสหรัฐฯ โดยรมว.อู๋ฯ ได้ชี้ให้เห็นถึงแนวทางการรับมือต่อภัยคุกคามทั้งการข่มขู่ทางกำลังทหารและสงครามไซเบอร์ที่จีนกระทำต่อไต้หวัน โดยบทความนี้ถูกตีพิมพ์ผ่านเว็บไซต์ของนิตยสารในหัวข้อ “จีนเปิดฉากการทำสงครามกับไต้หวันแล้ว” (China’s War Against Taiwan Has Already Started) เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยได้รับความสนใจจากทุกแวดวงในวงกว้างทั่วสหรัฐฯ
รมว.อู๋ฯ ย้ำว่า นับวันไต้หวันยิ่งกลายเป็นจุดสนใจและถูกกล่าวถึงจากประชาคมโลกมากยิ่งขึ้น ช่วงที่ผ่านมา จีนและรัสเซียกำลังร่วมมือกันแผ่ขยายอิทธิพลของลัทธิอำนาจนิยม ด้วยการสร้างสถานการณ์ต่างๆ ในพื้นที่ช่องแคบไต้หวันและภูมิภาคยุโรปกลางและยุโรปตะวันออก โดยสงครามระหว่างรัสเซีย – ยูเครน ได้ส่งผลให้ประเทศตะวันตกตระหนักได้ว่า กลุ่มประเทศประชาธิปไตยควรประสานความร่วมมือในการสกัดกั้นการรุกรานของรัสเซีย มิเช่นนั้น ภัยคุกคามที่เกิดจากการแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการ จะคืบคลานเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ และอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคง สันติภาพและเสถียรภาพไปสู่นานาประเทศทั่วโลก
รมว.อู๋ฯ กล่าวว่า ไต้หวัน - ยูเครนต่างก็เป็นประเทศประชาธิปไตยที่ตั้งอยู่ในแนวหน้าที่ต้องเผชิญต่อภัยคุกคามที่เกิดจากประเทศเผด็จการ พร้อมทั้งยังต้องแสวงหากลยุทธ์ด้านการป้องกันประเทศด้วยตนเองอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมา จีนต้องการแผ่ขยายอิทธิพลไปสู่นานาประเทศทั่วโลกอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการคุกคามไต้หวันด้วยกำลังทหาร และการโจมตีไต้หวันในรูปแบบสงครามลูกผสม อาทิ สงครามจิตวิทยา การสร้างแรงกดดันทางเศรษฐกิจ และการแทรกแซงทางการเมือง เป็นต้น โดยประสบการณ์และแนวทางการรับมือต่อภัยคุกคามจากจีนของไต้หวัน สามารถใช้เป็นหลักอ้างอิง เพื่อให้นานาประเทศทั่วโลกนำไปปรับใช้ได้ต่อไป
รมว.อู๋ฯ ระบุว่า เพื่อเสริมสร้างศักยภาพการป้องกันความมั่นคงทางไซเบอร์ ไต้หวัน - สหรัฐฯ และพันธมิตร ต่างร่วมจัดตั้งกรอบความร่วมมือ Global Cooperation and Training Framework (GCTF) เพื่อผลักดันการฝึกอบรมเชิงการศึกษาด้านการรู้เท่าทันสื่อ (Media Literacy) รวมไปถึงการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือ ควบคู่ไปกับการเชิญให้กลุ่มประเทศประชาธิปไตยที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันเข้ามีส่วนร่วมในกรอบความร่วมมือนี้ เพื่อสกัดกั้นสงครามลูกผสมที่มาจากประเทศระบอบเผด็จการ
นอกจากนี้ บทความข้างต้นยังได้มีการสัมภาษณ์ออเดรย์ ถัง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาดิจิทัล และองค์กรเอกชนที่ร่วมรับมือต่อสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อร่วมหารือในประเด็นแนวทางการรับมือต่อการคุกคามด้วยกำลังทหารและสงครามจิตวิทยาจากจีน ด้วยการผนึกกำลังสามัคคีจากภาครัฐและภาคเอกชนของไต้หวัน