New Southbound Policy Portal
ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 20 ธ.ค. 65
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 20 ธ.ค. ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้การต้อนรับคณะตัวแทนที่นำโดย Mr. John Curtis สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐฯ โดยปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า ไต้หวันจะเร่งเสริมสร้างความร่วมมือกับสหรัฐฯ และพันธมิตรที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน เพื่อสร้างหลักประกันทางเสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองให้บังเกิดแก่ภูมิภาคอินโด – แปซิฟิกต่อไป โดยปธน.ไช่ฯ เรียกร้องให้มิตรสหายเช่นสหรัฐฯ ให้การสนับสนุนการเสริมสร้างความมั่นคงสำหรับไต้หวันอย่างต่อเนื่องต่อไป พร้อมหวังร่วมลงนามความตกลงทางการค้ามาตรฐานสูง ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ ภายใต้ “แผนริเริ่มทางการค้าไต้หวัน - สหรัฐฯ แห่งศตวรรษที่ 21” เพื่อก้าวสู่การเป็นต้นแบบที่ดีให้แก่ภูมิภาค นอกจากนี้ ปธน.ไช่ฯ ยังขอให้คณะตัวแทนให้การสนับสนุนไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในกรอบเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก (IPEF) อย่างเต็มที่ โดยไต้หวันเชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างคุณประโยชน์ด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและการค้าให้เกิดแก่ภูมิภาคได้อย่างแน่นอน
ปธน.ไช่ฯ กล่าวขณะปราศรัยว่า คณะตัวแทนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกลุ่มนี้ ถือเป็นมิตรสหายของไต้หวันที่คอยให้การสนับสนุนไต้หวันในรัฐสภาสหรัฐฯ มาโดยตลอด ก่อนหน้านี้ Mr. Curtis เคยเดินทางมาเผยแพร่ศาสนาในไต้หวัน จึงมีความสัมพันธ์ที่ดีกับไต้หวันมาอย่างนาวนาน โดยการเดินทางมาเยือนไต้หวันในช่วงก่อนเทศกาลคริสต์มาสในครั้งนี้ ถือเป็นการให้การสนับสนุนต่อไต้หวันอย่างเป็นรูปธรรม ปธน.ไช่ฯ ในฐานะตัวแทนประชาชนชาวไต้หวัน รู้สึกขอบคุณด้วยใจจริง
ปธน.ไช่ฯ ยังใช้โอกาสนี้แสดงความขอบคุณต่อรัฐสภาสหรัฐฯ ที่ให้การสนับสนุนไต้หวันมาอย่างยาวนาน ในระยะนี้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสมาชิกของสหรัฐฯ ได้ทยอยผ่านร่าง “กฎหมายว่าด้วยการมอบอำนาจทางกลาโหม” สำหรับการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของไต้หวัน ซึ่งไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนการผ่านญัตติหรือการเป็นกระบอกเสียงอย่างเปิดเผย ล้วนแล้วแต่เป็นการปฏิบัติตามคำมั่นด้านความมั่นคงที่สหรัฐฯ ให้ไว้กับไต้หวัน เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านการปกป้องประชาธิปไตยของไต้หวัน
ปธน.ไช่ฯ ชี้ว่า เมื่อต้องเผชิญกับการแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการ ไต้หวันจะเร่งเสริมสร้างความร่วมมือกับสหรัฐฯ และพันธมิตรที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน เพื่อสร้างหลักประกันทางเสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองให้เกิดแก่ภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก จึงขอให้มิตรสหายในรัฐสภาสหรัฐฯ ให้การสนับสนุนไต้หวันในญัตติด้านการเสริมสร้างความมั่นคงสำหรับไต้หวันอย่างต่อเนื่องต่อไป
ปธน.ไช่ฯ ทราบว่า คณะตัวแทนต่างให้ความสนใจต่อประเด็นด้านพลังงานและการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ โดยปธน.ไช่ฯ จึงอาศัยโอกาสนี้ขอบคุณคณะตัวแทนที่ให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมใน “อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” โดยหลายปีมานี้ ไต้หวันได้เร่งพัฒนาพลังงานหมุนเวียนอย่างกระตือรือร้น เพื่อบรรลุเป้าหมายการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ ภายในปี 2050 ซึ่งเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ไต้หวันได้ประกาศแนวทางการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยคาดว่าจะมีการประกาศ “ยุทธศาสตร์สำคัญ 12 ประการ” ในปลายเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ด้วย
ปธน.ไช่ฯ กล่าวอีกว่า ไต้หวัน – สหรัฐฯ ยังสามารถเสริมสร้างความร่วมมือเชิงลึกใน 2 ประเด็นสำคัญข้างต้น พร้อมหวังที่จะให้ความช่วยเหลือกลุ่มประเทศในภูมิภาค เร่งเสริมสร้างความทรหดในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ควบคู่ไปกับการร่วมผลักดันการพัฒนาพลังงานหมุนเวียนร่วมกับสหรัฐฯ ต่อไป
ปธน.ไช่ฯ ชี้อีกว่า ในด้านเศรษฐกิจและการค้า การเจรจา “แผนริเริ่มทางการค้าไต้หวัน - สหรัฐฯ แห่งศตวรรษที่ 21” ได้เปิดฉากขึ้นเมื่อเดือนที่แล้วเป็นครั้งแรก ปธน.ไช่ฯ จึงหวังว่าจะมีโอกาสร่วมลงนามในความตกลงทางการค้ามาตรฐานสูงร่วมกับสหรัฐฯ ภายใต้แผนริเริ่มทางการค้าข้างต้น เพื่อก้าวสู่การเป็นต้นแบบที่ดีให้แก่ภูมิภาค โดยปธน.ไช่ฯ ขอให้คณะตัวแทนให้การสนับสนุนไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในกรอบเศรษฐกิจอินโด-แปซิฟิก (IPEF) อย่างหนักแน่นต่อไป เพราะไต้หวันมีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างคุณประโยชน์ด้านการพัฒนาเศรษฐกิจและการค้าให้เกิดแก่ภูมิภาคได้อย่างแน่นอน
Mr. Curtis กล่าวว่า การเดินทางมาไต้หวันในครั้งนี้ของตนและคณะตัวแทน ก็เพื่อมาทำหน้าที่เป็นตัวแทนของรัฐสภาสหรัฐฯ ในการส่งสารต่อไต้หวันว่า ความเจริญรุ่งเรืองของไต้หวันเป็นประเด็นที่สมาชิกรัฐสภาแบบข้ามพรรค และข้ามสภาของสหรัฐฯ ให้ความสำคัญร่วมกัน ซึ่งมีความสำคัญมากต่อพวกเราทุกคน นอกจากนี้ การเดินทางมาเยือนไต้หวันในครั้งนี้ก็เพื่อต้องการศึกษาแนวทางว่า สหรัฐฯ จะสามารถช่วยส่งเสริมด้วยวิธีการใดได้บ้าง โดยในช่วงท้าย คณะตัวแทนได้แสดงความขอบคุณสำหรับการต้อนรับอันแสนอบอุ่นที่ไต้หวันมอบให้ด้วย