New Southbound Policy Portal

กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการ วันที่ 3 ม.ค. 65
 
เมื่อวันที่ 3 ม.ค. ที่ผ่านมา ศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคระบาด (CECC) ของไต้หวัน ประกาศว่า จากการที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ในจีน ทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นทุกที ดังนั้น นอกจากผู้โดยสารที่เดินทางด้วยเที่ยวบินตรงจากจีนเพื่อเข้าสู่เขตอาณาไต้หวัน จะต้องให้ความร่วมมือในการตรวจหาเชื้อโควิด - 19 แบบ PCR ณ ท่าอากาศยานหรือท่าเรือแล้ว ในช่วงระหว่างวันที่ 6 ม.ค. – 31 ม.ค. ปี 2566 (ตามตารางเวลาของเที่ยวบินที่เดินทางถึงไต้หวัน) ผู้ที่เดินทางจากจีนและแวะเปลี่ยนเครื่องในฮ่องกงหรือมาเก๊า เพื่อเดินทางต่อมายังไต้หวัน จะต้องแนบผลตรวจ PCR ที่เป็นลบ ก่อนขึ้นเครื่องภายใน 48 ชั่วโมง หรือผลตรวจ RAT (Rapid Antigen Test) ที่เป็นลบภายใน 24 ชั่วโมง
 
CECC ชี้ว่า ขณะนี้ รัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกงและมาเก๊าได้บังคับใช้มาตรการป้องกันโรคระบาดที่เกี่ยวข้องต่อผู้โดยสารที่เดินทางมาจากจีน ซึ่งตามกฎระเบียบของรัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกง นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากจีนต้องแนบจะต้องแนบผลตรวจ PCR ที่เป็นลบ ก่อนขึ้นเครื่องภายใน 48 ชั่วโมง หรือผลตรวจ RAT ที่เป็นลบภายใน 24 ชั่วโมง โดยผู้โดยสารจากจีนที่แวะมาเปลี่ยนเครื่อง ต้องให้ความร่วมมือต่อมาตรการป้องกันโรคระบาดของประเทศจุดหมายปลายทาง สำหรับกฎระเบียบของรัฐบาลเขตบริหารพิเศษมาเก๊า นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากจีนต้องแนบใบรับรองผลตรวจ PCR ที่เป็นลบ ก่อนขึ้นเครื่องภายใน 72 ชั่วโมง
 
CECC ระบุว่า สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19ในจีนทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น โดยมีการแพร่ระบาดที่รุนแรงมากขึ้นในทุกพื้นที่ ส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยหนักและผู้ป่วยที่เป็นผู้สูงอายุนับวันเพิ่มมากขึ้น จากการประเมินของผู้เชี่ยวชาญในพื้นที่เห็นว่า ตั้งแต่วันปีใหม่ไปจนถึงช่วงเทศกาลตรุษจีน โรคระบาดจะแพร่กระจายไปสู่หมู่บ้านเกษตรกรและตามเมืองเล็กๆ ในพื้นที่รอบนอกเป็นวงกว้าง แต่เนื่องจากในพื้นที่ดังกล่าว มักขาดแคลนทรัพยากรทางการแพทย์ โดยมีจำนวนประชากรสูงอายุและกลุ่มผู้ด้อยโอกาสอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก อีกทั้งในระหว่างช่วงเทศกาลตรุษจีน การไปมาหาสู่ระหว่างประชาชนในเมืองใหญ่และพื้นที่ชนบทจะมีความคึกคักมากเป็นพิเศษ ซึ่งจะส่งผลให้การแพร่ระบาดมีความรุนแรงมากขึ้น จึงคาดว่า การที่ประชาชนเดินทางไปมาหาสู่ระหว่างกันอย่างเนืองแน่นในช่วงก่อนและหลังเทศกาลตรุษจีนจะทำให้สถานการณ์การแพร่ระบาดอาจจะลุกลามเป็นวงกว้างมากขึ้นอีก และกินระยะเวลานานกว่า 3 เดือน
 
CECC แถลงว่า ขณะนี้ เชื้อไวรัสที่กำลังแพร่ระบาดในจีนคือ สายพันธุ์ BA.5.2 และ BF.7 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ย่อยของโอมิครอน (Omicron) โดยการไปมาหาสู่กันของประชาชน อาจทำให้มีโอกาสที่จะทำให้เชื้อไวรัสเกิดการกลายพันธุ์ขึ้นได้ ซึ่ง CECC จะเฝ้าจับตาและควบคุมมิให้สายพันธุ์ใหม่จากภายนอกแพร่ระบาดมาสู่ไต้หวัน พร้อมทั้งจะทำการประเมินความเสี่ยงที่เกิดจากสายพันธุ์ใหม่และผลกระทบต่อไต้หวันที่เกิดจากโรคระบาดต่อไป
 
CECC เน้นย้ำว่า เพื่อรับมือกับกระแสการเดินทางกลับสู่ถิ่นกำเนิดของประชาชนในช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลตรุษจีนนี้ จึงขอเรียกร้องให้ผู้ที่มีความประสงค์จะเดินทางกลับสู่ไต้หวันทำความเข้าใจและให้ความร่วมมือกับมาตรการป้องกันโรคระบาดด้วยการเฝ้าสังเกตการณ์อาการตนเองเป็นเวลา 7 วันและทำการตรวจคัดกรองด้วยตนเองอย่างเคร่งครัด เพื่อร่วมกันรักษาความปลอดภัยของชุมชนในประเทศ