New Southbound Policy Portal

ปธน.ไช่อิงเหวินส่งสารเพื่อตอบรับต่อ “แถลงการณ์วันสันติภาพสากล” ปี 2023 ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส

ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 23 ม.ค. 66

เมื่อช่วงก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ส่งสารเพื่อตอบรับต่อ “แถลงการณ์วันสันติภาพสากล” ปี 2023 ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก

สาระสำคัญของสารที่ปธน.ไช่ฯ ส่งถึงสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส สรุปได้ดังนี้ :

กราบบังคมทูลสมเด็จพระสันตะปาปา
 
แถลงการณ์วันสันติภาพสากล ปี 2023 ของพระองค์ที่ได้เน้นย้ำว่า สงครามเปรียบดั่งไวรัสที่ยังไม่มีวัคซีนป้องกันและพระองค์ยังได้เรียกร้องให้ทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันรักษาพยาบาลโลกใบนี้ที่กำลังเผชิญกับความพินาศย่อยยับจากไฟสงครามและโรคระบาด พร้อมกำหนดนโยบายที่เหมาะสมและเป็นมิตรต่อผู้ย้ายถิ่น นั้น พวกข้าพเจ้ารู้สึกเห็นพ้องกับแนวคิดนี้เป็นอย่างยิ่ง
 
เหมือนดังที่สมเด็จพระสันตะปาปาประทานพระดำรัสไว้ว่า ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ “ไม่มีใครไม่สามารถมีชีวิตรอดอยู่ได้เพียงลำพัง” เชื้อไวรัสไม่แบ่งแยกพรมแดน สิทธิด้านสุขภาพเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ไม่ควรถูกลิดรอนและได้รับผลกระทบปัจจัยต่างๆ อาทิ เชื้อชาติ ศาสนา การเมือง และเศรษฐกิจ
 
หนึ่งในความท้าทายอันใหญ่หลวงที่โลกกำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้คือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โดยนอกจากไต้หวันกำลังก้าวไปสู่เป้าหมายของ“การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ในปี 2050” แล้ว ยังจะขานรับหลักคำสอน “Praise Be to You” ของสมเด็จพระสันตะปาปา ด้วยการร่วมมือกับสำนักวาติกันในการผลักดันโครงการด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม อาทิ การเพาะปลูกพืชผักด้วยการเกษตรอัจฉริยะ ระบบการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ และรถยนต์ไฟฟ้า เป็นต้น
 
ปีที่แล้วเนื่องในโอกาสครบรอบ 80 ปีแห่งการสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างสาธารณรัฐจีน(ไต้หวัน) กับสำนักวาติกัน สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐจีน(ไต้หวัน) ประจำนครรัฐวาติกัน ได้จัดนิทรรศการภาพวาด “เป็นมิตรกับไต้หวัน/ เหล่ามิตรสหาย” ซึ่งมีการเขียนหลักคำสอนของสมเด็จพระสันตะปาปาด้วยพู่กันจีนซึ่งเป็นวิธีการเขียนตัวอักษรจีนแบบดั้งเดิม อีกทั้งมีการจัดการสัมมนาเรื่อง “เกาะที่สวยงาม ดินแดนแห่งศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก” โดยได้มีการหวนรำลึกถึงเรื่องราวของบาทหลวงและแม่ชีจำนวนมากที่เดินทางมาเผยแพร่ศาสนาในไต้หวัน ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นประจักษ์พยานแห่งมิตรภาพที่แน่นแฟ้นต่อกันของไต้หวันและสำนักวาติกัน
 
ความสว่างส่องเข้ามาในความมืด และความมืดไม่อาจเอาชนะความสว่างได้ ในอนาคตไต้หวันตั้งความหวังไว้ว่าจะเป็นแสงสว่างแห่งโลกใบนี้ โดยจะจับมือกับสำนักวาติกันเพื่อก้าวไปข้างหน้าด้วยกันและร่วมมือกันอย่างไร้รอยต่อ ตลอดจนมุ่งมั่นที่จะจรรโลงความชอบธรรมและสันติภาพให้บังเกิดแก่สังคมและมวลมนุษยชาติสืบไป