New Southbound Policy Portal

ปธน.สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ให้การต้อนรับคณะตัวแทนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐฯ โดยได้แสดงความหวังที่จะธำรงรักษาค่านิยมด้านประชาธิปไตยและเสรีภาพให้คงอยู่สืบไปและพร้อมอุทิศคุณประโยชน์ด้านการฟื้นฟูทางเศรษฐกิจในยุคหลังโควิด – 19

ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 21 ก.พ. 66
 
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 21 ก.พ.ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้การต้อนรับ “คณะตัวแทนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกาที่นำโดย Mr.Ro Khanna” โดยปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า ในอนาคต ไต้หวันจะมุ่งมั่นเสริมสร้างความร่วมมือกับสหรัฐฯ และพันธมิตรทางประชาธิปไตยทั่วโลก เพื่อร่วมรับมือกับความท้าทายระดับโลก อย่างการแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการและการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ เป็นต้น ปธน.ไช่ฯ เชื่อมั่นว่า ไต้หวัน - สหรัฐฯ สามารถแสวงหาโอกาสความร่วมมือที่เพิ่มมากขึ้น เพื่อร่วมปกป้องค่านิยมด้านประชาธิปไตยและเสรีภาพ ตลอดจนร่วมกันสร้างคุณประโยชน์ด้านการฟื้นฟูเศรษฐกิจในยุคหลังโควิด – 19 ต่อไป
 
ปธน.ไช่ฯ แถลงว่า คณะตัวแทนต่างให้ความสำคัญต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ เป็นอย่างมาก เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์แบบหุ้นส่วนทางด้านเทคโนโลยีและเศรษฐกิจการค้า Mr. Khanna ได้ร่วมเป็นกระบอกเสียงให้ไต้หวันในการประชุมรัฐสภาอยู่บ่อยครั้ง ประกอบกับเมื่อช่วงปลายปี 2021ซึ่งเป็นช่วงที่ไต้หวันเผชิญหน้ากับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 อย่างรุนแรง Mr. Tony Gonzales สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้เดินทางมาเยือนไต้หวันเพื่อแสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนไต้หวัน อีกทั้ง Mr. Jake Auchincloss สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้ที่ยึดมั่นในจุดยืนว่าด้วยการต่อต้านการแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการ สนับสนุนการธำรงรักษาระบอบประชาธิปไตยอย่างเต็มกำลัง ถือเป็นมิตรสหายสำคัญของไต้หวัน นอกจากนี้ Mr. Jonathan Jackson สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำขบวนการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิพลเมืองสหรัฐฯ ก็ได้เดินทางมาเยือนไต้หวันหลังจากที่เข้ารับตำแหน่งในรัฐสภาได้ไม่นาน ซึ่งพวกเราชาวไต้หวันขอให้การต้อนรับด้วยใจจริง
 
หลายปีมานี้ ไต้หวัน – สหรัฐได้มุ่งมั่นแลกเปลี่ยนความร่วมมือด้านต่างๆ ในเชิงลึก อาทิ ประเด็นด้านเทคโนโลยีและความมั่นคงที่คณะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯต่างให้ความสำคัญ อีกทั้งยังมุ่งมั่นยกระดับความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนอย่างต่อเนื่อง อาทิ ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมจัดตั้งโครงการความร่วมมือด้านการออกแบบและผลิตชิ้นส่วนเซมิคอนดักเตอร์ที่ล้ำสมัย ภายใต้กรอบความตกลงทางความร่วมมือด้านเทคโนโลยีระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ (Science and Technology Agreement, STA) อีกทั้งยังได้เร่งผลักดันความร่วมมือในด้านเทคโนโลยี 5G และพลังงานสะอาด ภายใต้กรอบความร่วมมือทางเทคโนโลยี การค้าและการลงทุน (Technology Trade and Investment Collaboration Framework, TTIC)
 
 ปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า เมื่อเผชิญหน้ากับความท้าทายในยุคหลังโควิด – 19 ไต้หวัน - สหรัฐฯ สามารถสำแดงข้อได้เปรียบของกันและกัน ด้วยการจัดตั้งห่วงโซ่อุตสาหกรรมทางเทคโนโลยีที่เปี่ยมด้วยความทรหด นอกจากนี้ ในประเด็นความมั่นคง ไต้หวัน - สหรัฐฯ ได้เสริมสร้างการแลกเปลี่ยนทางการทหารอย่างต่อเนื่อง โดยในอนาคต ไต้หวันจะเร่งผลักดันความร่วมมือในเชิงลึกกับสหรัฐฯ และพันธมิตรด้านประชาธิปไตยอย่างกระตือรือร้น เพื่อร่วมรับมือกับความท้าทายระดับโลก อย่างการแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการและการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ไปพร้อมๆ กัน
 
ปธน.ไช่ฯ ในฐานะตัวแทนของประชาชนและรัฐบาลไต้หวัน ขอแสดงความขอบคุณต่อคณะตัวแทนที่ร่วมให้การสนับสนุนไต้หวันอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมกล่าวว่า ในช่วงที่การประชุมรัฐสภาสหรัฐฯประจำปีนี้เปิดฉากขึ้น  การที่คณะตัวแทนเดินทางมาเยือนไต้หวัน เชื่อว่าจะเป็นการช่วยแสวงหาโอกาสความร่วมมือที่เพิ่มมากขึ้นให้แก่ทั้งสองประเทศ ควบคู่ไปกับการปกป้องค่านิยมด้านประชาธิปไตยและเสรีภาพให้คงอยู่ต่อไป ตลอดจนเพื่อสร้างคุณประโยชน์ด้านการฟื้นฟูเศรษฐกิจในยุคหลังโควิด – 19 ต่อไป
 
Mr. Khanna กล่าวว่า แม้ว่าจำนวนสมาชิกในคณะตัวแทนที่ร่วมเดินทางมาเยือนไต้หวันในครั้งนี้จะมีไม่มาก แต่ล้วนแล้วแต่เป็นสมาชิกที่มีความสำคัญระดับแนวหน้า ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ให้ความสำคัญต่อคำมั่นที่มีต่อไต้หวันเป็นอย่างมาก ซึ่งวัตถุประสงค์ของการเดินทางเยือนไต้หวันในครั้งนี้ ก็เพื่อต้องการสร้างค่านิยมที่ไต้หวัน - สหรัฐฯ ยึดมั่นร่วมกัน หรือกล่าวอีกนัยคือ เป็นการให้คำมั่นสัญญาต่อประชาธิปไตยและเสรีภาพ ซึ่งเมื่อวันที่ 20 ก.พ. ที่ผ่านมา Mr. Khanna ได้เข้าเยี่ยมชมสภานิติบัญญัติ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และได้ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับสมาชิกสภานิติบัญญัติจากทุกพรรคการเมืองของไต้หวัน แม้ว่าสมาชิกสภานิติบัญญัติไต้หวันจะมีความคิดเห็นขัดแย้งกันในบางประเด็น แต่กลับสามารถเจรจาหารือร่วมกันได้อย่างสันติและราบรื่น ซึ่ง Mr. Khanna กล่าวติดตลกว่า สมาชิกสภานิติบัญญัติไต้หวันสามารถควบคุมสติและอารมณ์ในการแสดงความคิดเห็นได้ดีกว่า บรรยากาศในการประชุมรัฐสภาสหรัฐฯ เสียอีก ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการบรรลุค่านิยมด้านประชาธิปไตยที่ยึดมั่นร่วมกัน
 
Mr. Khanna กล่าวว่า การมาเยือนไต้หวันในครั้งนี้ยังเพื่อต้องการเสริมสร้างความสัมพันธ์แบบหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ ให้ก้าวไปสู่อีกขั้นหนึ่ง โดย Mr. Khanna ในฐานะตัวแทนของซิลิคอนวัลเลย์ในรัฐแคลิฟอร์เนีย เขารู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ได้มีโอกาสเข้าพบ ดร.จางจงโหมว ผู้ก่อตั้งบริษัท Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC) เพื่อร่วมอภิปรายในประเด็นแนวทางการเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ ในด้านเทคโนโลยี ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนด้านการทหารและกลาโหมในเชิงลึก
 
Mr. Khanna กล่าวว่า สหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยังคงมุ่งแสวงหาสันติภาพในระดับภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง โดย Mr. Khanna เผยว่า หลายวันมานี้ ประชาชนชาวสหรัฐฯ ต่างร่วมอธิษฐานขอพรให้อดีตประธานาธิบดีจิมมี คาร์เตอร์ (Jimmy Carter) หายจากอาการเจ็บป่วย ซึ่งผู้นำสหรัฐฯ ในยุคนี้ ไม่มีผู้ใดสามารถแสดงวิสัยทัศน์ด้านสิทธิมนุษยชนและสันติภาพได้ชัดเจนเทียบเท่ากับอดีตปธน.คาร์เตอร์ อันก่อให้เกิดนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกับไต้หวัน ภายใต้หลักการนโยบายจีนเดียว พร้อมทั้งยังเรียกร้องให้สหรัฐฯเร่งเปิดการเจรจากับไต้หวันอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสริมสร้างค่านิยมที่ยึดมั่นร่วมกันระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ โดยเป้าหมายของการเดินทางเยือนไต้หวันในครั้งนี้ ก็เพื่อคาดหวังที่จะบรรลุวิสัยทัศน์ด้านสันติภาพ ภายใต้พื้นฐานทางสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย