New Southbound Policy Portal
กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 24 ก.พ. 66
เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ปี 2022 เป็นวันที่รัฐบาลรัสเซียได้รุกรานยูเครนอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งก่อเกิดเป็นความขัดแย้งทางการทหารที่รุนแรงที่สุดในภูมิภาคยุโรป หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลง ส่งผลให้ประชาชนชาวยูเครนนับล้านจำต้องพลัดพรากและลี้ภัยไปในประเทศต่างๆ โดยรอบ ซึ่งหลังจากที่สงครามปะทุขึ้น รัสเซียต้องเผชิญหน้ากับการถูกประณามจากนานาประเทศทั่วโลก อีกทั้งประชาคมโลกยังพร้อมใจกันประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย เนื่องจากพฤติกรรมของรัสเซียขัดต่อ “กฎบัตรของสหประชาชาติ” และยังเป็นการมองข้ามความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศ ที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของกฎกติกาสากล ด้วยการใช้อาวุธเข้ารุกรานประเทศอื่น บ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคและทั่วโลก โดยสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) และพันธมิตรด้านประชาธิปไตยทั่วโลกที่ยึดมั่นในสันติภาพ จะทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงในการร่วมประณามรัฐบาลรัสเซียต่อไป
ไต้หวันในฐานะที่เป็นประเทศสมาชิกที่มีความรับผิดชอบในกลุ่มประเทศประชาธิปไตยทั่วโลก มีความมุ่งมั่นที่จะธำรงรักษาไว้ซึ่งค่านิยมด้านประชาธิปไตย เสรีภาพ หลักนิติธรรมและหลักสิทธิมนุษยชนอย่างหนักแน่น พร้อมต่อต้านพฤติกรรมการใช้อาวุธรังแกผู้ที่เสียเปรียบกว่า ในวาระครบรอบ 1 ปีที่รัสเซียรุกรานยูเครนในวันนี้ รัฐบาลไต้หวันขอแสดงจุดยืนอย่างแน่วแน่ว่า พวกเราต่อต้านการใช้อาวุธหรือการบังคับขู่เข็ญให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสถานภาพในปัจจุบัน พร้อมให้การสนับสนุนทุกฝ่ายแก้ไขปัญหาความขัดแย้งด้วยการเจรจาและต่อรองอย่างสันติและสมเหตุสมผล ภายใต้กรอบโครงสร้างกฎหมายระหว่างประเทศ นอกจากนี้ รัฐบาลไต้หวันยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลรัสเซียเร่งยุติการรุกรานทางการทหารต่อยูเครน พร้อมเคารพต่อเอกราช อธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครน โดยรัฐบาลไต้หวันจะเข้ามีส่วนร่วมในมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียของประชาคมโลกต่อไป ตราบจนสงครามสิ้นสุดลง
รัฐบาลและภาคประชาชนชาวไต้หวันยึดมั่นในความยุติธรรมและหลักการร่วมทุกข์ร่วมสุขเสมอมา พร้อมทั้งประสานความร่วมมือกับกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน เพื่อบรรลุหลักการไต้หวันช่วยได้ “Taiwan Can Help” อย่างเป็นรูปธรรม นับแต่สงครามรัสเซีย – ยูเครนปะทุขึ้นเป็นต้นมา รัฐบาลและภาคประชาชนชาวไต้หวันต่างร่วมบริจาคเวชภัณฑ์การแพทย์น้ำหนักรวม 27 ตัน และสิ่งของบรรเทาทุกข์อีกกว่า 700 ตัน ส่งผ่านไปยังประเทศรายรอบ อาทิ โปแลนด์และสโลวาเกีย เพื่อช่วยบรรเทาความต้องการเร่งด่วนให้แก่ผู้ลี้ภัยชาวยูเครนที่มุ่งมั่นธำรงรักษาประเทศชาติของตนไว้อย่างเด็ดเดี่ยวกล้าหาญ นอกจากนี้ ไต้หวันยังได้ร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือรวมทั้งสิ้นกว่า 41 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อใช้ในการจัดตั้งที่พักอาศัยชั่วคราวให้แก่ผู้ลี้ภัยชาวยูเครน ร่วมกับโปแลนด์ เช็ก สโลวัก ลิทัวเนียและองค์การระหว่างประเทศ อีกทั้งยังได้บริจาคเงินช่วยเหลือให้แก่พื้นที่ต่างๆ ในยูเครน ประกอบด้วย กรุงเคียฟ (Kyiv) เมืองบูชา (Bucha) เมืองคาร์คิฟ (Kharkiv) เมืองมิโคลายีฟ (Mykolaiv) และเมืองเคอร์ซอน (Kherson) เป็นต้น ตลอดจนยังดำเนินโครงการให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม ผ่านสถานพยาบาล คริสตจักร เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนชาวยูเครนก้าวผ่านวิกฤตสงครามและสภาพอากาศที่หนาวเหน็บไปได้โดยเร็ววัน
เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนชาวยูเครนในการฟื้นฟูบูรณะบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย ในปี 2023 กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้จัดสรรงบประมาณช่วยเหลือเป็นจำนวนเงิน 1,800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 56 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) เพื่อใช้ในโครงการก่อสร้างสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน อย่างสถานพยาบาล สถานศึกษา โบสถ์ พลังงาน การจ่ายน้ำและสะพานเพื่อการคมนาคม เป็นต้น
โดยไต้หวันจะเสริมสร้างความร่วมมือในเชิงลึกกับสหรัฐฯ รวมถึงกลุ่มประเทศในยุโรปและกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันอย่างเหนียวแน่นต่อไป เพื่อส่งเสริมให้ยูเครนรอดพ้นจากวิกฤตสงคราม กลับสู่ความสงบสุขและความเจริญรุ่งเรืองโดยเร็ววัน ตลอดจนเพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและเสถียรภาพในระดับภูมิภาคและระดับโลก ให้คงอยู่สืบไป