New Southbound Policy Portal
สภาบริหาร วันที่ 6 มี.ค. 66
เมื่อวันที่ 6 มี.ค. ที่ผ่านมา นายเฉินเจี้ยนเหริน นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เดินทางเยือนนครเกาสง เพื่อเข้าร่วม “พิธีเปิดเดินเรือเที่ยวปฐมฤกษ์และการเปิดท่าเรือสำราญเกาสง” โดยนรม.เฉินฯ กล่าวว่า ท่าเรือเกาสงนอกจากจะเป็นท่าเรือหลักแห่งแรกของไต้หวันแล้ว ยังเป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางเรือในภูมิภาคเอเชียอีกด้วย เพื่อยกระดับศักยภาพทางการแข่งขันของท่าเรือและกระตุ้นการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในไต้หวัน รัฐบาลจึงได้ทุ่มงบประมาณ 4,500 ล้านเหรียญไต้หวันจัดสร้างท่าเทียบเรือสำราญขนาดใหญ่ในท่าเรือเกาสง (Kaohsiung Port Cruise Terminal) โดยหลังจากที่ได้ทำการเปิดใช้ในวันนี้ ก็จะเปิดให้เรือสำราญขนาด 250,000 ตัน ซึ่งเป็นขนาดที่ใหญ่ที่สุด แล่นเข้ามาเทียบท่า โดยได้มีการจัดตั้งอุปกรณ์รูปแบบอัจฉริยะและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้โดยสารในการผ่านพิธีการศุลกากร นอกจากนี้ นรม.เฉินฯ ยังได้อนุมัติงบประมาณ 88,000 ล้านเหรียญไต้หวัน เพื่อใช้ในการจัดสร้างอาคารผู้โดยสารแห่งใหม่ในท่าอากาศยานนานาชาติเกาสง โดยในอนาคต นครเกาสงจะมีสภาพแวดล้อมท่าเรือและท่าอากาศยานที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ ก้าวสู่การเป็นเมืองท่าที่สำคัญในภูมิภาคเอเชีย
นรม.เฉินฯ ระบุว่า วันนี้เป็นวันมงคลของนครเกาสง ท่าเทียบเรือสำราญขนาดใหญ่ในท่าเรือเกาสงที่ทุกคนรอคอย ได้ทำการเปิดใช้อย่างเป็นทางการแล้ว โดยมีเรือสำราญนานาชาติ 2 ลำแล่นเทียบท่าในวันทดลองเปิดให้บริการ ซึ่งเป็นครั้งแรกหลังยุคโควิด – 19 ที่เรือสำราญแล่นเข้าเทียบท่าเรือของไต้หวัน แสดงให้เห็นว่า ไต้หวันเตรียมกลับเข้าสู่ตลาดเรือสำราญนานาชาติอย่างเป็นทางการแล้ว
นรม.เฉินฯ ระบุว่า ท่าเรือเกาสงมีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 160 ปี นอกจากจะเป็นท่าเรือหลักท่าแรกของไต้หวันแล้ว ยังเป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางเรือในภูมิภาคเอเชียอีกด้วย ซึ่งมีความเพรียบพร้อมในด้านอุปกรณ์และพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ ส่งผลให้ปริมาณการขนส่งสินค้าทางเรือ ครองสัดส่วนกว่าร้อยละ 70 ในไต้หวัน ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาทางเศรษฐกิจและการค้าในนครเกาสงและไต้หวันเป็นอย่างมาก
นรม.เฉินฯ กล่าวว่า เพื่อกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศ นรม.เฉินฯ ได้อนุมัติ “โครงการระยะกลางสำหรับก่อสร้างแลนด์มาร์คการท่องเที่ยวที่สำคัญ” (ช่วงระหว่างปี 2024 - 2027) โดยจะทำการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญเกือบ 200 แห่งในไต้หวันด้วยงบประมาณ 15,000 ล้านเหรียญไต้หวันภายในระยะเวลา 4 ปี พร้อมทั้งประสานความร่วมมือกับรัฐบาลท้องถิ่น เร่งผลักดันแบรนด์การท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวในไต้หวัน โดยการเปิดใช้ท่าเทียบเรือสำราญขนาดใหญ่ในท่าเรือเกาสงในวันนี้ นอกจากจะสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไต้หวันเพิ่มขึ้นแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมให้ไต้หวันก้าวสู่ประชาคมโลก ตลอดจนส่งเสริมให้ทั่วโลกประจักษ์ถึงความงดงามของไต้หวันมากยิ่งขึ้นอีกด้วย