New Southbound Policy Portal

รมว.กต.ไต้หวันให้สัมภาษณ์แก่สถานีวิทยุโทรทัศน์ VRT ของเบลเยี่ยม เรียกร้องให้กลุ่มประเทศประชาธิปไตยทั่วโลกสามัคคีกันสกัดกั้นการแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการจากจีน

กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 16 มี.ค. 66
 
เมื่อวันที่ 2 มี.ค. ที่ผ่านมา นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้สัมภาษณ์แก่ Mr. Stefan Blommaert ผู้สื่อข่าว “สถานีวิทยุโทรทัศน์ VRT” (Vlaamse Radio- en Televisieomroeporganisatie) ของประเทศเบลเยี่ยม ที่ออกอากาศในภาคภาษาดัตช์ โดยเนื้อหาบทสัมภาษณ์ได้ถูกเผยแพร่ออกอากาศ เมื่อวันที่ 14 มี.ค. ผ่านรายการในหัวข้อ “มิได้หวั่นเกรง แต่ไม่พอใจ : ไต้หวันไม่ยินยอมที่จะเป็นหมากในเกมกระดานทางภูมิรัฐศาสตร์” ("Zijn niet bang, maar boos": Taiwan tegen wil en dank geopolitieke speelbal) ซึ่งได้รับความสนใจจากทุกแวดวงในเบลเยี่ยมและเนเธอร์แลนด์เป็นอย่างมาก
 
โดยกลุ่มผู้สื่อข่าวได้เดินทางมาสัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ภาครัฐของไต้หวันเป็นการเฉพาะกิจ ซึ่งนอกเหนือจากรมว.อู๋ฯ แล้ว ยังได้เข้าสัมภาษณ์นายโหยวซีคุณ ประธานสภานิติบัญญัติ โฆษกกระทรวงกลาโหม นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญและภาคประชาชน โดยในรายงานที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อพิเศษนี้ ได้มีการหยิบยกประเด็นต่างๆ มาตีแผ่มากมาย อาทิ การยอมรับในสถานภาพตนเองของประชาชนชาวไต้หวัน ความสัมพันธ์สองฝั่งช่องแคบไต้หวัน และแนวทางการรับมือต่อการข่มขู่จากจีนของไต้หวัน เป็นต้น โดยหัวข้อรายงานได้อ้างอิงมาจากคำพูดของประชาชนที่เข้าร่วมให้สัมภาษณ์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกและสภาพจิตใจของประชาชนชาวไต้หวัน ที่รู้สึกไม่พอใจมากกว่าหวั่นกลัว เมื่อต้องเผชิญกับภัยคุกคามจากจีน
 
รมว.อู๋ฯ กล่าวในระหว่างการให้สัมภาษณ์ว่า นับวันภัยคุกคามจากจีนจะยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น เพื่อธำรงรักษาอำนาจอธิปไตย ประชาธิปไตยและเสรีภาพ ไต้หวันจึงเร่งเสริมสร้างความสัมพันธ์กับนานาประเทศทั่วโลกให้มีความแนบแน่นมากยิ่งขึ้น ซึ่งได้รับการสนับสนุนเป็นวงกว้างจากสหรัฐฯ กลุ่มประเทศในทวีปยุโรปและกลุ่มประเทศในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก โดยกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันต่างตระหนักถึงความสำคัญในการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน พร้อมแสดงความไม่เห็นด้วยต่อการที่จีนจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสถานภาพเดิมในช่องแคบไต้หวัน
 
รมว.อู๋ฯ เน้นย้ำว่า ความทะเยอทะยานในการแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการจากจีน ไม่เพียงแค่มุ่งเป้าไปที่ไต้หวันเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมไปสู่ทะเลจีนตะวันออก ทะเลจีนใต้ ไปจนถึงพื้นที่แถบมหาสมุทรแปซิฟิกและพื้นที่ในแอฟริกา การเผชิญหน้ากับการแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการ เป็นความท้าทายที่กลุ่มประเทศประชาธิปไตยต้องร่วมเผชิญหน้า โดยแนวทางการแก้ไขปัญหาเพียงทางเดียวคือ การที่ประเทศประชาธิปไตยสามัคคีกันร่วมสกัดกั้นการแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการไปสู่ทุกพื้นที่ทั่วโลก
 
รมว.อู๋ฯ เผยว่า จีนมิได้ต้องการที่จะทำลายความสัมพันธ์ทางการทูตของไต้หวันเพียงอย่างเดียว แต่ยังสกัดกั้นมิให้ไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในองค์การระหว่างประเทศ ยกตัวอย่างเช่นในระหว่างสถานการณ์โรคโควิด – 19 ไต้หวันคาดหวังที่จะประสานความร่วมมือกับองค์การอนามัยโลก (WHO) เพื่อสร้างคุณประโยชน์ให้แก่ประชาคมโลก แต่การแทรกแซงจากจีน ทำให้นอกจากไต้หวันจะไม่สามารถได้รับความช่วยเหลือโดยตรงจาก WHO แล้ว ยังไม่สามารถร่วมแบ่งปันประสบการณ์การป้องกันโรคระบาดของไต้หวันให้แก่ WHO ซึ่งไม่ส่งผลดีต่อทุกฝ่าย