New Southbound Policy Portal
กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 14 เม.ย. 66
เมื่อวันที่ 12 เม.ย. ที่ผ่านมา นายหลี่ฉุน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้สัมภาษณ์แก่ Ms. Jenny Leonard ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าว Bloomberg ประจำทำเนียบขาวของสหรัฐฯ และ Ms. Debby Wu รองบรรณาธิการสำนักข่าว Bloomberg ที่ประจำการอยู่ในไต้หวัน โดยเนื้อหาบทสัมภาษณ์ได้รับการเผยแพร่ผ่านรายการสถานีโทรทัศน์และเว็บไซต์สำนักข่าว เมื่อวันที่ 14 เม.ย. ที่ผ่านมา ภายใต้หัวข้อ “รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน เผยความเสี่ยงที่เกิดจากการปิดล้อมทางเศรษฐกิจ ที่จีนอาจกระทำการต่อไต้หวัน” (Taiwan Deputy Foreign Minister on Risk of Chinese Economic Blockade) ซึ่งได้รับความสนใจในวงกว้างจากทั่วโลก
รมข.หลี่ฯ กล่าวว่า การซ้อมรบของจีนในระยะที่ผ่านมานี้ เป็นการดำเนินการตาม “แผนยุทธศาสตร์ต้นทุนต่ำ” เพื่อสังเกตปฏิกิริยาตอบโต้ของไต้หวันและประชาคมโลก โดยมีเป้าหมายเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ในการทำให้คู่ต่อสู้ยอมจำนนโดยที่ไม่ต้องก่อสงคราม แสดงให้เห็นว่า รัฐบาลจีนได้คิดพิจารณาแนวทางการปิดล้อมทางเศรษฐกิจต่อไต้หวันอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว แต่ในความเป็นจริง การปิดล้อมทางเศรษฐกิจเป็นบททดสอบที่มีความเสี่ยงสูงและต้องแลกมาด้วยความสูญเสียที่มีมูลค่ามหาศาล และอาจนำมาซึ่งความขัดแย้งทางทหารระหว่างหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ระหว่างจีน - ไต้หวัน รมช.หลี่ฯ เผยว่า ไต้หวันมีระบบห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่ครอบคลุมสมบูรณ์และเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ ซึ่งมีบทบาทในการผลิตชิ้นส่วนสำคัญทางเทคโนโลยีเพื่อส่งต่อให้ทุกพื้นที่ทั่วโลก ด้วยเหตุนี้ สถานการณ์ความตึงเครียดในช่องแคบไต้หวัน อาจทำให้ต้นทุนทางเศรษฐกิจของทุกฝ่าย มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น
รมข.หลี่ฯ กล่าวเสริมว่า ภารกิจในการรับมือกับความเสี่ยงของการปิดล้อมทางเศรษฐกิจจากจีน ได้กลายมาเป็นภารกิจที่รัฐบาลไต้หวันให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ โดยตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้เร่งสำรองสิ่งของจำเป็น ทรัพยากแร่ธาตุ และพลังงาน ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างความทรหดของไต้หวัน ผ่านการเร่งบัญญัติกฎหมาย ขณะเดียวกัน ไต้หวันก็ได้เร่งสร้างความร่วมมือกับกลุ่มมิตรประเทศอย่างขะมักเขม้น เพื่อร่วมสกัดกั้นความทะเยอทะยานในการก่อสงครามของจีน
สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ รมช.หลี่ฯ เน้นย้ำว่า ไต้หวันและสหรัฐฯ มีความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนที่มั่นคงแข็งแกร่งในระยะยาว โดยสหรัฐฯ มีจุดยืนในการสนับสนุนไต้หวันอย่างไม่แบ่งแยกฝักฝ่าย ซึ่งไต้หวันก็เห็นว่า การรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างทั้งสองฝ่ายให้มีความมั่นคง มีความสำคัญต่อไต้หวันเป็นอย่างมาก ไม่ว่าพรรคการเมืองใดในไต้หวันจะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี ที่เตรียมจะจัดขึ้นในเดือนมกราคม 2024 หรือผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เตรียมจะจัดขึ้นในเดือนพฤศจิกายนในปีนี้จะเป็นเช่นไร ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันและสหรัฐฯ จะยังคงอยู่เช่นนี้ไม่เปลี่ยนไป นอกจากนี้ รมช.หลี่ฯ ยังแสดงทรรศนะในเชิงบวกเกี่ยวกับความคืบหน้าของ “แผนริเริ่มทางการค้าไต้หวัน-สหรัฐฯ แห่งศตวรรษที่ 21” ที่ทั้งสองฝ่ายเปิดการเจรจาระหว่างกันเมื่อช่วงที่ผ่านมา โดยคาดหวังที่จะเห็นผลสัมฤทธิ์อย่างเป็นรูปธรรม ภายในปลายปี 2023 นี้