New Southbound Policy Portal

ทำเนียบประธานาธิบดีและกระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 19 เม.ย. 66
 
เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 19 เม.ย. ทีผ่านมา ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เข้าร่วมกิจกรรม “วันรำลึกเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์สากล” (International Holocaust Remembrance Day) โดยปธน.ไช่ฯ กล่าวว่า ขณะนี้ไต้หวันกำลังมุ่งมั่นประสานความร่วมมือกับพันธมิตรระหว่างประเทศอย่างกระตือรือร้น เพื่อรักษาเสรีภาพทางศาสนา ปรามปรามการดูหมิ่นและส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศ ตลอดจนธำรงปกป้องสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย โดยคาดหวังที่จะสร้างสรรค์โลกที่ดียิ่งขึ้น และเปี่ยมด้วยการยอมรับมากยิ่งขึ้นในอนาคต
 
ปธน.ไช่ฯ กล่าวขณะปราศรัยเป็นภาษาอังกฤษว่า ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมอิสราเอลในกรุงไทเป สถาบันเยอรมนีในไต้หวัน และมูลนิธิประชาธิปไตยไต้หวัน ที่ได้ร่วมจัดกิจกรรมครั้งสำคัญขึ้นอีกครั้งในปีนี้ ขอบคุณแขกผู้มีเกียรติทุกท่านที่สละเวลามาร่วมงานในวันนี้ เพื่อร่วมรำลึกถึงชาวยิวที่เสียชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ และขอแสดงความเคารพต่อผู้รอดชีวิตทุกท่าน พร้อมทั้งขอแสดงความปรารถนาดีต่อผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโศกนาฏกรรมทางประวัติศาสตร์ทุกท่าน
โดยปธน.ไช่ฯ ยังได้กล่าวขอบคุณ Ms. Sarah Goodman ผู้รอดชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่เดินทางมาเข้าร่วมในกิจกรรมครั้งนี้ การที่ Ms. Goodman สามารถรอดชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของกองทัพนาซีเยอรมัน ถือเป็นปาฏิหาริย์เลยก็ว่าได้ ขอแสดงความขอบคุณต่อ Ms. Goodman ที่ยินดีมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์อันเจ็บปวดเมื่อครั้งอดีตให้แก่พวกเราในวันนี้
 
ปธน.ไช่ฯ กล่าวอีกว่า ในทุกปีพวกเราทุกคนจะมารวมตัวกันเพื่อรำลึกถึงผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์สากล และผู้ที่ทนทุกข์ทรมานจากเหตุโศกนาฏกรรมในครั้งนั้น มีเพียงการร่วมแบ่งปันความทรงจำของเหยื่อจากเหตุการณ์เมื่อครั้งอดีต จึงจะสามารถสะท้อนบทเรียนที่ได้รับในห้วงประวัติศาสตร์ ซึ่งพวกเราในที่นี้ขอให้คำมั่นสัญญาว่า จะไม่ให้เกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอย โดยพวกเราจะจดจำบทเรียนในอดีต พร้อมระลึกถึงผู้ที่ต้องทนทุกข์ทรมานอย่างต่อเนื่องภายใต้ลัทธิอำนาจนิยม เพียงเพราะความแตกต่างทางกลุ่มชาติพันธุ์ รสนิยมทางเพศ อุดมการณ์ทางการเมืองและความเชื่อทางศาสนา โดยพวกเราจะมุ่งมั่นเรียกร้องให้ประชาชนร่วมตระหนักเห็น และหยุดยั้งความทุกข์ทรมานเหล่านี้ให้จบลงเพียงเท่านี้
 
ปธน.ไช่ฯ ชี้ว่า รัฐบาลไต้หวันมุ่งมั่นในการบรรลุคำมั่นข้างต้นอย่างกระตือรือร้น อันจะเห็นได้จากนับตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมา ศูนย์ทรัพยากรการศึกษาด้านสิทธิมนุษยชน ภายใต้สำนักงานการศึกษาภาคบังคับ กระทรวงศึกษาธิการ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) พิพิธภัณฑ์อนุสรณ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิวแห่งอิสราเอล และสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมอิสราเอลในกรุงไทเป ได้ประสานความร่วมมือในการจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการ โดยคาดหวังที่จะเสริมสร้างความเข้าใจด้านประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ให้แก่มวลมนุษยชนรับทราบโดยทั่วกัน
 
ปธน.ไช่ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า สภาตรวจสอบและสำนักงานเศรษฐกิจและวัฒนธรรมอิสราเอลในกรุงไทเป ก็ได้ประสานความร่วมมือกัน จัดนิทรรศการพิเศษขึ้นภายใต้หัวข้อ “SHOAH – การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว ช่วงเวลาอันโหดร้ายของมนุษยชาติ” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนชาวไต้หวัน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ร่วมทำความเข้าใจต่อโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ ผ่านข้อมูลทางประวัติศาสตร์และวัตถุโบราณต่างๆ
 
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สำนักงานตัวแทนรัฐบาลไต้หวันประจำอิสราเอลได้บริจาคเงิน จำนวน 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้แก่ “Yad Ezer Lechaver” องค์การนอกภาครัฐของอิสราเอล ซึ่งทางองค์กรจะนำเงินบริจาคจำนวนนี้จัดตั้งกลุ่มหน่วยแพทย์มอเตอร์ไซค์เคลื่อนที่ เพื่อให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์ ส่งมอบอาหาร ยาและการดูแลในชีวิตประจำวันให้แก่เหยื่อผู้รอดพ้นจากเหตุฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
 
ปธน.ไช่ฯ เผยว่า ขณะนี้ไต้หวันกำลังมุ่งผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ความยุติธรรมอย่างกระตือรือร้นและต่อเนื่อง โดยสภาบริหารได้จัดตั้ง “การประชุมรายงานความคืบหน้าด้านการผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ความยุติธรรม” เพื่อบรรจุแนวคิดว่าด้วยการเปลี่ยนผ่านสู่ความยุติธรรมเข้าเป็นส่วนหนึ่งในนโยบายของรัฐบาล โดยรัฐบาลจะเพิกถอนคำพิพากษาที่ตัดสินให้ผู้บริสุทธิ์ที่ถูกกล่าวหาต้องได้รับโทษ โดยหวังที่จะลบล้างตราบาปในใจและปลอมประโลมเหยื่อและสมาชิกในครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความน่าสะพรึงสีขาว (White Terror) ในไต้หวันเมื่อครั้งอดีต
 
เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมาเป็นวาระครบรอบ 1 ปีที่รัสเซียบุกรุกรานยูเครน พวกเราล้วนได้รับการเตือนใจให้ตระหนักเห็นถึงความสำคัญของการธำรงและปกป้องค่านิยมด้านประชาธิปไตย เสรีภาพ ความเท่าเทียมและสันติภาพ เมื่อได้เห็นภาพที่ประชาชนชาวยูเครนลุกขึ้นสู้เพื่อปกป้องประชาธิปไตยและเสรีภาพด้วยความกล้าหาญอย่างต่อเนื่อง
 
ในช่วงที่เราต้องเผชิญกับอำนาจเผด็จการและภัยคุกคามที่นับวันยิ่งทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น พวกเรายิ่งต้องประสานสามัคคีเพื่อรักษาไว้ซึ่งค่านิยมที่ได้มาจากการเสียสละของเหล่าวีรบุรุษ ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรด้านประชาธิปไตยและกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน จึงจะสามารถสรรค์สร้างโลกที่ดียิ่งขึ้นให้แก่คนรุ่นหลังในอนาคตได้
 
 ไต้หวัน อิสราเอลและเยอรมนี ล้วนเป็นประเทศที่ให้ความสำคัญกับสิทธิมนุษยชน อีกทั้งยังเป็นพันธมิตรด้านประชาธิปไตยที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน โดยในปีนี้ประจวบกับเป็นวาระครอบรอบ 30 ปีแห่งการจัดตั้งสำนักงานตัวแทนรัฐบาลขึ้นในดินแดนระหว่างกันของไต้หวันและอิสราเอล นอกจากจะเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือในประเด็นที่ให้ความสนใจร่วมกันแล้ว ยังเป็นการรักษาไว้ซึ่งค่านิยมและแนวคิดที่ยึดมั่นร่วมกันให้คงอยู่สืบต่อไปอีกด้วย