New Southbound Policy Portal

รมว.ต่างประเทศ สาธารณรัฐเช็ก เขียนบทความพร้อมกล่าวปาฐกถาแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ในยูเครน และความมั่นคงในช่องแคบไต้หวัน

กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 3 พ.ค. 66
 
เมื่อวันที่ 1 พ.ค. ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ The Washington Examiner ได้ตีพิมพ์บทความในหัวข้อ “ยูเครนต้องยึดไครเมียคืนเพื่อสกัดกั้นความเพ้อฝันของรัสเซียที่จะก้าวสู่การเป็นมหาอำนาจจักรวรรดินิยม” (Ukraine must take back Crimea to stop Russia’s sick imperialistic dreams) ที่เขียนขึ้นโดย Mr. Jan Lipavský รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐเช็ก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อต้องการเรียกร้องให้กลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน ปฏิเสธการเจรจาตกลงกับประเทศที่ยึดมั่นในระบอบเผด็จการหรือลัทธิอำนาจนิยม พร้อมเรียกร้องให้ประชาคมโลกหันมาร่วมกันรักษาไว้รักษาเสรีภาพ ประชาธิปไตยและหลักนิติธรรม พร้อมยื่นมือให้ความช่วยเหลือยูเครนในการปกป้องดินแดนและอำนาจอธิปไตย และเป็นการประกาศจุดยืนอย่างชัดเจนว่า หนทางการยุติสงครามที่ดีที่สุดคือขับไล่ชาวรัสเซียออกจากดินแดนไครเมียและดินแดนอื่นๆ ที่รัสเซีย เข้าครอบครองด้วยวิธีการที่ไม่ชอบธรรม
 
สาระสำคัญในบทความยังชี้ว่า การเข้ารุกรานยูเครนของรัสเซีย เปรียบเสมือนเป็นการส่งสารที่ปลุกกำลังใจความฮึกเหิมให้แก่จีน ในด้านการแผ่ขยายอิทธิพลอำนาจ ประชาคมโลกจึงควรเฝ้าจับตาระแวดระวังพฤติกรรมการคุกคามและการแทรกซึมของจีนที่กระทำต่อไต้หวันและประเทศที่อยู่รายรอบ ซึ่งทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งยังย้ำด้วยว่า พฤติกรรมใดๆ ที่เป็นการโจมตีประชาธิปไตยของไต้หวัน จะนำมาซึ่งผลกระทบที่รุนแรงต่อการเมืองและเศรษฐกิจโลก
 
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ที่ผ่านมา รมว. Lipavský ยังได้รับเชิญให้เข้าร่วมแสดงปาฐกถาในสถาบันวิจัย Hudson Institute แห่งสหรัฐฯ ในหัวข้อ “การฟื้นฟูอำนาจอธิปไตยของยูเครนเหนือไครเมีย เป็นหนทางเดียวที่จะช่วยปลุกรัสเซียให้ตื่นจากภวังค์เพ้อฝันที่จะก้าวสู่การเป็นมหาอำนาจจักรวรรดินิยม” (Restoration of Ukraine’s sovereignty over Crimea is the only way to cure Russia from its sick imperialistic dreams) โดยรมว. Lipavský แสดงจุดยืนอย่างหนักแน่นถึงความจำเป็นของการฟื้นฟูอำนาจอธิปไตยของยูเครนเหนือไครเมีย และการสกัดกั้นการแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการ พร้อมเน้นย้ำว่า นโยบายการประนีประนอมระหว่างประเทศ มีแต่จะกระตุ้นการแผ่ขยายอิทธิพลของลัทธิอำนาจนิยม โดยรมว. Lipavský ได้หยิบยกตัวอย่างกรณีที่จีนได้กดดันเหล่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเช็กเกียที่เดินทางเยือนไต้หวัน รวมไปถึงการคุกคามไต้หวันด้วยกำลังทหารของจีนที่เพิ่มความถี่ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รมว. Lipavský ชี้ว่า จีนเพิกเฉยต่อกฎระเบียบด้านความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศ จึงไม่เป็นที่ยอมรับในประชาคมโลก พร้อมชี้ว่า นโยบายความสัมพันธ์ยุโรป - จีน ที่โอนเอียงไปทางจีน จะส่งผลให้ความเชื่อมโยงในกลุ่มประเทศแถบมหาสมุทรแอตแลนติกเสื่อมถอยลง พร้อมเรียกร้องให้กลุ่มประเทศประชาธิปไตยเร่งประสานความร่วมมือกับหุ้นส่วนในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก ซึ่งรวมถึงไต้หวัน โดยยกให้ภัยคุกคามที่ยูเครนและนานาประเทศต้องเผชิญ เป็นบททดสอบที่ท้าทายร่วมกันของกลุ่มประเทศประชาธิปไตย โดย รมว. Lipavský  เน้นย้ำว่า หากนานาประเทศประสานความสามัคคีร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว ก็จะสามารถปกป้องไว้ซึ่งสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคและในโลกให้คงอยู่ต่อไปได้
 
กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ให้การยอมรับรมว. Lipavský ที่ให้การสนับสนุนต่อยูเครนอย่างหนักแน่น พร้อมทั้งแสดงความขอบคุณต่อรมว. Lipavský ที่ร่วมจับตาให้ความสำคัญและให้การสนับสนุนต่อสถานการณ์ในช่องแคบไต้หวัน เนื่องด้วยไต้หวัน – ยูเครนเป็นพันธมิตรที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน มีการแลกเปลี่ยนและปฏิสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปี 2022 ที่สงครามรัสเซีย - ยูเครน ปะทุขึ้น พวกเราทั้งสองฝ่ายต่างยึดมั่นในการประสานสามัคคีของกลุ่มประเทศประชาธิปไตย และจิตวิญญาณการให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม ผนึกกำลังกันให้ความช่วยเหลือแก่ยูเครนอย่างกระตือรือร้น โดยไต้หวัน – เช็กเกียและพันธมิตรประชาธิปไตยในทวีปยุโรป จะร่วมสร้างความร่วมมือในการรักษาสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค บนพื้นฐานของการมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีและความร่วมมือที่มีอยู่เดิมต่อไป