New Southbound Policy Portal

คณะกรรมการกิจการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  วันที่ 12 มิ.ย. 66
 
เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่เหล่าผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ แสวงหาโอกาสในการเป็นจุดสนใจของนานาชาติ พร้อมทั้งเชื่อมโยงสู่โอกาสธุรกิจในอุตสาหกรรมระดับโลก คณะกรรมการกิจการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (NSTC) สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) จึงได้นำคณะผู้ประกอบการสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยี เดินทางไปร่วมงานมหกรรมแสดงสินค้าที่มีชื่อเสียงระดับโลก โดยมีนางสวี่เจิงหรู ผู้อำนวยการฝ่ายกิจการประสานงานภาคอุตสาหกรรมและภาควิชาการ NSTC นำคณะตัวแทนผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ จำนวน 47 ราย เดินทางไปเข้าร่วมมหกรรมในทวีปยุโรป ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรก ประกอบด้วยผู้ประกอบการ 20 ราย ได้เข้าร่วมสัปดาห์เทคโนโลยีลอนดอน (London Tech Week) ประเทศอังกฤษ ในช่วงระหว่างวันที่ 12 – 16 มิ.ย. นี้ ส่วนอีกกลุ่มที่ประกอบด้วยบรรดาผู้ประกอบการ 27 ราย เตรียมเข้าร่วมงานนิทรรศการ VivaTech ประเทศฝรั่งเศส ในช่วงระหว่างวันที่ 14 – 17 มิ.ย.นี้
 
เมื่อต้นเดือนมิ.ย. นายอู๋เจิ้งจง รัฐมนตรีประจำสภาบริหารและประธานคณะกรรมการกิจการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้นำคณะตัวแทนเดินทางไปเยือนนครซานฟรานซิสโก เพื่อเข้าร่วมการประชุมสัมมนาระดับนานาชาติ Taiwan S&T Hub Inaugural Conference ที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เป็นครั้งแรกโดยศูนย์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไต้หวัน (Taiwan Science & Technology Hub) ที่ NSTC จัดตั้งขึ้นในมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด นอกจากนี้ รมว.อู๋ฯ ยังได้นำคณะตัวแทนในแวดวงภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรมและภาควิชาการ เดินทางเยือนเมืองบอสตัน เพื่อเข้าร่วมงาน BIO International Convention, BIO 2023 ซึ่งเป็นนิทรรศการเทคโนโลยีชีวภาพที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนทางการวิจัยเชิงวิทยาศาสตร์ ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ ตลอดจนเสริมสร้างความเชื่อมโยง ระหว่างการวิจัยเชิงวิทยาศาสตร์และภาคอุตสาหกรรม ซึ่งหลังจากนี้ รมว.อู๋ฯ จะเดินทางต่อไปยังประเทศอังกฤษ เพื่อเข้าเยี่ยมเยือนกระทรวงวิทยาศาสตร์ นวัตกรรมและเทคโนโลยี (Department for Science, Innovation and Technology, DSIT) ของอังกฤษ ซึ่งถือเป็นการดำเนินภารกิจการทูตเชิงเทคโนโลยี พร้อมทั้งเข้าเยี่ยมชมงาน London Tech Week และร่วมส่งกำลังใจให้แก่คณะตัวแทนไต้หวัน โดยรมว.อู๋ฯ ได้เน้นย้ำ ความหลากหลายของการพัฒนาทางเทคโนโลยีและความสำคัญของการบูรณาการความร่วมมือแบบข้ามศาสตร์ โดยคาดหวังที่จะเห็นคณะตัวแทนเร่งคว้าโอกาสนี้เพิ่มการแลกเปลี่ยนกับคณะตัวแทนจากนานาชาติให้มากขึ้น เพื่อขยายบทบาททางเทคโนโลยีของไต้หวันในเวทีโลก
 
ศูนย์ Taiwan Tech Arena (TTA) ของ NSTC ได้เข้าร่วม London Tech Week เป็นครั้งแรกเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลามจากทุกแวดวง โดยในปีนี้เป็นปีที่ 2 ที่ได้รวบรวมคณะผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ รวม 20 ราย จาก 3 ประเภทเทคโนโลยีประกอบด้วย เทคโนโลยี AI เทคโนโลยีอาหารและสุขภาพ รวมถึงการปลอดก๊าซเรือนกระจกและเทคโนโลยีดิจิทัล เข้าร่วมจัดแสดง เพื่อนำเสนอให้เห็นถึงมุมมองอันหลากหลายของการพัฒนาเชิงนวัตกรรมของไต้หวัน
 
ในปีนี้ คณะตัวแทน TTA ได้เดินทางเยือนอังกฤษเป็นประเทศแรกแต่ก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม โดยผู้ประกอบการสตาร์อัพของไต้หวัน 3 ราย ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วม Elevating Founder Challenge ซึ่งเป็นเวทีแสดงผลงานระดับนานาชาติใน London Tech Week ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. ที่ผ่านมา นับเป็นเกียรติยศอันสูงสุดเนื่องจากถือเป็นไฮไลท์ของ London Tech Week และเป็นจุดสนใจของกลุ่มนักลงทุนทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นเวทีที่จะส่งเสริมให้เกิดโอกาสการจับคู่ทางธุรกิจที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยรายชื่อผู้ประกอบการสตาร์ทอัพที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วม มีดังนี้ : Areix Analytics Limited , ible และ Keep Tossing Lab แสดงให้เห็นถึงศักยภาพทางนวัตกรรมเชิงเทคโนโลยีของไต้หวัน ซึ่งได้รับความสนใจเป็นวงกว้าง
 
จากการสังเกตการณ์จะเห็นได้ว่า กลุ่มธุรกิจที่ได้รับการคัดเลือกในปีนี้ ล้วนมีสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีด้านสุขภาพและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI อาทิ แพลตฟอร์มการบริหารการเงินรูปแบบ AI ที่คิดค้นวิจัยโดย Areix Analytics Limited ได้ทำการวิเคราะห์รายรับของผู้ใช้ รูปแบบความเคยชินในการจับจ่ายใช้สอยและการออมทรัพย์ เพื่อคาดการณ์แนวโน้มและทิศทางของเงินหมุนเวียนในระบบ พร้อมทั้งประเมินมูลค่าทรัพย์สินในอีก 5 ปี 10 ปี 30 ปีหรือ 50 ปีข้างหน้า เพื่ออำนวยความสะดวกในการคว้าโอกาสการลงทุนล่าสุด ส่วนบริษัท ible ได้ผลักดันผลิตภัณฑ์เครื่องฟอกอากาศไอออนประจุลบ แบบสวมใส่ติดตัวที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก โดยเครื่องฟอกอากาศนี้สามารถผลิตประจุลบมากกว่า 2 ล้านประจุ / ลบ.ซม. (cm3) ในทุกๆ 1 วินาที ซึ่งเป็นความเข้มข้นในปริมาณที่มากกว่าพื้นที่บริเวณน้ำตกในเขตป่าไม้ กว่า 100 เท่า ซึ่งสามารถช่วยลดการสูดฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน ที่เป็นภัยคุกคามทางสุขภาพ รวมถึงละอองเรณูและสารก่อภูมิแพ้ สำหรับผู้ใช้งาน ซึ่งสอดคล้องกับการให้ความสำคัญต่อเทคโนโลยีทางสุขภาพในปัจจุบันของหมู่ผู้บริโภค ส่วนบริษัท Keep Tossing Lab ได้ประยุกต์ใช้กระบวนการอัลกอริทึมด้วยเทคโนโลยี AI และข้อมูลเปิด (Open Data) ในการปรับปรุงเพื่อยกระดับประสบการณ์การติดตามข้อมูลด้านประสิทธิภาพการแข่งขันกีฬาประเภทเบสบอลและซอฟต์บอล จับคู่รูปแบบการบริการและสินค้าเชิงนวัตกรรม ช่วยลดต้นทุนการเข้าถึงข้อมูลสถิติและการฝึกอบรมตามหลักการวิทยาศาสตร์ สรรค์สร้างรูปแบบการบริการที่ก้าวข้ามกรอบจำกัดทางอุปกรณ์และพื้นที่ ตลอดจนผลักดันแบรนด์นวัตกรรมทางเทคโนโลยีของไต้หวัน ให้ก้าวสู่เวทีนานาชาติต่อไป