New Southbound Policy Portal
กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 18 มิ.ย. 66
เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. ที่ผ่านมา นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) พร้อมด้วยภริยาได้นำคณะตัวแทนเดินทางเยือนรัฐสภายุโรป และได้ร่วมพูดคุยหารือกับสมาชิกสภาแบบข้ามพรมแดน รวม 12 คน ประกอบด้วย Ms. Nicola Beer รองประธานรัฐสภายุโรป Ms. Rasa Juknevičienė รองประธานคณะทำงานด้านความมั่นคงและการป้องกันประเทศแห่งคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ Mr. Georges Dallemagne ประธานร่วมกลุ่มพันธมิตรไต้หวันในรัฐสภาเบลเยี่ยม Mr. Claude Wiseler สมาชิกรัฐสภาลักเซมเบิร์ก และ Ms. Baroness Brinton สมาชิกสภาขุนนางของอังกฤษ เป็นต้น โดยตัวแทนกลุ่มพันธมิตรไต้หวันในรัฐสภายุโรปและกลุ่มพันธมิตรไต้หวันในรัฐสภาเบลเยี่ยม ได้ทยอยมอบเกียรติบัตรแสดงความขอบคุณและหนังสือแสดงความขอบคุณที่ร่วมลงนามโดยเหล่าสมาชิกสภา ให้แก่รมว.อู๋ฯ เพื่อยกย่องเชิดชูคุณูปการของรมว.อู๋ฯ ในด้านการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – EU และความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนระหว่างไต้หวัน - เบลเยี่ยม
รมว.อู๋ฯ ได้รับการต้อนรับอย่างสมเกียรติจากรัฐสภายุโรป โดยรองประธานสภาได้ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของ Ms. Roberta Metsola ประธานสภายุโรป จัดพิธีต้อนรับรมว.อู๋ฯ ในห้องรับรองอาคันตุกะของสภา ในระหว่างนี้ รมว.อู๋ฯ ได้ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับสมาชิกสภายุโรป เบลเยี่ยม ลักเซมเบิร์ก และอังกฤษ รวม 12 คน ในประเด็นความสัมพันธ์ทางความร่วมมือระหว่างไต้หวัน - ยุโรป สถานการณ์ช่องแคบไต้หวันและสงครามรัสเซีย – ยูเครน เป็นต้น โดย Ms. Juknevičienė ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สาธารณรัฐลิทัวเนีย กล่าวว่า ภายใต้สถานการณ์ที่จีนแผ่ขยายอิทธิพลอำนาจเผด็จการอย่างไม่จบสิ้น ไต้หวันได้แสดงให้ประชาคมโลกประจักษ์ถึงความกล้าหาญในการปกป้องประชาธิปไตยและเสรีภาพ โดยพลังเสียงสนับสนุนไต้หวันจากรัฐสภายุโรป เพิ่มสูงขึ้นในระดับสูงสุดในช่วงหลายปีมานี้ เห็นได้ว่า การส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – EU ได้กลายเป็นฉันทามติร่วมกันของสมาชิกสภายุโรปแบบข้ามพรรค เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
Mr. Dallemagne ประธานร่วมกลุ่มพันธมิตรไต้หวันในรัฐสภาเบลเยี่ยม ได้เรียกร้องให้กลุ่มประเทศยุโรป ให้การสนับสนุนเสรีภาพและประชาธิปไตยของไต้หวัน รวมไปถึงการเข้าร่วมในองค์การระหว่างประเทศของไต้หวัน อีกทั้ง Mr. Dallemagne ยังได้มอบหนังสือแสดงความขอบคุณที่ร่วมลงนามโดย 6 ประธานร่วมกลุ่มพันธมิตรไต้หวันในรัฐสภาเบลเยี่ยม เพื่อเป็นเกียรติแก่รมว.อู๋ฯ อีกด้วย นอกจากนี้ Mr. Wiseler ก็ได้แสดงความขอบคุณต่อไต้หวันที่ได้บริจาคหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ให้แก่ลักเซมเบิร์กและกลุ่มประเทศในทวีปยุโรป ด้วยความเต็มใจ ท่ามกลางสถานการณ์โรคโควิด – 19 ในช่วงเริ่มต้น พร้อมทั้งให้การยอมรับไต้หวันในการสร้างคุณประโยชน์ด้านสาธารณสุขโลก Ms.Brinton รองประธานพรรคพันธมิตรเสรีนิยมและประชาธิปไตยเพื่อยุโรป (ALDE) และสมาชิกสภาขุนนางของอังกฤษ ก็ได้ยกย่องชื่นชมรัฐบาลและประชาชนของไต้หวัน สำหรับการส่งมอบความช่วยเหลือให้แก่ยูเครนอย่างกระตือรือร้น พร้อมทั้งเรียกร้องให้กลุ่มประเทศในทวีปยุโรปและไต้หวัน ประสานสามัคคีในการรับมือกับความท้าทายที่มาจากกลุ่มประเทศเผด็จการอย่างมุ่งมั่น
รมว.อู๋ฯ กล่าวขอบคุณพลังเสียงสนับสนุนจากรัฐสภายุโรป เบลเยี่ยมและลักเซมเบิร์ก ในด้านการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางความร่วมมือระหว่างไต้หวัน - ยุโรป และการสนับสนุนให้ไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในองค์การระหว่างประเทศ เพื่อเป็นแสดงให้เห็นว่า ไต้หวันไม่โดดเดี่ยว โดยหลังจากนี้ ไต้หวันจะสร้างคุณประโยชน์ด้านสุขภาพ เพื่อประโยชน์สุขแก่ประชาคมโลกต่อไป พร้อมนี้ รมว.อู๋ฯ ยังได้เรียกร้องให้ EU และกลุ่มประเทศในยุโรปที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน เฝ้าจับตาต่อสถานการณ์ช่องแคบไต้หวันและสงครามลูกผสมที่เกิดจากกลุ่มประเทศเผด็จการ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสกัดกั้นการแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
หลายปีมานี้ รัฐสภายุโรป เบลเยี่ยมและลักเซมเบิร์ก ต่างมีมติเห็นชอบต่อญัตติที่เป็นมิตรต่อไต้หวันหลายฉบับ โดยเน้นย้ำให้เห็นถึงความสำคัญของการธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน พร้อมทั้งให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมในองค์การอนามัยโลก (WHO) ตลอดจนเรียกร้องให้ EU เร่งสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าในเชิงลึกกับไต้หวัน โดยเร็ววัน
นอกจากนี้ สมาชิกสภาแบบข้ามพรมแดนอีกหลายท่าน ต่างก็ได้ให้การยอมรับการพัฒนาทางประชาธิปไตยและเสรีภาพของไต้หวัน ซึ่งแล้วแต่เป็นหุ้นส่วนสำคัญของ EU โดยพวกเขาต่างแสดงจุดยืนอันแน่วแน่ว่า กลุ่มประเทศยุโรปควรประสานสามัคคีในการช่วยธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน ควบคู่ไปกับการสกัดกั้นภัยคุกคามจากข่าวปลอม อีกทั้งยังควรที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้า ระหว่างไต้หวัน – EU รวมไปถึงความร่วมมือทางอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และห่วงโซ่อุปทาน ตลอดจนมุ่งเสริมสร้างมิตรภาพในเชิงลึกระหว่างไต้หวัน – EU อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป