New Southbound Policy Portal
ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 17 ก.ค. 66
พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งผู้นำประเทศของ H.E. Santiago Peña Palacios ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐปารากวัย มีกำหนดการจัดขึ้นในวันที่ 15 ส.ค. 2023 โดยเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 17 ก.ค. ที่ผ่านมา ทำเนียบประธานาธิบดี สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้จัดงานแถลงข่าว โดยประกาศว่า ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้มอบหมายให้นายไล่ชิงเต๋อ รองประธานาธิบดีเป็นตัวแทนเดินทางไปเข้าร่วมพิธีเข้ารับตำแหน่งของผู้นำประเทศพันธมิตรของไต้หวันในฐานะทูตพิเศษ เพื่อแสดงให้เห็นว่า ไต้หวันให้ความสำคัญต่อมิตรภาพระหว่างไต้หวัน-ปารากวัยเป็นอย่างมาก
โดยในงานแถลงข่าว นายอวี๋ต้าเหลย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ซึ่งทำหน้าที่เป็นประธาน กล่าวว่า สาธารณรัฐปารากวัยเตรียมจัดพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีคนใหม่ขึ้นในวันที่ 15 ส.ค. นี้ โดย H.E. Mario Abdo Benítez ประธานาธิบดีปารากวัยคนปัจจุบัน และปธน. Peña ที่ได้รับเลือกตั้งเมื่อช่วงที่ผ่านมา ต่างทยอยเชิญให้ปธน.ไช่ฯ เดินทางไปเข้าร่วมเป็นเกียรติในพิธี
รมช.อวี๋ฯ อธิบายว่า เนื่องจากการเข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งผู้นำประเทศ มีนัยยะสำคัญต่อความสัมพันธ์แบบทวิภาคีระหว่างสองประเทศ ปธน.ไช่ฯ จึงได้มอบหมายให้รองปธน.ไล่ฯ นำคณะตัวแทนเดินทางไปเข้าร่วมแสดงความยินดีในฐานะทูตพิเศษ เพื่อแสดงให้เห็นว่า ไต้หวันให้ความสำคัญต่อมิตรภาพระหว่างไต้หวัน-ปารากวัยเป็นอย่างมาก โดยฝ่ายไต้หวัน ได้แจ้งแผนการข้างต้นให้ทั้งปธน.ปารากวัยคนปัจจุบัน และผู้ที่ได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งปธน.ปารากวัยคนล่าสุด ได้รับทราบโดยทั่วกันแล้ว
รมช.อวี๋ฯ ชี้ว่า คณะตัวแทนทูตพิเศษมีกำหนดการเดินทางถึงปารากวัยในช่วงเช้าของวันที่ 14 ส.ค. และจะเข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของปธน. Peña ในวันที่ 15 ส.ค. โดยการเดินทางเยือนปารากวัยในฐานะทูตพิเศษของรองปธน. ไล่ฯ ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อทำหน้าที่เป็นตัวแทนของปธน.ไช่ฯ ในการเข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง และกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งเข้าร่วมกิจกรรมเฉลิมฉลองเนื่องในการรับตำแหน่งปธน.ปารากวัย และในวาระครบรอบ 486 ปี ของการก่อตั้งกรุงอาซุนซิออน ซึ่งเป็นเมืองหลวงของปารากวัยด้วย โดยในระหว่างนี้ รองปธน.ไล่ฯ จะเข้าพบปะพูดคุยกับปธน. Abdo และปธน. Peña เพื่อร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นความร่วมมือแบบทวิภาคีและประเด็นสถานการณ์ระหว่างประเทศที่ทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญร่วมกัน
รมว.อวี๋ฯ ยังชี้อีกว่า การเดินทางเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ระดับผู้นำประเทศ จะมีส่วนช่วยในการส่งเสริมความสัมพันธ์กับประเทศพันธมิตร และเป็นหนึ่งในภารกิจทางการทูตที่สำคัญของรัฐบาล
ต่อกรณีที่สื่อซักถามถึงประเด็นการเดินทางแวะพักเปลี่ยนเครื่อง นั้น รมช.อวี๋ฯ ตอบว่า ตามธรรมเนียมปฏิบัติแล้ว ในการเดินทางเยือนกลุ่มประเทศในภูมิภาคอเมริกาใต้และอเมริกากลาง - ใต้ มักจะทำการแวะพักเปลี่ยนเครื่องที่สหรัฐฯ โดยในครั้งนี้ ก็จะมีการปฏิบัติเช่นเดิม โดยจะยึดหลักการด้านความสะดวกสบาย ความมั่นคงปลอดภัยและสมเกียรติ ในการวางแผนการเดินทางสำหรับคณะของรองปธน. ไล่ฯ ในครั้งนี้