New Southbound Policy Portal

กรมการพาณิชย์ กระทรวงเศรษฐการไต้หวัน นำคณะผู้ประกอบการแฟรนไชส์ของไต้หวัน เดินทางไปขยายตลาดในประเทศไทย

กระทรวงเศรษฐการ วันที่ 13 ก.ค. 66
 
กรมการพาณิชย์ กระทรวงเศรษฐการ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้จัดคณะผู้ประกอบการธุรกิจแฟรนไชส์ของไต้หวัน จำนวน 10 ราย เดินทางไปเข้าร่วมเปิด “คูหาแบรนด์แฟรนไชส์ของไต้หวัน” เพื่อจัดแสดงใน “งานแสดงสินค้าแฟรนไชส์นานาชาติและโอกาสทางธุรกิจ” (Thailand Franchise & Business Opportunity, TFBO) ในประเทศไทย ในช่วงระหว่างวันที่ 13 – 16 ก.ค. นี้ เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับแบรนด์แฟรนไชส์ของไต้หวันในเวทีนานาชาติ และเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการไต้หวันในการขยายตลาดไปยังประเทศไทย และแสวงหาโอกาสทางธุรกิจในระดับนานาชาติ
 
ตามข้อมูลทางเศรษฐศาสตร์ช่วงไตรมาสแรกในปี 2023 ที่ทางการไทยประกาศเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เนื่องด้วยวิถีชีวิตการอุปโภคบริโภคของภาคประชาชน ที่กลับสู่สภาวะเดิม และการฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ส่งผลให้ GDP ของไทยขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ร้อยละ 2.7 ซึ่งมีอัตราการขยายตัวสูงกว่าตัวเลขของไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้ว มีมีการขยายตัวร้อยละ 1.4 โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตลาดแฟรนไชส์ของไทยมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ทำให้ปัจจุบันนี้ มีแบรนด์นานาชาติอยู่ในตลาดประมาณ 160 แบรนด์ โดยีมีจำนวนหน้าร้านกว่า 14,000 แห่ง
 
กรมการพาณิชย์ชี้ว่า มีผู้ประกอบการไต้หวันสมัครเข้าร่วม “คูหาแบรนด์แฟรนไชส์ของไต้หวัน” ในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก หลังผ่านการคัดเลือกแล้ว ธุรกิจแฟรนไชส์ที่ได้รับเลือกให้เดินทางไปจัดแสดงในประเทศไทย ประกอบด้วย เครื่องดื่มบรรจุแก้วชื่อดัง เช่น  Chatime , CoCo , Don’t Yall at me , Mr. Wish , Presotea, ShareTea และ Truedan รวมถึงธุรกิจร้านอาหารท้องถิ่นของไต้หวัน เช่น Duan Chun Zhen และ Spicy Queen dry hotpot อีกทั้งยังมีธุรกิจดูแลเส้นผมและหนังศรีษะ เช่น HairING เป็นต้น เชื่อว่าสินค้าและการบริการที่เปี่ยมด้วยคุณภาพของไต้หวัน จะสามารถได้รับความไว้วางใจจากเหล่าผู้บริโภคชาวไทย และมีความโดดเด่นบนเวทีโลก
 
ทั้งนี้ เพื่อสร้างโอกาสให้เกิดการเจรจาระหว่างผู้ประกอบการธุรกิจแฟรนไชส์ไต้หวันและกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย กรมการพาณิชย์ ภายใต้กระทรวงเศรษฐการไต้หวัน จึงได้จัด “กิจกรรมจับคู่ทางธุรกิจ สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจแฟรนไชส์ไต้หวัน - ไทย ปี 2023” ณ ห้องประชุมในโรงแรมอวานี สุขุมวิท กรุงเทพ (Avani Sukhumvit Bangkok) ซึ่งสามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เข้าร่วมเป็นจำนวน 19 กลุ่ม โดยได้มีการเจรจาธุรกิจ รวม 45 รอบ นอกจากนี้ ยังได้มีการลงนามหนังสือแสดงเจตจำนง (LOI) ระหว่างกลุ่มผู้ประกอบการทั้งสองฝ่าย หลายคู่ ได้แก่ HairING กับบริษัท นีโอ โกลบอล คอมเมิร์ซ แอนด์ เซอร์วิซ จำกัด (NEO GLOBAL COMMERCE AND SERVICE CO., LTD.) Mr. Wish กับบริษัท มิกุชา (เคพี) จำกัด  (MIKUCHA (KP) CO., LTD.) ShareTea กับบริษัท ปณิชา คอน์ปอร์เรชั่น จำกัด (PANICHA CORPORATION CO., LTD.) และ Spicy Queen dry hotpot กับบริษัท เฟสทีฟไวน์ แอนด์ เบเวอร์เรช จำกัด (FESTIVE WINE & BEVERAGE CO., LTD.) เป็นต้น