New Southbound Policy Portal

ปธน.และรองปธน.สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ให้การต้อนรับ “คณะตัวแทนญี่ปุ่นที่นำโดย Mr. Taro Aso อดีตนายกรัฐมนตรีและรองหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตยของญี่ปุ่น”

ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 8 ส.ค. 66
 
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 8 ส.ค.ที่ผ่านมา นายไล่ชิงเต๋อ รองประธานาธิบดี สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้จัดงานเลี้ยงอาหารกลางวันเพื่อให้การต้อนรับคณะตัวแทนญี่ปุ่นที่นำโดย Mr. Taro Aso อดีตนายกรัฐมนตรีและรองหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตยของญี่ปุ่น โดยรองปธน.ไล่ฯ ได้แสดงความขอบคุณอดีตนรม. Aso ที่สนับสนุนและส่งมอบความห่วงใยต่อไต้หวัน และร่วมธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก อย่างกระตือรือร้นเสมอมา พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า ไต้หวัน - ญี่ปุ่น ยึดมั่นในค่านิยมเดียวกัน เป็นพันธมิตรทางความมั่นคงที่สามารถไว้วางใจซึ่งกันและกันได้ และเป็นหุ้นส่วนทางการค้าที่สำคัญระหว่างกัน โดยรองปธน.ไล่ฯ คาดหวังที่จะเห็นไต้หวัน – ญี่ปุ่น มุ่งมั่นสร้างผลประโยชน์ร่วมกันทั้งในด้านเสรีภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค รวมไปถึงการพัฒนาทางเศรษฐกิจ การค้าและระบบห่วงโซ่อุตสาหกรรม ร่วมกันสืบต่อไป
 
การเดินทางมาเยือนของ อดีตนรม. Aso ในครั้งนี้ ก็เพื่อเข้าร่วมการประชุม Ketagalan-ความมั่นคงในภูมิภาคอินโด - แปซิฟิก ประจำปี 2023 พร้อมทั้งร่วมแสดงปาฐกถาในการประชุมเสวนาระหว่างกลุ่มประเทศในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก ซึ่งนอกจากจะมีความสอดคล้องต่อความต้องการของภูมิภาคแล้ว ยังได้ชี้แนะทิศทางความร่วมมือในอนาคต ระหว่างไต้หวัน - ญี่ปุ่น อีกด้วย
 
อดีตนรม. Aso ยังเน้นย้ำว่า ไม่มีช่วงเวลาใดที่เร่งด่วนไปกว่าจังหวะเวลานี้ ที่กลุ่มประเทศประชาธิปไตยอย่างสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นและไต้หวัน จะต้องประสานสามัคคีในการสำแดงศักยภาพ เพื่อร่วมปกป้องสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันและความมั่นคงของไต้หวัน สำแดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก และการส่งมอบความห่วงใยให้แก่ไต้หวันด้วยความจริงใจ
 
รองปธน.ไล่ฯ ระบุว่า ท่ามกลางสถานการณ์โรคโควิด – 19 อดีตนรม. Aso ได้กระตุ้นให้รัฐบาลญี่ปุ่นเร่งบริจาควัคซีนป้องกันโรคระบาดให้แก่ไต้หวันเป็นจำนวน 4.2 ล้านโดส เพื่อช่วยให้ไต้หวันก้าวผ่านวิกฤตดังกล่าว นอกจากนี้ อดีตนรม. Aso ยังได้ให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมองค์การอนามัยโลก (WHO) อย่างเปิดเผย เพื่อคุ้มครองสุขภาพของประชาชนชาวไต้หวัน อีกทั้งยังให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมเป็นสมาชิก “ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก” (Comprehensive and Progressive Agreement of Trans-Pacific Partnership, CPTPP) ตลอดจนให้ยกย่องไต้หวันอย่างเปิดเผยว่า “ไต้หวันเป็นประเทศประชาธิปไตยที่มีการพัฒนาอย่างรุดหน้า” อีกทั้งในแง่เศรษฐกิจ ไต้หวันยังเป็นประเทศที่ยึดมั่นในระบบเศรษฐกิจแบบเสรีอีกด้วย
 
อดีตนรม. Aso แถลงว่า เนื่องจากช่องแคบไต้หวันได้รับผลกระทบจากการแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการจากจีน ส่งผลให้สถานการณ์ในช่องแคบไต้หวันทวีความตึงเครียดขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์เช่นนี้ การปกป้องสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน จึงนับว่าเป็นเรื่องที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ ไม่ว่าจะในวาระการดำรงตำแหน่งของอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะแห่งญี่ปุ่น หรือนายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนปัจจุบัน รัฐบาลญี่ปุ่นต่างก็ให้ความสำคัญต่อสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก
 
อดีตนรม. Aso ยังได้อ้างอิงเรื่องราวของการ์ตูนญี่ปุ่นที่ชื่อว่า “One Piece” ที่มังกี้ ดี. ลูฟี่ (Monkey D. Luffy) ตัวเอกของเรื่องได้พบปะและทำความรู้จักกับหุ้นส่วนและมิตรสหายมากมาย ในระหว่างการเดินทางผจญภัย โดยความสัมพันธ์ระหว่างผองเพื่อนเป็นไปอย่างแน่นแฟ้น อดีตนรม. Aso คาดหวังว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน - ญี่ปุ่น จะสามารถดำเนินไปในทิศทางเฉกเช่นเดียวกับการ์ตูนเรื่องนี้
 
ในช่วงบ่ายของวันเดียวกันนี้ ประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ก็ได้ให้การต้อนรับ “คณะตัวแทนของ Mr. Taro Aso อดีตนายกรัฐมนตรีและรองหัวหน้าพรรคเสรีประชาธิปไตยของญี่ปุ่น” โดยปธน.ไช่ฯ เน้นย้ำว่า ญี่ปุ่นเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญของไต้หวัน ที่มุ่งให้การสนับสนุนไต้หวันเข้าร่วมองค์การระหว่างประเทศในทุกรูปแบบ พร้อมนี้ ปธน.ไช่ฯ ยังได้แสดงความขอบคุณต่ออดีตนรม. Aso ที่ให้การยอมรับต่อผลสัมฤทธิ์ด้านการป้องกันโรคระบาดของไต้หวัน พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า “องค์การอนามัยโลก” (WHO) ไม่ควรกีดกันไต้หวันให้อยู่นอกระบบสาธารณสุขโลก พวกเราคาดหวังที่จะเห็นไต้หวัน – ญี่ปุ่น เร่งประสานความร่วมมือ ทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อร่วมสรรค์สร้างระบบห่วงโซ่อุปทานที่แข็งแกร่งและมั่นคง ตลอดจนคาดหวังว่าญี่ปุ่นจะให้การสนับสนุน ไต้หวันเข้าร่วมเป็นสมาชิกในกรอบ CPTPP เพื่อที่ไต้หวันจะสามารถอุทิศคุณประโยชน์ด้านความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจให้เกิดขึ้นในภูมิภาค
 
หลายปีมานี้ ไต้หวัน – ญี่ปุ่น นอกจากจะเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันในการเผชิญกับความท้าทายที่เกิดจากสถานการณ์โรคระบาดแล้ว ภายใต้ความมุ่งมั่นพยายามของหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ความสัมพันธ์แบบหุ้นส่วนในด้านต่างๆ ก็ยังได้รับการเสริมสร้างในเชิงลึก อย่างในปีที่แล้วที่มูลค่าการค้าแบบทวิภาคีระหว่างไต้หวัน - ญี่ปุ่น แตะระดับ 88,200 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นสถิติใหม่ที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากที่สถานการณ์โรคโควิด – 19 ทุเลาลง เจ้าหน้าที่ภาครัฐและภาคประชาชนของทั้งสองประเทศ ต่างเดินทางไปมาหาสู่กันอย่างคึกคัก ณ เดือนพฤษภาคมปีนี้ ทะลุ 1.67 ล้านคนครั้ง  เชื่อว่าจะในอนาคตอันใกล้นี้ จะทำสถิติใหม่อีกครั้ง
 
อดีตนรม. Aso รู้สึกยินดีที่มีโอกาสเข้าร่วมการประชุมด้านการทูตที่ไต้หวันจัดขึ้นในครั้งนี้ พร้อมกล่าวว่า มิตรสหายจะยื่นมือให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในยามยากลำบาก และร่วมแบ่งปันเมื่อยามสุข นับเป็นอีกครั้งที่อดีตนรม. Aso เดินทางเยือนไต้หวันในรอบ 12 ปี โดยอดีตนรม. Aso คาดหวังที่จะสวมบทบาทที่มุ่งผลักดันความเชื่อมั่นระหว่างไต้หวัน - ญี่ปุ่น ให้เป็นไปในทิศทางเชิงลึกอย่างยั่งยืนสืบต่อไป