New Southbound Policy Portal
พิพิธภัณฑ์สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ วันที่ 2 ต.ค. 66
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา “มูลนิธิเพื่อการศึกษาเผด็จการคอมมิวนิสต์ในเยอรมนีตะวันออก” (Bundesstiftung zur Aufarbeitung der SED- Diktatur) ได้มุ่งมั่นผลักดันการเปลี่ยนผ่านสู่ความยุติธรรมเสมอมา โดยในช่วงที่ผ่านมา ได้มีการรวบรวมเจ้าหน้าที่หน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้อง เข้าสู่การเป็นส่วนหนึ่งของคณะตัวแทนมูลนิธิการเปลี่ยนผ่านสู่ความยุติธรรมเดินทางเยือนไต้หวัน พร้อมทั้งเข้าเยี่ยมชมอุทยานรำลึกเหตุการณ์ความน่าสะพรึงสีขาวในเขตจิ๋งเหม่ย (Jing-Mei White Terror Memorial Park) ที่ตั้งอยู่ในพิพิธภัณฑ์สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (NHRM) โดยพิพิธภัณฑ์ฯ ได้เชิญนายเหยาเจียเหวิน ที่ปรึกษาทำเนียบประธานาธิบดี นายเฉินชินเซิงและนายลวี่อวี้ นักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชน มาเป็นผู้บรรยายเพื่อให้ข้อมูลทางประวัติศาสตร์ที่ประสบด้วยตนเองในฐานะที่อยู่ในเหตุการณ์ รวมไปถึงความมุ่งมั่นพยายามที่ส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่ความยุติธรรมในช่วงระยะที่ผ่านมา
นายหงซื่อฟาง ผู้อำนวยการ NHRM กล่าวว่า นับตั้งแต่ที่ NHRM ก่อตั้งขึ้นเป็นต้นมา นอกจากจะส่งเสริมให้ประชาชนทุกแวดวงประสานความร่วมมือและแลกเปลี่ยนกับองค์การระหว่างประเทศอย่างสภาการพิพิธภัณฑ์ระหว่างชาติ (ICOM) สหพันธ์พิพิธภัณฑ์สิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ (FIHRM) และสหพันธ์นักโทษทางความคิดนานาชาติ (ICSC) ผ่านการวิจัยของสะสมโบราณ การศึกษาเชิงนิทรรศการ และการเชื่อมโยงกับทรัพยากรในหน่วยงานภายนอก เป็นต้น ในปี 2019 ไต้หวันและกระทรวงเพื่อความมั่นคงของรัฐหรือชตาซีของเยอรมนี ได้ร่วมลงนามหนังสือแสดงเจตจำนงทางความร่วมมือระหว่างกัน โดยในปีเดียวกันนี้ NHRM ได้เชิญผู้เชี่ยวชาญชาวเยอรมนี ร่วมจัด “การประชุมเชิงปฏิบัติการทางการศึกษาด้านสิทธิมนุษยชน ระหว่างไต้หวัน - เยอรมนี” เพื่อแบ่งปันประสบการณ์เกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม และเพื่อระดมความคิดเห็นต่อประเด็นการเปลี่ยนผ่านสู่ความยุติธรรมและการศึกษาด้านสิทธิมนุษยชน ผอ.หงฯ เชื่อว่า ผลสัมฤทธิ์ด้านการเปลี่ยนผ่านสู่ความยุติธรรมของเยอรมนี เป็นสิ่งที่ไต้หวันควรจะเรียนรู้ โดยในอนาคต NHRM จะทำการแลกเปลี่ยนและประสานความร่วมมือกับหน่วยงานสิทธิมนุษยชนของเยอรมนีอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมอนุรักษ์ประวัติศาสตร์ความเจ็บปวดเมื่อครั้งอดีต พร้อมทั้งร่วมอภิปรายในประเด็นร่วมสมัยและสถานการณ์ความเป็นอยู่ของกลุ่มผู้ด้อยโอกาสในสังคม ตลอดจนผลักดันการพัฒนาด้านสิทธิมนุษชนในไต้หวันและระดับนานาชาติ ให้ได้รับการพัฒนามากขึ้นต่อไป