New Southbound Policy Portal

สำนักเลขาธิการเอเปคขอบคุณไต้หวัน สำหรับการร่วมบริจาคเงินสนับสนุนให้เอเปคอย่างต่อเนื่อง

กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 13 ต.ค. 66
 
เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ที่ผ่านมา สำนักเลขาธิการเอเปค (APEC) ได้ประกาศจดหมายข่าว โดยระบุว่า ในปีนี้ (2023) ไต้หวันได้บริจาคเงินจำนวน 1.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ให้แก่เอเปค ซึ่งมีส่วนช่วยในการส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี ผ่านการยื่นแผนข้อเสนอหรือแผนผลักดันของเหล่าประเทศสมาชิก โดย Dr. Rebecca Sta Maria ประธานคณะกรรมการบริหารของสำนักเลขาธิการเอเปค ได้แสดงความขอบคุณต่อไต้หวันด้วยใจจริง พร้อมทั้งแสดงทรรศนะว่า แผนข้อเสนอที่เกี่ยวข้องกับการเสริมสร้างขีดความสามารถที่ได้รับการสนับสนุนโดยไต้หวัน จะสามารถแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการบรรลุคำมั่นของเอเปคในด้านการตอบสนองต่อปัญหาเร่งด่วนระดับภูมิภาค ส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน ตลอดจนส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
 
บันทึกรายชื่อการบริจาคเงินสนับสนุนเอเปคประจำปีนี้ ได้ทยอยลงนามโดยเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสของไต้หวันที่ดูแลกิจการที่เกี่ยวข้องกับเอเปค นายซุนเจี่ยนหยวน อธิบดีกรมองค์การระหว่างประเทศ ภายใต้สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ และ Dr. Rebecca ประธานคณะกรรมการบริหารของสำนักเลขาธิการเอเปค โดยเงินบริจาคของไต้หวันจะถูกนำไปใช้ในกองทุนโครงการทั่วไปของเอเปค กองทุนย่อยด้านนวัตกรรมดิจิทัล กองทุนย่อยด้านสตรีและเศรษฐกิจ การปฏิรูปโครงสร้างและกองทุนย่อยด้านการเติบโตของพลังงานสีเขียวอย่างยั่งยืน และหน่วยสนับสนุนด้านนโยบายของเอเปค (Policy Support Unit, PSU) โดยกลุ่มประเทศสมาชิกสามารถยื่นเสนอแผนผลักดันที่เกี่ยวข้อง เพื่อขออนุมัติการนำเงินอุดหนุนจำนวนนี้ไปใช้งาน ตลอดจนเป็นการช่วยยกระดับศักยภาพทางการวิจัยของเอเปคอีกด้วย
 
หลังจากนี้ หน่วยงานรัฐบาลไต้หวันจะยื่นเสนอแผนผลักดันให้เอเปคอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการทำงานด้วยความเป็นมืออาชีพ ซึ่งได้รับการยอมรับจากสำนักเลขาธิการและเหล่าประเทศสมาชิกเอเปค โดยในปีนี้ โครงการของไต้หวันได้รับเงินอุดหนุนรวม 14 รายการ คิดมูลค่ารวม 1,148,730 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
 
เอเปคเป็นองค์การระหว่างประเทศระดับรัฐบาลในภูมิภาคที่สำคัญ ในปัจจุบัน หน่วยงานรัฐบาลไต้หวันรวม 46 หน่วยงานและองค์การต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ต่างเข้ามีส่วนร่วมในการประชุมและร่วมกิจกรรมอย่างกระตือรือร้น ซึ่งนอกจากจะบังเกิดผลสัมฤทธิ์ในการการยกระดับสถานภาพระหว่างประเทศของไต้หวันแล้ว ยังมีส่วนช่วยในการติดตามแนวโน้มของความเคลื่อนไหวระหว่างประเทศในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ เพื่อใช้เป็นหลักอ้างอิงที่สำคัญด้านการกำหนดนโยบายและแนวทางการบังคับใช้นโยบายให้แก่รัฐบาลไต้หวัน โดยในอนาคต ไต้หวันจะประยุกต์ใช้แพลตฟอร์มเอเปคในการส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์และการแลกเปลี่ยนระหว่างกลุ่มประเทศสมาชิก ตลอดจนร่วมอุทิศคุณประโยชน์ด้านการพัฒนาและความร่วมมือในระดับภูมิภาคอย่างเป็นรูปธรรมสืบไป