New Southbound Policy Portal

รมว.กต.ไต้หวันย้ำกับสื่อเยอรมนีว่า จีนเป็นความท้าทายขั้นสูงสุดของประชาคมโลก โดยสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน มีความสำคัญต่อความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองระดับโลก

กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 20 ต.ค. 66
 
เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ที่ผ่านมา นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้สัมภาษณ์แก่ Mr. Kai Strittmatter ผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ Süddeutsche Zeitung ของเยอรมนี โดยเนื้อหาบทสัมภาษณ์ได้รับการเผยแพร่ผ่านหน้าหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ ภายใต้หัวข้อ “ข้อคิดที่ไต้หวันได้รับจากยูเครน” (Taiwan:"Wir haben das Beispiel der Ukraine studiert") เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ที่ผ่านมา  ซึ่งได้รับความสนใจในวงกว้างจากทุกแวดวงในเยอรมนีและกลุ่มประเทศยุโรป
 
รมว. อู๋ฯ กล่าวว่า หมู่ปัญญาชนของทุกประเทศ ต่างได้รับบทเรียนจากสงครามรัสเซีย – ยูเครน ซึ่งนานาประเทศทั่วโลกต่างประจักษ์เห็นถึงความทะเยอทะยานของประเทศเผด็จการและตระหนักเห็นว่า สงครามเป็นสิ่งที่อาจปะทุขึ้นได้จริงในทุกเวลา ก่อนหน้านี้ รัสเซียเคยรุกรานจอร์เจียและคาบสมุทรไครเมีย ซึ่งขณะนั้น ประชาคมโลกต่างมิได้ร่วมสกัดกั้น จึงทำให้มอสโกยิ่งได้ใจจนเข้ารุกรานยูเครน หากประชาคมโลกปล่อยให้ประเทศเผด็จการเหล่านี้กระทำการใดๆ ตามอำเภอใจโดยไม่ลุกขึ้นทัดทาน เชื่อว่าวันหนึ่งกลุ่มประเทศในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิก ก็จะต้องประสบชะตากรรมเช่นเดียวกับยุโรปอย่างแน่นอน
 
รมว.อู๋ฯ แถลงว่า นอกจากประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ผู้นำสาธารณรัฐประชาชนจีนจะควบคุมสถานการณ์ภายในประเทศอย่างเข้มงวด และสร้างแนงกดดันต่อชาวอุยกูร์ในเขตพื้นที่ซินเจียงแล้ว ยังอาศัยข้ออ้างด้านความมั่นคงของประเทศชาติ มาทำการลิดรอนเสรีภาพของประชาชนชาวฮ่องกง อีกทั้งยังส่งเรือรบและเครื่องบินรบรุกล้ำเข้าสู่เขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศ (ADIZ) ของไต้หวันอยู่บ่อยครั้ง หรือแม้กระทั่งข้ามเส้นแบ่งเขตกึ่งกลางช่องแคบไต้หวัน ตลอดจนทำการฝึกซ้อมรบในพื้นที่รอบน่านน้ำไต้หวันด้วยกำลังอาวุธและกระสุนจริง อีกทั้งจีนยังแผ่ขยายอิทธิพลไปสู่พื้นที่ทะเลจีนตะวันออก ทะเลจีนใต้ หรือแม้กระทั่งมหาสมุทรอินเดียและมหาสมุทรแปซิฟิก นับวัน จีนและรัสเซีย ซึ่งเป็นประเทศเผด็จการยิ่งผนึกรวมกำลังกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้น ซึ่งสร้างความวิตกกังวลให้นานาประเทศเป็นอย่างมาก
 
รมว.อู๋ฯ วิเคราะห์ว่า ภัยคุกคามที่เกิดจากรัสเซีย มองเห็นได้อย่างเด่นชัด แต่จีนอาจจะเป็นความท้าทายรุนแรงที่ประชาคมโลกต้องเผชิญหน้า จีนมีเจตจำนงและความสามารถที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลงความสงบเรียบร้อยที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานกฎกติกาสากล นอกจากนี้ อิทธิพลอำนาจที่จีนแผ่ขยายไปสู่ภูมิภาคแอฟริกา นับวันยิ่งแผ่ขยายเป็นวงกว้างมากยิ่งขึ้น จึงเป็นข้อได้เปรียบในระหว่างการลงคะแนนเสียงในองค์การระหว่างประเทศ
 
รมว.อู๋ฯ กล่าวว่า จีนกระทำการข่มขู่ไต้หวันด้วยกำลังทหาร สร้างแรงกดดันทางการเมืองและเศรษฐกิจ รวมไปถึงการก่อสงครามจิตวิทยา ทั้งนี้ เพื่อต้องการทำลายประชาธิปไตยของไต้หวัน สร้างความไม่สงบในสังคม รวมไปถึงทำให้เกิดการต่อต้านรัฐบาล โดยภัยคุกคามที่จีนกระทำต่อไต้หวัน นับวันยิ่งเด่นชัดและเป็นรูปธรรมกว่าที่ผ่านมา
 
รมว.อู๋ฯ เน้นย้ำว่า การปกป้องไต้หวันเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของพวกเรา ซึ่งขณะนี้รัฐบาลไต้หวันกำลังมุ่งผลักดันการปฏิรูปทางกลาโหม เสริมสร้างกลไกการป้องกันประเทศชาติโดยภาคประชาชน และจัดเพิ่มงบประมาณทางกลาโหม พร้อมทั้งจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จากสหรัฐฯ เพื่อบรรลุแนวคิดการป้องกันประเทศด้วยการพึ่งพาตนเองอย่างเป็นรูปธรรม
 
รมว.อู๋ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ไต้หวันเป็นดินแดนที่ถูกโจมตีด้วยข่าวปลอมเป็นจำนวนบ่อยครั้งมากที่สุด ส่งผลให้รัฐบาลไต้หวันเปี่ยมด้วยประสบการณ์ในการรับมือกับวิธีการเช่นนี้ ประกอบกับไต้หวันมีหน่วยงานเอกชนที่ประสานความร่วมมือกับองค์การภาครัฐในการสกัดกั้นข่าวปลอมอย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยเหตุนี้ กลุ่มประเทศในทวีปยุโรปที่ถูกรัสเซียโจมตีด้วยวิธีการแพร่กระจายข่าวปลอม ต่างทยอยขอความช่วยเหลือจากไต้หวัน ซึ่งไต้หวันได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญไปร่วมแบ่งปันประสบการณ์และส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนและสร้างความร่วมมือระหว่างกันต่อไป