New Southbound Policy Portal
กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 13 ธ.ค. 66
เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.2566 รัฐสภายุโรปได้ผ่านญัตติ 3 ฉบับ ประกอบด้วย รายงานเรื่อง“ความสัมพันธ์ระหว่างยุโรป - จีน” “ความสัมพันธ์ระหว่างยุโรป - สหรัฐฯ” และ “ความสัมพันธ์ระหว่างยุโรป - ญี่ปุ่น” โดยเนื้อความของรายงานดังกล่าวล้วนเรียกร้องให้ประชาคมโลกร่วมธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน ควบคู่ไปกับการแสดงจุดยืนต่อต้านการเปลี่ยนแปลงสถานภาพเดิมของช่องแคบไต้หวันด้วยกำลังทหาร ตลอดจนให้การสนับสนุนไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมอย่างมีความหมายในองค์การระหว่างประเทศ อาทิ องค์การอนามัยโลก (WHO)
เนื้อความของรายงานเรื่อง “ความสัมพันธ์ระหว่างยุโรป - จีน” ระบุถึงการต่อต้านการบิดเบือนข้อเท็จจริงในญัตติที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ฉบับที่ 2758 และการลิดรอนสิทธิในการเข้าร่วมการประชุมหรือเข้าร่วมกิจกรรมภายใต้ระบบสหประชาชาติของประชาชนชาวไต้หวัน ที่ถือหนังสือเดินทางสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) นับเป็นครั้งแรกที่มีการแสดงจุดยืนต่อต้านอย่างหนักแน่น ซึ่งเปี่ยมด้วยนัยยะที่สำคัญยิ่ง ในส่วนของรายงานเรื่อง “ความสัมพันธ์ระหว่างยุโรป - สหรัฐฯ” ได้มีเนื้อความที่เน้นย้ำให้เห็นว่า สหภาพยุโรป (EU) และสหรัฐฯ รวมถึงประเทศหุ้นส่วนในภูมิภาคที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันอย่างเช่นไต้หวัน ควรมุ่งเสริมสร้างความร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในด้านเศรษฐกิจและความมั่นคง เพื่อร่วมรับมือกับผลกระทบและความท้าทายในรูปแบบต่างๆ ตลอดจนร่วมรักษาเสรีภาพในการเดินเรือในช่องแคบไต้หวัน ทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการปกป้องการค้า ความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองในระดับภูมิภาคและระดับโลก
รายงาน 3 ฉบับข้างต้น แสดงให้เห็นถึงพลังสนับสนุนอันแกร่งกล้าที่รัฐสภายุโรปมีต่อภูมิภาคอินโด - แปซิฟิก สันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน รวมไปถึงประชาธิปไตยของไต้หวัน โดยเฉพาะการสร้างแรงกดดันที่จีนกระทำต่อไต้หวันอย่างต่อเนื่อง หรือแม้กระทั่งความต้องการในการเข้าแทรกแซงการเลือกตั้งในไต้หวัน โดยรัฐสภายุโรป ได้แสดงความกังวลต่อภัยคุกคามที่จีนกระทำต่อไต้หวันด้วยกำลังทหาร รวมไปถึงพฤติกรรมการแผ่ขยายอิทธิพลของจีนในระดับภูมิภาคและระดับโลก ขณะเดียวกัน ก็ยังได้มีการเน้นย้ำว่า ไต้หวันเป็นหุ้นส่วนด้านเทคโนโลยี เศรษฐกิจและการค้าของ EU ที่เชื่อถือได้และไม่สามารถขาดได้ จึงได้ส่งเสริมให้ EU เร่งสานความสัมพันธ์กับไต้หวันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีนัยยะสำคัญต่อรัฐบาลและภาคประชาชนชาวไต้หวันเป็นอย่างมาก กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) รู้สึกยินดีและขอขอบคุณด้วยใจจริง