New Southbound Policy Portal
กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 6 ก.พ. 67
หลังจากที่กระทรวงการต่างประเทศจีน อาศัยโอกาสที่ Mr. Calos Martinez รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของกัวเตมาลา ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ด้านการค้าและเศรษฐกิจระหว่างกัวเตมาลา-จีน โดยเรียกร้องให้กัวเตมาลาตัดสินใจอย่างถูกต้องโดยยึดนโยบายจีนเดียว ทำให้กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ออกแถลงการณ์ปฏิเสธคำพูดดังกล่าว พร้อมทั้งหยิบยกจุดยืนอันหนักแน่นของ H.E. Bernardo Arévalo ประธานาธิบดีกัวเตมาลาที่ได้กล่าวย้ำอย่างเปิดเผย ทั้งก่อนการเลือกตั้งหรือหลังจากชนะการเลือกตั้งว่า ต้องการสนับสนุนให้คงความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัวเตมาลา กับสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ต่อไป โดยในช่วงวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา นายอู๋เจาเซี่ย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างปรเทศ ไต้หวัน ได้นำคณะผู้แทนเดินทางไปร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีคนใหม่ของกัวเตมาลา ปธน. Arévalo ได้กล่าวย้ำกับ รมว.อู๋ฯ ด้วยตนเองว่า จะรักษาความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันต่อไป และยินดีจะเพิ่มความร่วมมือในด้านต่างๆ กับไต้หวัน เพื่อให้มิตรภาพอันดีระหว่างไต้หวันและกัวเตมาลามีความแข็งแกร่งมากขึ้น
กต.ไต้หวันย้ำว่า สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เป็นประเทศเอกราชที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งและไม่มีความเกี่ยวพันกับสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยสาธารณรัฐประชาชนจีนไม่เคยปกครองไต้หวัน นี่คือสภาพการณ์ในปัจจุบันและเป็นข้อเท็จจริงที่ทั่วโลกต่างก็รับรู้โดยทั่วกัน ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไต้หวันกับประเทศพันธมิตร ต่างก็ตั้งอยู่บนอธิปไตยที่มีความเท่าเทียมกันและสร้างประโยชน์ร่วมกัน ประเทศอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องจึงไม่มีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องใดๆ
จีนไม่เคยหยุดที่จะคุกคามและบีบลดพื้นที่บนเวทีนานาชาติของไต้หวัน และพยายามที่จะลดสถานะอธิปไตยของไต้หวันลง อีกทั้งยังมีเจตนาแอบแฝงที่จะทำลายความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวันกับประเทศพันธมิตร และใช้วิธีการต่างๆมาทำให้กลุ่มประเทศประชาธิปไตยแตกความสามัคคี กต.ไต้หวันจึงขอประณามพฤติกรรมเช่นนี้อย่างรุนแรง
กต.ไต้หวัน ขอเรียกร้องให้รัฐบาลจีน หันไปให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจและปากท้องของประชาชน ว่ามีความผิดปกติใดๆ หรือไม่ พร้อมทั้งลดพฤติกรรมก่อกวนและสร้างปัญหาแก่สังคมโลก