New Southbound Policy Portal
ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 22 พ.ค. 67
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 22 พฤษภาคม 2567 ประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้การต้อนรับคณะตัวแทนที่นำโดย H.E. Hilda C. Heine ประธานาธิบดีของสาธารณรัฐหมู่เกาะมาร์แชลล์ โดยปธน.ไล่ฯ ได้ให้การต้อนรับปธน. Heine สำหรับการนำคณะตัวแทนเดินทางมาเข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดี สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เพื่อเป็นการเปิดบริบทใหม่ของสัมพันธไมตรีระหว่างสองประเทศ และเป็นการแสดงให้เห็นถึงการประสานความร่วมมือในการเสริมสร้างค่านิยมด้านประชาธิปไตยและเสรีภาพในเชิงลึก โดยในอนาคต ปธน.ไล่ฯ จะนำคณะรัฐบาลชุดใหม่ ส่งเสริมประชาธิปไตย สันติภาพและการพัฒนาความเจริญรุ่งเรือง โดยหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะประสานความร่วมมือกับปธน. Heine ในการเสริมสร้างโครงการแลกเปลี่ยนด้านต่างๆ ในเชิงลึก เพื่อร่วมสร้างสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคให้คงอยู่ต่อไป
โดยในช่วงเวลาไล่เลี่ยกันนี้ ปธน.ไล่ฯ ยังได้ให้การต้อนรับคณะตัวแทนที่นำโดย Mr. Geoffrey Hanley รองนายกรัฐมนตรีเซนต์คิดส์และเนวิส โดยปธน.ไล่ฯ ได้แสดงความขอบคุณต่อรองนรม. Hanley ที่นำคณะเดินทางเยือนไต้หวัน เพื่อแสดงให้เห็นถึงมิตรภาพอันล้ำค่าระหว่างสองประเทศอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมกล่าวว่า หลายปีที่ผ่านมานี้ ทั้งสองประเทศได้มุ่งเสริมสร้างความร่วมมือในเชิงลึก ทั้งด้านการศึกษา การแพทย์ การพัฒนาเยาวชนและการส่งเสริมสิทธิสตรี เป็นต้น แสดงให้เห็นถึงผลสัมฤทธิ์นานาประการ โดยหวังเป็นอย่างยิ่งที่ทั้งสองฝ่ายจะมุ่งเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนกันในประเด็นพลังงานหมุนเวียนและแนวทางการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ เป็นต้น เพื่อร่วมบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้กรอบของสหประชาชาติ
ในช่วงเช้าของวันเดียวกันนี้ ปธน.ไล่ฯ ได้ให้การต้อนรับ Ms. Dalia Grybauskaitė อดีตประธานาธิบดีสาธารณรัฐลิทัวเนีย พร้อมกล่าวว่า ในอนาคต ปธน.ไล่ฯ จะมุ่งธำรงรักษาประชาธิปไตยและเสรีภาพของไต้หวันอย่างต่อเนื่อง เพื่อคงไว้ซึ่งสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค และหวังที่จะเสริมสร้างความร่วมมือและมิตรภาพในเชิงลึก ระหว่างไต้หวัน – ลิทัวเนีย เพื่อสร้างคุณประโยชน์ที่เพิ่มพูนมากยิ่งขึ้นให้แก่ภาคประชาชนของสองประเทศ ตลอดจนเพื่ออุทิศคุณประโยชน์ให้แก่ประชาคมโลกอย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ในช่วงเช้าของวันเดียวกันนี้ ปธน.ไล่ฯ ยังได้ให้การต้อนรับคณะตัวแทนสาธารณรัฐโซมาลีแลนด์ พร้อมกล่าวว่า ไต้หวัน – โซมาลีแลนด์ ต่างยึดมั่นในค่านิยมด้านเสรีภาพ ประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนร่วมกัน ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ความร่วมมือทางด้านการศึกษา การเกษตร พลังงาน สาธารณสุขและเทคโนโลยีสารสนเทศ ต่างบรรลุผลสัมฤทธิ์ที่เด่นชัด ในอนาคต ไต้หวัน – โซมาลีแลนด์ และกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันจะขยายขอบเขตความร่วมมือ เพื่อกระตุ้นการพัฒนาระหว่างกันที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น เชื่อว่ามีเพียงการยึดมั่นในแนวคิดที่เอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน จึงจะสามารถเสริมสร้างมิตรภาพแบบทวิภาคีในเชิงลึก อันจะเป็นการเพิ่มพูนความผาสุกให้แก่ภาคประชาชน
เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 22 พฤษภาคม ปธน.ไล่ฯ ได้หารือกับ Mr. Feleti Teo นายกรัฐมนตรีตูวาลูและภริยา โดยปธน.ไล่ฯ ได้แสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลตูวาลูที่ให้การสนับสนุนไต้หวันเข้ามีส่วนร่วมในองค์การระหว่างประเทศ พร้อมทั้งระบุว่า ไต้หวันได้จัดตั้งกองทุนการเปลี่ยนผ่านด้านการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ควบคู่ไปกับการมุ่งผลักดันโครงการปรับสภาพพื้นที่เลียบชายฝั่ง ผ่านกลไกความร่วมมือแบบทวิภาคีและแบบพหุภาคี เพื่อร่วมเผชิญกับความท้าทายด้านการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศร่วมกับตูวาลู โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในอนาคต ทั้งสองฝ่ายจะมุ่งเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือนานาประการในเชิงลึกอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมปกป้องค่านิยมด้านประชาธิปไตยและเสรีภาพ ให้คงอยู่ต่อไป
ในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้ ปธน.ไล่ฯ ได้ร่วมหารือกับ Hon. Philip J. Pierre นายกรัฐมนตรีเซนต์ลูเซีย พร้อมทั้งกล่าวว่า เศรษฐกิจของกลุ่มเยาวชนเป็นหนึ่งในนโยบายที่นรม. Pierre ให้ความสำคัญ ซึ่งมีความสอดคล้องกับนโยบาย “ส่งเสริมการลงทุนในช่วงวัย 0 – 22 ปี” ซึ่งนอกจากการแลกเปลี่ยนของกลุ่มเยาวชนแล้ว รัฐบาลชุดใหม่ยังคาดหวังที่จะประสานความร่วมมือกับเซนต์ลูเซียในด้านต่างๆ ต่อไปในอนาคต ซึ่งนอกจากจะเป็นการเพิ่มความหลากหลายด้านวิถีชีวิตให้แก่เยาวชนของสองประเทศแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นให้ทั้งสองฝ่ายเกิดความเข้าใจและรู้จักกันในเชิงลึก ตลอดจนเป็นการส่งเสริมผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย และกระตุ้นการพัฒนาความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน
โดยในช่วงเวลาเดียวกันนี้ ปธน.ไล่ฯ ได้ให้การต้อนรับ H.E. Roudy Stanley Penn เอกอัครราชทูตคนใหม่ของสาธารณรัฐเฮติ พร้อมทั้งกล่าวว่า หลายปีมานี้ ไต้หวัน – เฮติได้มุ่งเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางความร่วมมือในเชิงลึก ทั้งในด้านการเกษตร โครงสร้างพื้นฐาน สาธารณสุขและการศึกษา โดยหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นทั้งสองฝ่ายสร้างปฏิสัมพันธ์และเสริมสร้างความร่วมมือกันอย่างแนบแน่น เพื่อสร้างความผาสุกให้แก่ภาคประชาชนของสองประเทศ ในการก้าวสู่เส้นทางความเจริญรุ่งเรืองต่อไป
ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ ปธน.ไล่ฯ ยังได้ให้การต้อนรับคณะตัวแทนรัฐบาลสิงคโปร์ โดยกล่าวว่า ไต้หวันในฐานะหนึ่งในสมาชิกประชาคมโลกที่มีความรับผิดชอบ จะมุ่งธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคร่วมกับสิงคโปร์และกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันต่อไป เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ผลักดันความเจริญรุ่งเรืองในประชาคมโลก โดยในอนาคต รัฐบาลชุดใหม่จะมุ่งเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางความร่วมมือในเชิงลึกกับสิงคโปร์ต่อไป