New Southbound Policy Portal
กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 26 พ.ค. 67
เมื่อวันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมา ตามเวลาในเขตตะวันออกของสหรัฐฯ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐอเมริกา ได้แสดงปาฐกถาแสดงจุดยืนอย่างเปิดเผย เกี่ยวกับการปกป้องสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน นอกจากนี้ ในวันเดียวกันนั้น กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ก็ได้ออกมาประกาศแถลงการณ์ เพื่อแสดงความห่วงใยต่อกรณีที่กองทัพปลดปล่อยประชาชนของจีนได้ทำการซ้อมรบในพื้นที่ช่องแคบไต้หวันและพื้นที่รอบเขตแดนไต้หวัน ซึ่งรัฐบาลสหรัฐฯ ได้เฝ้าจับตาต่อพฤติกรรมคุกคามของจีนอย่างใกล้ชิด ควบคู่ไปกับการประสานความร่วมมือกับพันธมิตรที่ให้ความสนใจต่อประเด็นดังกล่าว โดยรัฐบาลสหรัฐฯ เรียกร้องให้รัฐบาลปักกิ่งยุติพฤติกรรมต่างๆ ที่เป็นการคุกคามต่อไต้หวัน พร้อมย้ำว่า รัฐบาลปักกิ่งได้หยิบยกการเปลี่ยนผ่านอำนาจทางการเมืองที่ไปตามธรรมเนียมปฏิบัติดั้งเดิมอย่างเป็นปกติ และยึดมั่นภายใต้หลักการประชาธิปไตย มาใช้เป็นข้ออ้างในการสร้างภัยคุกคามทางกลาโหม อันจะก่อเกิดเป็นความเสี่ยงที่ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น และเป็นการบ่อนทำลายสถานภาพเดิมของช่องแคบไต้หวันที่พวกเรามุ่งธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพไว้ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา เนื่องจากสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันเป็นปัจจัยที่สำคัญต่อความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคและระดับโลก และเป็นประเด็นที่ประชาคมโลกให้ความสำคัญร่วมกัน
รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ประสานความร่วมมือกับกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน พร้อมทั้งยึดมั่นในจุดยืนในการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองในระดับภูมิภาคและระดับโลก กระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ขอแสดงความขอบคุณที่สหรัฐฯ แสดงความห่วงใยต่อภัยคุกคามทางทหารจากจีน ซึ่งมักกระทำการยั่วยุและท้าทายในพื้นที่รอบน่านน้ำไต้หวัน รวมถึงการที่รัฐบาลสหรัฐฯ ยึดมั่นต่อคำมั่นในด้านความมั่นคงของไต้หวัน ท่ามกลางสถานการณ์ที่ประชาธิปไตยต้องเผชิญกับช่วงเวลาแห่งความท้าทาย กลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกันจึงผนึกกำลังในการเรียกร้องให้จีนยุติพฤติกรรมต่างๆ ที่เป็นการบ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน ซึ่งเป็นปัจจัยที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคอินโด – แปซิฟิกเป็นอย่างมาก
กต.ไต้หวันขอย้ำว่า การที่จีนนำเอากระบวนการปกติทางประชาธิปไตย เช่น การขึ้นรับตำแหน่ง มาเป็นข้ออ้างเพื่อสร้างความกดดันทางทหารและประกาศแถลงการณ์ต่างๆ ที่แสดงถึงการข่มขู่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อก้าวก่ายกระบวนการทางประชาธิปไตยของไต้หวันอย่างเปิดเผย เป็นสิ่งที่ประชาคมโลกไม่สามารถยอมรับได้ ในทางกลับกัน กลับเป็นการกระตุ้นให้นานาประเทศทั่วโลกแสดงความเป็นกังวลต่อจีน ซึ่งเป็นผู้สร้างความท้าทายและบ่อนทำลายสถานภาพเดิมในปัจจุบัน ตลอดจนเรียกร้องให้รัฐบาลปักกิ่ง เร่งเปิดการเจรจาแบบทวิภาคีบนพื้นฐานของความเท่าเทียมและสมศักดิ์ศรี เพื่อธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน ให้คงอยู่อย่างยั่งยืนต่อไป