New Southbound Policy Portal
ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 27 พ.ค. 67
ประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้การต้อนรับ Mr. Michael McCaul ประธานคณะกรรมาธิการการต่างประเทศแห่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ และคณะตัวแทนสมาชิกรัฐสภาแบบข้ามพรรค โดยปธน.ไล่ฯ กล่าวว่า ในอนาคต รัฐบาลชุดใหม่จะยึดมั่นใน “หลัก 4 ประการ” ควบคู่ไปกับการดำเนินการภารกิจตาม “แผนปฏิบัติการ 4 มิติ” เพื่อส่งเสริมความร่วมมือเชิงลึกกับสหรัฐฯ และกลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน ทั้งนี้ เพื่อร่วมธำรงรักษาสันติภาพ เสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคให้คงอยู่อย่างยั่งยืนต่อไป ปธน.ไล่ฯ หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นรัฐสภาสหรัฐฯ ให้ความช่วยเหลือไต้หวันในการเสริมสร้างแสนยานุภาพการป้องกันประเทศด้วยการพึ่งพาตนเอง ผ่านการบัญญัติข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ภายใต้การสนับสนุนของคณะตัวแทน อันจะเป็นการเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือในเชิงลึกระหว่างกัน พร้อมนี้ ปธน.ไล่ฯ ยังหวังที่จะเห็นทั้งสองฝ่ายร่วมแก้ไขปัญหาการเก็บภาษีซ้ำซ้อน เพื่อเป็นการส่งเสริมการลงทุนและความร่วมมือทางภาคอุตสาหกรรมแบบทวิภาคีต่อไป
ปธน.ไล่ฯ ชี้ว่า ในปีนี้เป็นรากฐานสำคัญแห่งการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ เนื่องด้วยในปีนี้เป็นวาระครบรอบ 45 ปีแห่งการบัญญัติ “กฎหมายความสัมพันธ์ไต้หวัน” ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานี้ Mr. McCaul และ Ms. Young Kim 2 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้จัดการประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับไต้หวันขึ้น เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ไต้หวัน ในขณะที่ Mr. Andy Barr สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ผู้ซึ่งเป็นประธานร่วม “กลุ่มพันธมิตรไต้หวันในรัฐสภาสหรัฐฯ” แห่งสภาผู้แทนราษฎร ได้ยื่นเสนอญัตติว่าด้วยวาระครบรอบ 45 ปีแห่งการบัญญัติ “กฎหมายความสัมพันธ์ไต้หวัน” โดยคณะตัวแทนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เข้าร่วมในครั้งนี้ ต่างก็ร่วมลงนามเพื่อให้การสนับสนุนด้วยเช่นกัน
ปธน.ไล่ฯ กล่าวว่า ตนรู้สึกยกย่องแนวคิด “ศักยภาพนำมาซึ่งสันติภาพ” (Peace Through Strength) ของประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน (Ronald Wilson Reaga) อดีตผู้นำสหรัฐฯ ด้วยเหตุนี้ ปธน.ไล่ฯ จึงจะมุ่งผลักดันการปฏิรูปทางกลาโหมในอนาคต ควบคู่ไปกับการยกระดับแสนยานุภาพทางกลาโหม เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของประชาชนชาวไต้หวันในการยืนหยัดเพื่อปกป้องประเทศชาติ
ปธน.ไล่ฯ ยังได้แสดงความขอบคุณต่อพลังสนับสนุนของรัฐสภาสหรัฐฯ ที่มีมติเห็นชอบต่อ “กฎหมายว่าด้วยการจัดสรรงบประมาณเพื่อความมั่นคงในภูมิภาคอินโด - แปซิฟิก” อันเป็นการนำเสนอให้เห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจในการธำรงปกป้องสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน นอกจากนี้ ปธน.ไล่ฯ ยังแสดงความขอบคุณต่อรัฐสภาสหรัฐฯ ที่มุ่งส่งเสริม “แผนริเริ่มทางการค้าไต้หวัน-สหรัฐฯ แห่งศตวรรษที่ 21” อย่างกระตือรือร้น ปธน.ไล่ฯ คาดหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเห็นทั้งสองฝ่ายเปิดการเจรจาในรอบต่อไป เพื่อให้บังเกิดผลสัมฤทธิ์ในเร็ววัน ตลอดจนหวังที่จะเห็นปัญหาการเก็บภาษีซ้ำซ้อนได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพื่อเป็นการกระตุ้นการค้าและความร่วมมือทางภาคอุตสาหกรรมแบบทวิภาคี
Mr. McCaul เริ่มต้นกล่าวปราศรัยด้วยภาษาจีนว่า “พวกเรารักไต้หวัน” พร้อมทั้งร่วมแสดงความยินดีกับ ปธน.ไล่ชิงเต๋อ ที่คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งผู้นำไต้หวันมาครองในครั้งนี้ โดยการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นบทพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ไต้หวันเป็นประเทศประชาธิปไตยที่มีการพัฒนารุดหน้าและเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก
Mr. McCaul กล่าวด้วยว่า เมื่อปีที่แล้ว ตนได้เดินทางเยือนไต้หวัน และมีโอกาสเข้าพบนายไล่ชิงเต๋อ ซึ่งขณะนั้น ดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานาธิบดีไต้หวัน จึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เห็นไต้หวันมีผู้นำที่เหมาะสมในช่วงเวลาที่เหมาะสมพอดี พร้อมทั้งให้การยอมรับว่า ประชาชนชาวไต้หวันมีผู้นำที่มีความกล้าหาญ เหล่าคณะตัวแทนต่างคาดหวังที่จะเห็นความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่ายก้าวสู่บริบทใหม่ต่อไป
Mr. McCaul ชี้ว่า พวกเราเป็นคณะตัวแทนรัฐบาลสหรัฐฯ กลุ่มแรกที่เดินทางมาเยือนไต้หวัน หลังเสร็จสิ้นพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของ ปธน.และรอง ปธน.สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) โดย Mr. McCaul ในฐานะตัวแทนของ Mr. Mike Johnson ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้แสดงจุดยืนว่าด้วยการสนับสนุนไต้หวันของรัฐสภาสหรัฐฯ แบบข้ามพรรค ซึ่งบรรดาคณะตัวแทนจะยืนเคียงข้างไต้หวันต่อไป เชื่อว่า มีเพียงการประสานสามัคคีร่วมกัน จึงจะสามารถเสริมสร้างความแข็งแกร่งของประเทศชาติได้
Mr. McCaul กล่าวอีกว่า ตนเห็นด้วยในหลักการ “อำนาจอธิปไตยอยู่ในมือประชาชน” ซึ่งเป็นข้อความที่ปรากฎในระหว่างการแสดงสุนทรพจน์ของปธน.ไล่ฯ โดยในปีนี้ ทั้งสองฝ่ายต่างร่วมเฉลิมฉลองเนื่องในวาระครบรอบ 45 ปีแห่งการบัญญัติ “กฎหมายความสัมพันธ์ไต้หวัน” โดยกฎหมายฉบับแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์เชิงหุ้นส่วนแบบทวิภาคี และคำมั่นว่าด้วยสันติภาพที่รัฐบาลสหรัฐฯ มีต่อช่องแคบไต้หวัน
Mr. McCaul ชี้ว่า “กฎหมายความสัมพันธ์ไต้หวัน” ประกอบด้วยหลักประกันสำคัญที่ให้ไว้แก่ไต้หวัน รวม 3 ประการ คือ ประการแรก การอนุมัติจำหน่ายอาวุธยุทโธปกรณ์เพื่อการป้องกันประเทศสำหรับไต้หวัน ประการที่สอง อนาคตของไต้หวันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจด้วยวิธีการที่เปี่ยมด้วยสันติภาพ และประการสุดท้าย สหรัฐฯ จำเป็นต้องธำรงรักษาศักยภาพการป้องกันประเทศเพื่อรับมือกับภัยคุกคามด้วยกำลังทหารและแรงกดดัน เพื่อสร้างหลักประกันทางความมั่นคงให้แก่ประชาชนชาวไต้หวัน นี่เป็นหลักการของเรา ที่จะรักษาและยึดมั่นเอาไว้อย่างต่อเนื่อง
Mr. McCaul ชี้อีกว่า ไต้หวันเป็นผู้ขับเคลื่อนนวัตกรรมของกลุ่มประเทศประชาธิปไตย เสรีภาพและประชาธิปไตยที่ประชาชนชาวไต้หวันได้รับ ผลักดันให้เกาะแห่งนี้ก้าวสู่การเป็นประเทศมหาอำนาจทางเทคโนโลยี Mr. McCaul รู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้ยื่นเสนอญัตติ “กฎหมายว่าด้วยแผ่นชิปวงจรรวม” เพื่อส่งเสริมให้ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจแบบทวิภาคีระหว่างทั้งสองฝ่ายที่มีความแข็งแกร่งและยืดหยุ่น ทวีความใกล้ชิดเพิ่มมากขึ้น การค้าระหว่างประเทศกว่าร้อยละ 60 ของโลก ต้องมีการขนส่งผ่านช่องแคบไต้หวัน ประกอบกับแผ่นชิปวงจรรวมระดับไฮเอนด์กว่ากว่าร้อยละ 90 ล้วนแต่ผลิตในไต้หวัน
Mr. McCaul เน้นย้ำว่า ในอนาคต ตนจะมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาการเก็บภาษีซ้ำซ้อน เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการสหรัฐฯ เข้าลงทุนเข้าสู่ไต้หวันเพิ่มมากขึ้น และกระตุ้นให้ผู้ประกอบการชาวไต้หวัน เข้าไปลงทุนในสหรัฐฯ เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน การที่ภาคประชาชนของทั้งสองฝ่ายประสานความร่วมมือกัน จะสามารถเสริมสร้างประสิทธิภาพของเทคโนโลยีเกิดใหม่ได้ อาทิ การพัฒนาทางเทคโนโลยี AI และควอนตัมคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะทำให้พวกเรามีการพัฒนาที่รุดหน้าและช่วยแก้ไขปัญหามากมายของสังคม
Mr. McCaul เห็นว่า ไต้หวันแสดงให้เห็นถึงความทรหดครั้งแล้วครั้งเล่า พร้อมทั้งมุ่งมั่นสกัดกั้นแรงกดดันจากอำนาจเผด็จการของจีน ไต้หวันในฐานะที่เป็นประภาคารทางประชาธิปไตยที่เปี่ยมด้วยความหวัง ได้ปลุกพลังความฮึกเหิมให้แก่ประชาคมโลก Mr. McCaul หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทั้งสองฝ่ายจะมีอนาคตที่ดีร่วมกัน ตลอดจนประสานสามัคคีในการธำรงรักษาสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค ให้คงอยู่ต่อไป