New Southbound Policy Portal
ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 25 มิ.ย. 67
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 25 มิถุนายน 2567 ประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้ให้การต้อนรับเจ้าหน้าที่ “คณะกรรมาธิการพิจารณาความมั่นคงและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ระหว่างสหรัฐฯ - จีน”(USCC) โดยปธน.ไล่ฯ ได้แสดงความขอบคุณต่อหน่วยงานสภาบริหารและสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ ที่เดินทางมาเยือนไต้หวัน เพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่พร้อมจะยืนหยัดเคียงข้างไต้หวัน โดยหวังว่าไต้หวันจะได้รับการสนับสนุนด้วยการสำแดงบทบาทที่สำคัญของ USCC ทั้งนี้ เพื่อช่วยผดุงสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคให้คงอยู่สืบไป
ในช่วงต้นของการปราศรัย ปธน.ไล่ฯ ได้กล่าวต้อนรับคณะตัวแทน ทั้ง Ms. Robin Cleveland ประธาน USCC , Ms. Reva Price รองประธาน USCC และเหล่าอาคันตุกะ ซึ่งล้วนแต่เป็นมิตรสหายของไต้หวัน ที่เคยเดินทางมาเยือนไต้หวันแล้วในช่วงก่อนหน้านี้ โดยเมื่อ 2 เดือนก่อน Mr. Randall G. Schriver สมาชิกคณะกรรมาธิการ USCC ได้นำคณะตัวแทนเดินทางมาเยือนไต้หวัน และได้เข้าพบปะพูดคุยกับปธน.ไล่ฯ การเดินทางมาเยือนของคณะตัวแทนในครั้งนี้ หลังจากที่ปธน.ไล่ฯ ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำไต้หวันได้ไม่นาน นอกจากจะเป็นสักขีพยานในการเปิดบริบทใหม่ทางประชาธิปไตยของไต้หวันแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ อย่างต่อเนื่องอีกด้วย ปธน.ไล่ฯ รู้สึกยินดีและขอแสดงความขอบคุณด้วยใจจริง
ปธน.ไล่ฯ ยังแสดงความขอบคุณต่อเหล่าอาคันตุกะที่ให้การสนับสนุนไต้หวันมาอย่างยาวนาน ตลอดจนมุ่งมั่นเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางความร่วมมือระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ ในเชิงลึก ภายใต้การเสนอข้อเรียกร้องของ USCC รัฐสภาสหรัฐฯ ได้เสริมสร้างความร่วมมือระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ ผ่านการบัญญัติกฎหมายหลายฉบับ อาทิ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีมติให้ความเห็นชอบ “ร่างฎหมายว่าด้วยการจัดสรรงบประมาณช่วยเหลือความมั่นคงในภูมิภาคอินโด - แปซิฟิก” ซึ่งจะมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างศักยภาพการป้องกันประเทศด้วยตนเอง และการธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน
ปธน.ไล่ฯ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา USCC มุ่งให้ความสำคัญต่อความมั่นคงในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเป็นอย่างมาก เมื่อเผชิญกับการแผ่ขยายอิทธิพลของอำนาจเผด็จการ พวกเราตระหนักดีว่า การเสริมสร้างความมั่นคงของไต้หวัน ก็คือการเสริมสร้างความมั่นคงของภูมิภาค ซึ่งควบคู่ไปกับการส่งเสริมสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองของโลก
ปธน.ไล่ฯ เน้นย้ำว่า ในอนาคตพวกเราจะขมักเขม้นในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของไต้หวัน ปรับเปลี่ยนให้สังคมมีความทรหดในการปกป้องตนเองที่แกร่งกล้ามากยิ่งขึ้น เพื่อรับมือกับอุปสรรคความท้าทายที่กล้ำกรายเข้ามา อย่างไรก็ตาม จีนยังคงไม่ล้มเลิกการข่มขู่ไต้หวันด้วยกำลังทหารในช่องแคบไต้หวันและทะเลจีนใต้ ประกอบกับยังคงสร้างแรงกดดันทางความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แรงกดดันทางเศรษฐกิจและสงครามจิตวิทยา รวมไปถึงนิติสงคราม ฯลฯ และมีการยกระดับการรุกรานด้วยกลยุทธ์พื้นที่สีเทา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อบ่อนทำลายเสถียรภาพในภูมิภาค อย่างไรก็ตาม ไต้หวันจะทำหน้าที่รับผิดชอบในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวันอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการธำรงรักษาสถานภาพเดิมของช่องแคบไต้หวันและภูมิภาคอินโด - แปซิฟิก และหวังว่าประชาคมโลกจะร่วมเรียกร้องให้จีนยุติการกำหนดเงื่อนไขในการเปิดการเจรจาด้วยสันติวิธีกับไต้หวัน
ปธน.ไล่ฯ แถลงว่า ในด้านความมั่นคงทางเศรษฐกิจของไต้หวัน ปธน.ไล่ฯ ขอแสดงความขอบคุณสำหรับพลังการสนับสนุนจากรัฐบาลโจ ไบเดนและรัฐสภาสหรัฐฯ ที่ได้ส่งเสริมให้มีการจัดตั้ง “แผนริเริ่มทางการค้าไต้หวัน - สหรัฐฯ แห่งศตวรรษที่ 21” ซึ่งขณะนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมลงนามความตกลงร่วมกันในฉบับแรกแล้ว ซึ่งนอกจากจะเป็นการยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน - สหรัฐฯ แล้ว ยังมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างความทรหดทางเศรษฐกิจของไต้หวัน และความมั่นคงทางระบบห่วงโซ่อุปทานโลกอีกด้วย
ปธน.ไล่ฯ ระบุว่า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา กระทรวงเศรษฐการไต้หวันได้รวบรวมคณะตัวแทนผู้นำภาคธุรกิจเดินทางไปร่วมงานมหกรรม SelectUSA ซึ่งเป็นกิจกรรมส่งเสริมการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ซึ่งจัดขึ้น ณ กรุงวอชิงตัน ดีซี เพื่อแสวงหาโอกาสความร่วมมือของภาคอุตสาหกรรมทางเศรษฐกิจ ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ ที่เพิ่มพูนมากยิ่งขึ้น
Ms. Cleveland กล่าวขณะปราศรัยว่า คณะตัวแทนที่ร่วมเดินทางมาเยือนไต้หวันในครั้งนี้ ล้วนแต่มีจุดยืนที่ให้การสนับสนุนความสัมพันธ์ระหว่างไต้หวัน – สหรัฐฯ โดยวัตถุประสงค์การมาเยือนในครั้งนี้ ก็เพื่อหวังที่จะทำความเข้าใจกับแนวทางการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกัน ควบคู่ไปกับการแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจและการค้าแบบทวิภาคี ขณะเดียวกัน ก็ยังแสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการสนับสนุนทุกเมื่อที่ปธน.ไล่ฯ จำเป็นต้องเผชิญกับภัยคุกคามจากจีน โดย Ms. Cleveland แสดงทรรศนะว่า จีนนอกจากจะมีความทะเยอทะยานในการรุกรานประเทศในภูมิภาคแล้ว ยังมีพฤติกรรมแบบเดียวกันต่อประชาคมโลกอีกด้วย โดยรัฐบาลสหรัฐฯ ได้เพ่งเล็งพฤติกรรมจีนในมุมมองของประเด็นปัญหาระดับสากล ด้วยเหตุนี้ คณะตัวแทนจึงคาดหวังที่จะร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเชิงลึก พร้อมใช้โอกาสนี้แสดงความขอบคุณเจ้าหน้าที่ภาครัฐของไต้หวัน สำหรับการต้อนรับอันแสนอบอุ่น