New Southbound Policy Portal
กระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน วันที่ 13 ก.ย. 2567
เมื่อวันที่ 12 กันยายน ที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรของเนเธอร์แลนด์ได้มีมติสนับสนุนไต้หวันด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 150 คนจากทั้งหมด 147 คนเห็นชอบ โดยระบุว่า มติที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติฉบับที่ 2758ไม่ได้กำหนดว่าสาธารณรัฐประชาชนจีนมีอธิปไตยเหนือไต้หวัน และไม่ได้ตัดสิทธิ์การมีส่วนร่วมของไต้หวันในสหประชาชาติหรือองค์กรระหว่างประเทศอื่น ๆ
รัฐสภาของเนเธอร์แลนด์เป็นประเทศที่สองในโลกที่ผ่านมติแบบเดียวกันนี้ หลังจากที่ในเดือนกรกฎาคม 2567 ที่ประชุมประจำปีของกลุ่มพันธมิตรจีนแห่งรัฐสภาข้ามชาติ (IPAC) ได้มีมติเห็นชอบต่อ “แบบอย่างญัตติของรัฐสภาแต่ละประเทศตามมติที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติฉบับที่ 2758” และวุฒิสภาของออสเตรเลียได้ผ่านมติเช่นเดียวกันนี้ โดยที่เนเธอร์แลนด์เป็นประเทศแรกในยุโรปที่ผ่านมติดังกล่าว
นายเดวิด แลมมี่ (David Lammy) รัฐมนตรีต่างประเทศของอังกฤษ และนายแอนโทนี่ บลิงเคน (Antony Blinken) รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้จัดการประชุม “การเจรจาเชิงกลยุทธ์ระหว่างอังกฤษและสหรัฐฯ” (UK-US Strategic Dialogue) ครั้งแรกที่ลอนดอนในวันที่ 10 กันยายน 2567 และต่อมาในวันที่ 14 กันยายน 2567 ทั้งสองฝ่ายได้ออกแถลงการณ์ร่วมซึ่งยืนยันว่า สันติภาพและความมั่นคงในช่องแคบไต้หวันเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับความปลอดภัยและความเจริญรุ่งเรืองของประชาคมโลก และเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวันด้วยสันติวิธี
นอกจากนี้ เคิร์ต แคมป์เบลล์ (Kurt Campbell) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ และนายกาเบรียลิอุส แลนด์สเบิร์กิส (Gabrielius Landsbergis) รัฐมนตรีต่างประเทศลิทัวเนีย ได้ร่วมกันจัดการประชุม “การเจรจาเชิงกลยุทธ์ระหว่างลิทัวเนีย-สหรัฐอเมริกา” (Lithuania-U.S. Strategic Dialogue) ครั้งที่ 4 เมืองวิลนีอุส เมืองหลวงของลิทัวเนียในวันที่ 12 กันยายน ที่ผ่านมา และหลังจากเสร็จสิ้นการประชุม ทั้งสองฝ่ายได้ออกแถลงการณ์ร่วมซึ่งระบุว่า ทั้งสองฝ่ายสนับสนุนการสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งระหว่างไต้หวันและลิทัวเนีย รวมถึงสนับสนุนการมีส่วนร่วมอย่างมีความหมายของไต้หวันในการประชุมระหว่างประเทศต่างๆ