New Southbound Policy Portal

ปธน.สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) เข้าร่วมพิธีฉลองวันชาติสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ปีที่ 113

ทำเนียบประธานาธิบดี วันที่ 10 ต.ค. 67
 
เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 10 ตุลาคม 2567 ประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ผู้นำสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ได้เข้าร่วม “พิธีฉลองวันชาติสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ปีที่ 113” ณ จัตุรัสหน้าทำเนียบประธานาธิบดี พร้อมนี้ ปธน.ไล่ฯ ยังได้กล่าวสุนทรพจน์ในหัวข้อ A Beautiful Taiwan Today , A Better Taiwan Tomorrow
 
สุนทรพจน์ของปธน.ไล่ฯ มีสาระสำคัญ ดังต่อไปนี้ :
ความเป็นเอกภาพของสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) หยั่งรากลึกไว้ในไต้หวัน เผิงหู จินเหมิน และหมาจู่ มาอย่างยาวนาน ค่านิยมด้านประชาธิปไตยและเสรีภาพ เจริญเติบโตขึ้นในดินแดนแห่งนี้ ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับสาธารณรัฐประชาชนจีน ดังนั้น สาธารณรัฐประชาชนจีนจึงไม่มีสิทธิ์เป็นตัวแทนของไต้หวันในเวทีนานาชาติ
 
ในฐานะประธานาธิบดี พันธกิจของข้าพเจ้าคือ การธำรงปกป้องประเทศชาติให้คงอยู่และพัฒนาดียิ่งขึ้นไป ควบคู่ไปกับการหลอมรวมความสามัคคีของประชาชนชาวไต้หวัน จำนวน 23 ล้านคน ตลอดจนยืนหยัดมิให้อำนาจอธิปไตยของประเทศชาติถูกกลืนกินโดยประเทศอำนาจนิยม
 
พันธกิจของข้าพเจ้ายังรวมถึงการปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนทั้งหมดให้มีความมั่นคง พร้อมทั้งเดินหน้าตาม “แผนปฏิบัติการเพื่อสันติภาพ 4 มิติ” เสริมสร้างศักยภาพการป้องกันประเทศ ยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับพันธมิตรด้านประชาธิปไตย ในการร่วมแสดงพลังในการสกัดกั้นภัยคุกคาม ตลอดจนสร้างหลักประกันทางสันติภาพด้วยศักยภาพอันเข้มแข็งของตัวเอง รวมทั้งทำให้ประชาชนรุ่นต่อรุ่นสามารถมีชีวิตที่มั่นคงและเป็นปกติสุข
 
พันธกิจของข้าพเจ้าไม่เพียงเท่านั้น ยังต้องดูแลชีวิตและความเป็นอยู่ของชาวไต้หวันทั้ง 23 ล้านคน พัฒนาเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ขยายการลงทุนเพื่อสังคม และทำให้ผลสำเร็จของการพัฒนาเศรษฐกิจถูกแบ่งปันให้กับประชาชนทั้งหมด
 
อย่างไรก็ตาม ความท้าทายที่ไต้หวันต้องประสบ ไม่เคยขาดช่วง ความท้าทายของโลกก็ถือเป็นความท้าทายของไต้หวันด้วยเช่นกัน การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศของโลกได้ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน โรคระบาดที่เกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและชีวิตของมวลมนุษยชาติ การแผ่ขยายอิทธิพลของลัทธิอำนาจนิยม ก็ส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของกฎกติกาสากล และเป็นภัยคุกคามต่อเสรีภาพวิถีชีวิตแบบประชาธิปไตยที่พวกเราได้มาอย่างยากลำบาก
 
ด้วยเหตุนี้ ข้าพเจ้าจึงได้ก่อตั้ง  “คณะกรรมการยุทธศาสตร์การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ” “คณะกรรมการส่งเสริมไต้หวันสุขภาพดี” และ “คณะกรรมการความยืดหยุ่นทางสังคมแห่งชาติ” ภายใต้สังกัดทำเนียบประธานาธิบดี โดยทั้งสามองค์การข้างต้นล้วนมีความสัมพันธ์กับ “ความยืดหยุ่นของชาติ” ทั้งสิ้น
 
เราจำเป็นต้องเสริมสร้างกลไกการปรับตัวของไต้หวันเพื่อตอบสนองต่อความเสี่ยงจากความแปรปรวนของสภาพอากาศที่รุนแรง ควบคู่ไปกับการมุ่งผลักดัน “การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ครั้งที่ 2” อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างหลักประกันด้านเสถียรภาพของพลังงานไฟฟ้า พร้อมทั้งมุ่งสู่เป้าหมาย “การเปลี่ยนผ่านสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ภายในปี พ.ศ. 2593” ผ่านการพัฒนาพลังงานสีเขียว การประหยัดพลังงานและการกักเก็บพลังงานด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย
 
นอกจากนี้ พวกเรายังจำเป็นต้องยกระดับความยืดหยุ่นใน 4 มิติหลัก ได้แก่ “การป้องกันประเทศ” “ความเป็นอยู่” “การป้องกันและบรรเทาภัยพิบัติ” และ “ประชาธิปไตย” ยิ่งชาวไต้หวันมีความสามัคคีกันมากเท่าใด ประเทศชาติก็จะมีความมั่นคงมากขึ้นเท่านั้น หากสังคมไต้หวันยิ่งเตรียมพร้อมมากขึ้นเพียงใด ประเทศชาติก็ยิ่งปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น และช่องแคบไต้หวันก็จะมีทั้งสันติภาพและเสถียรภาพมากขึ้น
 
ไต้หวันมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพของช่องแคบไต้หวัน พร้อมทั้งมุ่งมั่นสร้างความมั่นคงและความเจริญรุ่งเรืองระดับสากล ตลอดจนยินดีประสานความร่วมมือกับจีนในการรับมือกับวิกฤตต่างๆ ข้างต้น เพื่อสร้างความผาสุกให้แก่ประชาชนของทั้งสองฝั่งช่องแคบไต้หวัน
 
ศักยภาพทางเศรษฐกิจของไต้หวันมิใช่ปาฏิหารย์ แต่เป็นผลจากการร่วมแรงร่วมใจของประชาชนทุกคน พวกเราจำเป็นต้องจับทิศทางแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของโลก ตามเป้าหมาย “นวัตกรรมทางเศรษฐกิจ” “ไต้หวันที่สมดุล” และ “การขยายตัวด้วยความยอมรับซึ่งกันและกัน” รวมทั้งรักษาบทบาทสำคัญของไต้หวันในระบบห่วงโซ่อุปทานแห่งประชาธิปไตยของโลก
 
ในอนาคต นอกจาก“อุตสาหกรรมนวัตกรรม 5+2” และ “6 อุตสาหกรรมยุทธศาสตร์หลัก” แล้ว ไต้หวันยังจะมุ่งผลักดันอุตสาหกรรมที่เชื่อถือทั้ง 5 ได้แก่ เซมิคอนดักเตอร์ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) อุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ ความมั่นคงทางไซเบอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาที่เจริญรุ่งเรือง อันเป็นการสร้างรากฐานในระดับสากล พร้อมกันนี้ พวกเรายังจะผลักดันการเปลี่ยนผ่านของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ให้สามารถขยายตลาดไปสู่ทั่วโลกต่อไป นอกจากนี้ พวกเรายังจะมุ่งผลักดันกลไกการดูแลเด็กอายุ 0-6 ปี และการดูแลผู้สูงอายุระยะยาว รวมถึงภารกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ขณะเดียวกัน พวกเราก็จะเร่งปฏิบัติภารกิจการปราบปรามการฉ้อโกงและขจัดปัญหาการเก็งกำไรราคาบ้าน
 
พร้อมกันนี้ ปธน.ไล่ฯ และภริยา พร้อมด้วยรองประธานาธิบดีเซียวเหม่ยฉิน ยังให้การต้อนรับคณะทูตานุทูต เหล่าผู้แทนรัฐบาลต่างประเทศที่ประจำการในไต้หวัน ซึ่งเดินทางมาเข้าร่วมแสดงความยินดีในพิธีฉลองวันชาติ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ปีที่ 113 ซึ่งประกอบด้วย Mr. Feleti Teo นายกรัฐมนตรีตูวาลู Mr. Cordel Hyde รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและเหมืองน้ำมันแห่งเบลีซ Mr. Montgomery Daniel รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ากระทรวงการคมนาคม โยธาธิการและการวางผังเมืองแห่งเซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ Ms. Alvina Reynolds ประธานวุฒิสภาเซนต์ลูเซีย Mr. Claudius Francis ประธานสภาผู้แทนราษฎรเซนต์ลูเซีย และ Mr. Gustav Aitaro รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสาธารณรัฐปาเลา รวมไปถึงเหล่าอาคันตุกะจากนานาประเทศอีกกว่า 140 คน ที่เข้าร่วมแสดงยินดีต่อปธน.ไล่ฯ และรองปธน.เซียวฯ ณ ทำเนียบปธน. เมื่อช่วงเช้าเวลา 09:30 น. ของวันเดียวกัน
 
นอกจากคณะตัวแทนของกลุ่มประเทศพันธมิตรแล้ว ยังมีแขกผู้มาเยือนจากมิตรประเทศ เช่น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ คณะตัวแทนสมาชิกสภาญี่ปุ่น Mr. Andrea Clare Bowman หัวหน้าคณะทูตานุทูตและเอกอัครราชทูตเซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์ รวมไปถึงหน่วยงานภาครัฐที่ประจำการอยู่ในไต้หวัน เช่น Mr. Raymond Greene ผู้อำนวยการใหญ่สถาบันอเมริกาในไต้หวัน Mr. Katayama Kazuyuki นายกสมาคมแลกเปลี่ยนญี่ปุ่น - ไต้หวัน สาขากรุงไทเป และ Mr. Lutz Guellner ผู้อำนวยการใหญ่สำนักงานเศรษฐกิจและการค้ายุโรปประจำไต้หวัน เป็นต้น