New Southbound Policy Portal

กระทรวงการต่างประเทศ วันที่ 14 ต.ค. 67
 
เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2567 ตามเวลาในฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้ประกาศจดหมายข่าว เพื่อแสดงความห่วงกังวลต่อการซ้อมรบของกองทัพปลดแอกประชาชนจีน (People's Liberation Army, PLA) ในพื้นที่ช่องแคบไต้หวันและพื้นที่โดยรอบของไต้หวัน พร้อมชี้ว่า เป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลเป็นอย่างมากเกี่ยวกับการที่จีนมีปฏิกริยาที่รุนแรงต่อสุนทรพจน์ของประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ในพิธีฉลองวันชาติ สาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน) ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติแต่ดั้งเดิมของไต้หวัน อีกทั้งยังทำให้สถานการณ์ทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ สหรัฐฯ จึงขอเรียกร้องให้จีนยุติพฤติกรรมที่อาจบ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันและในภูมิภาค โดยสหรัฐฯ จะเฝ้าจับตาต่อพฤติกรรมของจีน ควบคู่ไปกับการประสานภารกิจกับกลุ่มพันธมิตรและหุ้นส่วนต่อไป
 
ในช่วงค่ำของวันที่ 14 ตุลาคม 2567 ตามเวลาไต้หวัน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหภาพยุโรป (European External Action Service, EEAS) ได้ประกาศแถลงการณ์ว่าการซ้อมรบ Joint Sword-2024B ของจีนทำให้ความตึงเครียดระหว่างสองฝั่งช่องแคบไต้หวันเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง พร้อมย้ำถึงความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ของสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน ที่มีต่อความมั่นคงและความรุ่งเรืองทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก สหภาพยุโรปมีผลประโยชน์โดยตรงต่อการรักษาสถานะเดิมของช่องแคบไต้หวัน และขอคัดค้านการเปลี่ยนแปลงสถานะเดิมด้วยกำลังหรือการข่มขู่ฝ่ายเดียว และขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายแสดงความอดทนอดกลั้น หลีกเลี่ยงการกระทำใด ๆ ที่จะเพิ่มความตึงเครียดในช่องแคบไต้หวัน และใช้วิธีการเจรจาในการแก้ไขความขัดแย้ง
 
ในวันเดียวกันนี้ นายชิเงรุ อิชิบะ (Shigeru Ishiba) นายกรัฐมนตรีของประเทศญี่ปุ่นได้ให้สัมภาษณ์ในประเด็นเกี่ยวกับการจัดการซ้อมรบของจีนในพื้นที่รอบน่านน้ำของไต้หวันว่า “สันติภาพและความมั่นคงในช่องแคบไต้หวันและพื้นที่รายรอบของไต้หวัน มีความสำคัญต่อญี่ปุ่นและภูมิภาคเป็นอย่างยิ่ง รัฐบาลญี่ปุ่นจะเฝ้าจับตาต่อสถานการณ์ข้างต้น พร้อมทั้งเตรียมการรับมืออย่างเต็มที่” กต.ไต้หวันขอขอบคุณต่อนรม. อิชิบะ ที่ร่วมแสดงความกังวลอย่างเปิดเผย ตลอดจนแสดงจุดยืนในการสนับสนุนสันติภาพและเสถียรภาพของช่องแคบไต้หวันอย่างเต็มที่
 
การธำรงรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน ได้กลายเป็นฉันทามติของประชาคมโลกไปแล้ว จากเหตุการณ์ข้างต้นจะเห็นได้ว่า จีนฉวยโอกาสในการใช้มาตรการข่มขู่และสร้างแรงกดดันต่อไต้หวันอย่างไม่สมเหตุสมผล ถือเป็นการบ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันและภูมิภาคอินโด - แปซิฟิก กต.ไต้หวันจึงขอใช้โอกาสนี้เรียกร้องให้จีนกลับสู่เส้นทางความถูกต้อง รวมทั้งยุติพฤติกรรมใดๆ ที่เป็นการสร้างภัยคุกคามต่อไต้หวันและสร้างสถานการณ์ตึงเครียดในภูมิภาค ไต้หวันจะมุ่งยกระดับศักยภาพการป้องกันประเทศชาติด้วยการพึ่งพาตนเองอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนร่วมปกป้องความสงบเรียบร้อยระหว่างประเทศบนพื้นฐานกฏกติกาสากล เคียงคู่กลุ่มประเทศที่มีแนวคิดคล้ายคลึงกัน เช่น สหรัฐฯ และญี่ปุ่น ต่อไป